ขายขนมไทย ไอเดียอาลัวกุหลาบ พลิกชีวิตจากติดลบสู่อาชีพยั่งยืน

ขายขนมไทย อีกหนึ่งอาชีพที่อยู่คู่คนไทยมาตลอด แม้ว่าขนมไทยจะเป็นขนมเก่าแก่ที่กำลังจะเลือนหายไปจากสังคมไทย เนื่องจากเด็กรุ่นใหม่ต่างก็หันไปให้ความนิยมกับขนมต่างชาติกันหมด แต่ก็ยังมีอีกหลายผู้ประกอบการหัวใสที่คิดเอาขนมไทยมาประยุกต์ขายในรูปแบบที่แตกต่างออกไปและสามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืน ครั้งนี้ก็เช่นกันกับผู้ประกอบการรายหนึ่งที่ขายขนมไทยด้วยดีไซน์แตกต่างกับอาลัวดอกกุหลาบที่ไม่เหมือนกับอาลัวทั่วๆ ไป

รวมศูนย์ฝึกอาชีพ “เรียนทำขนมไทย” ล่าสุด คลิ๊ก>>

20 เมนูขนมทานเล่นสุดฮิต ทำเงิน คลิ๊ก>>

รวมขายส่ง “ขนมไทย” ปังปี๊บ ขนมหวาน คลิ๊ก>>

ขายขนมไทย อาลัวกุหลาบ เป็นไอเดียของ “คุณณัฐนิช กอเจริญ” หรือ “คุณนกยูง” เริ่มต้นธุรกิจนี้จากความล้มเหลวในธุรกิจก่อนหน้า กระทั่งขาดทุนและเป็นหนี้สินจำนวนมากเมื่อ 5 ปีก่อน ภายหลังจึงคิดอยากหาอาชีพใหม่มาทดแทน เพื่อสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวอีกครั้ง พร้อมกับการหาเงินใช้หนี้ด้วย กระทั่งได้มีโอกาสรู้จักกับแม่เพื่อน ซึ่งเปิดโรงงานทำขนมหวานอยู่ที่เพชรบุรี จึงได้รับความรู้เกี่ยวกับการทำขนมไทยมา และคิดอยากขายขนมไทยบ้าง แต่ในการขายจะต้องไม่เหมือนคนอื่น เพราะถ้าหากขายแบบเดิมๆ ก็คงจะแข่งขันกับคนอื่นได้ยาก

กระทั่งคุณนกยูงได้ไปเจอคลิปสอนทำขนมในอินเตอร์เน็ตและพบกับคลิปหนึ่งซึ่งสอนบีบครีมเป็นรูปดอกกุหลาบ คุณนกยูงจึงลองบีบแป้งอาลัวเป็นดอกกุหลาบบ้าง และลองนำมาโพสต์ขายบน Facebook ปรากฎว่าผลตอบรับดีเกินคาด จึงทำขายเป็นอาชีพเต็มตัว โดยใช้สูตรการทำอาลัวจากแม่เพื่อนที่ได้รับความรู้มาในตอนนั้น แต่มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยในเรื่องของความหวาน ซึ่งคุณนกยูงได้ปรับความหวานให้ลดลงกว่าสูตรดั้งเดิม เนื่องจากสูตรการทำขนมที่เพชรบุรีจะเน้นหวานมาก เพราะความหวานจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาให้ขนมอยู่ได้นาน แต่เมื่อปรับความหวานลงจะเก็บได้สั้นลงเพียง 1 เดือนเท่านั้น แต่ดีต่อสุขภาพมากกว่าและสอดคล้องความต้องการของคนรุ่นใหม่มากกว่า

การขายขนมไทยอาลัวกุหลาบ เปิดขายบนช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เนื่องจากเป็นช่องทางที่ใช้ต้นทุนต่ำ แต่ภายหลังก็ได้มีการขยับขยายมาขายออฟไลน์ด้วยที่ตลาดนัดคลองลัดมะยม ผลตอบดีต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่จากกลุ่มผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่อยากมีอาชีพที่ให้ความสนใจกับการขายขนมไทยอาลัวกุหลาบเช่นกัน คุณนกยูงจึงเปิดสอนในที่สุด เพื่อสร้างอาชีพให้ผู้สนใจ ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนเข้ามาเรียนหลายร้อยคน โดยค่าเรียนที่คุณนกยูงกำหนดไว้อยู่ที่ 2,000 บาทต่อคอร์ส

ในการขายขนมไทยอาลัวกุหลาบนั้นได้รับการตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลอย่างวาเลนไทน์ จะมีออร์เดอร์เข้ามามาก กลุ่มลูกค้ามีทั้งกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มคนทำงาน ถือเป็นการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ว่าต้องการให้เด็กรุ่นใหม่ได้ซึมซับกับขนมไทยบ้าง โดยขนมอาลัวกุหลาบก็เป็นอีกหนึ่งขนมไทยที่เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้อย่างง่ายดาย ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามและแปลกใหม่ของตัวขนมเอง ในส่วนของราคาขายจะอยู่ที่ดอกละ 10 บาทราคาเดียวไม่ว่าจะช่วงเวลาปกติหรือช่วงเทศกาล

สำหรับช่องทางการขายอาลัวกุหลาบ ได้แก่ Facebook บนหน้าเพจที่มีชื่อว่า “บ้านอาลัว ครูนกยูง” สามารถติดต่อเรื่องการสมัครเรียนคอร์สทำอาลัวกุหลาบได้ผ่านช่องทางนี้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีขายที่ตลาดนัดคลองลัดมะยม และมีนักเรียนของคุณนกยูงเองทำขายด้วย ซึ่งคุณนกยูงไม่ได้มองว่าเป็นคู่แข่ง แต่ชิ้นงานของแต่ละคนก็ล้วนมีเอกลักณ์เป็นของตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าจะชอบฝีมือของใครมากกว่า ปัจจุบันธุรกิจอาลัวกุหลาบของคุณนกยูงดำเนินการมากว่า 5 ปี ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะสามารถหาเงินไปใช้หนี้ได้ครบและกลายเป็นอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน