สมัยนี้ตอนที่การ “ขายของออนไลน์” กำลังเป็นที่นิยม หลายๆคนถามผมว่า อยากจะขายของออนไลน์ แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี ไม่รู้จะเลือกอะไรมาขายดี วันนี้ผมเลยอยากจะมาเขียนวิธีการเริ่มขายของออนไลน์ ฉบับเต็มครับ ก่อนที่ผมจะมาเขียนโพสนี้ผมก็เข้าไปดูสถิติให้แน่ใจก่อนครับ ว่าการค้าขายออนไลน์บ้านเราเป็นยังไง ปรากฎว่าการขายของออนไลน์ตอนนี้ของเรากำลังอยู่ในขาขึ้น ผมคิดว่าตอนนี้คือโอกาสดีเลยครับ ที่จะเริ่มขายของออนไลน์
อันดับแรกก่อนที่จะขายของออนไลน์ได้ เราต้องรู้ก่อนใช่ไหมครับว่าเราจะขายอะไร เพราะฉนั้น เรามาเริ่มกันจากการหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่จะเอามาขายได้กันก่อนเลยดีกว่าครับ
วิธีการหาสินค้าที่จะเอามาขาย
สิ่งที่ควรจะเข้าใจก่อนเลยก็คือ สินค้าที่จะนำมาขายออนไลน์ได้ ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ก่อน ไม่งั้นเรื่องปวดหัวตามมาแน่นอนครับ
สินค้าไม่ควรจะแตกง่าย – เพราะเราต้องไปพึ่งบริษัทส่งของเขาส่งให้กับเรา เราไม่รู้ว่าเขาจะดูแลสินค้าของเราดีแค่ไหน ถ้าเกิดสินค้ามีปัญหาขึ้นมา ลูกค้าโวยวาย มีเรื่องกันอีก เพราะฉนั้นคุณควรที่จะตัดปัญหาด้วยการที่ไม่ขายสินค้าที่แตกง่ายไปเลยครับ
สินค้าไม่ควรใหญ่มาก – ตัวคุณจะประหยัดค่าขนส่งและจัดเก็บของง่ายด้วยครับ เพราะคนที่เริ่มขายของออนไลน์ใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะเริ่มจากที่บ้าน เพราะฉนั้นควรจะเลือกสินค้าที่ไม่ใหญ่เกินไป เช่น โซฟา และ เฟอร์นิเจอร์ทั้งหลายครับ
สินค้าที่ราคาไม่สูงมาก – ราคาสินค้าของคุณควรจะไม่เกิน 1,000 บาทครับ มันจะได้ขายง่ายๆ ถ้าเกินกว่านั้น มันก็จะขายได้ แต่จะใช้เวลาและจะขายได้จำนวนที่น้อยกว่าครับ
สินค้าควรจะมีคนตลอด – ผมหมายถึงสินค้าที่คนสามารถซื้อได้ตลอดปี ไม่ใช่แค่ช่วงเทศกาลหรือวันสำคัญครับ
ตอนนี้ถึงเวลามาหากันแล้วครับ
เดินดูสินค้าตามตลาดนัด – ตลาดนัดจะเป็นที่ๆ เราสามารถไปดูไอเดียได้ว่า ของอะไรที่ขายดีในตอนนี้ ลองไปเดินดูหลายๆตลาดนัดนะครับ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ อาจจะเอาปากกากับกระดาษไปจดด้วย (หรือไม่ก็ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูป) ว่าสินค้าอะไรขายดีบ้าง
ถามเพื่อนและคนที่รู้จัก – ลองถามดูว่าสินค้าอะไรที่เขาต้องใช้อยู่ทุกๆวัน และขาดไม่ได้เลย หรือสินค้าที่เขาเห็นว่ากำลังมาแรงตอนนี้ และเขาเห็นว่าคนเริ่มใช้กันเยอะ
เทคนิค: อย่าบอกนะครับ ว่าถามทำไม ถ้าคุณถาม เขาจะตอบ + ความเป็นไปได้ของสินค้าว่าจะขายดีหรือเปล่าไปด้วย คนส่วนใหญ่ไม่มีประสบการณ์ทางธุรกิจครับ เพราะฉนั้นอย่าถามเลยครับ เดี๋ยวจะสับสนเปล่าๆ
ดูรอบๆตัวเอง – ลองมองไปรอบๆตัวเองนะครับ ที่บ้าน, ที่ทำงาน, ร้านกาแฟที่ไปนั่งทาน หรือร้านอาหารที่ไปกิน และลองจดมาว่าสินค้าอะไรคุณคิดว่าจะขายดี
หาของซื้อมากขายที่ไหนดีถูกๆ
สมัยนี้การหาที่ซื้อของถูกๆมาขายมันมีเยอะแล้วครับ ไม่เหมือนเมื่อก่อน สำหรับโพสต์นี้ ผมจะเลือกสินค้าของผมเป็น ที่จับโทรศัพท์ในรถยนต์ แล้วกันครับ
ตอนนี้ผมได้ไอเดียในหัวผมละ ผมก็จะไปเว็ปโปรดของผมคือ alibaba ครับ สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่า alibaba คืออะไร มันคือเว็ปที่รวมสินค้าขายส่งจากโรงงานในประเทศจีนครับ เราสามารถหาสินค้าที่เราชอบ แล้วซื้อมาขายได้เลย
หน้าตาของเว็ปเป็นแบบนี้ครับ
ตอนนี้ผมจะไปค้นหาสินค้าที่ผมอยากจะเอามาขาย ผมใส่คำว่า “phone holder car” เสร็จแล้วกด “search” เลยนะครับ ไม่ต้องสนใจตัวแนะนำที่ขึ้นมาข้างล่างครับ
ตอนนี้ผมก็ลองเลื่อนหาสักแปป ผมเห็นสินค้าตัวนี้ราคาโดนมากเลยครับ ราคาตกอยู่แค่ 17 – 62 บาท ต่ออัน ขึ้นอยู่กับว่าเราสั่งเยอะแค่ไหน
แต่ข้อเสียคือ ออเดอร์อย่างต่ำต้อง 1000 ชิ้นขึ้นไป สำหรับคนขายใหม่อย่างผม ผมคงผ่านดีกว่า
เจออันใหม่แล้วครับ ราคาดีแล้วสั่งขั้นต่ำแค่ 100 ชิ้น อันนี้ผมรับได้
ผมลองคลิกเข้าไปคุยกับคนขายก่อน ถ้ามีคำถามอะไรจะได้ถามเขาได้ครับ Alibaba ดีอย่างหนึ่งคือเราสามารถคุยกับทางโรงงานตรงๆได้เลย (ก่อนที่คุยได้ต้องสมัครสมาชิกก่อนนะครับ สมัครไม่เกิน 5 นาทีครับ)
ก่อนที่ผมจะซื้อสินค้าตัวนี้มาขาย ผมต้องมั่นใจก่อนว่าผมจะสามารถขายสู้ราคากับคนอื่นได้ เพราะฉะนั้นผมต้องไปหาดูคร่าวๆว่าเจ้าอื่นเขาขายกันยังไงครับ
เริ่มง่ายๆด้วยกันค้นหาใน Google ก่อนเลย แต่ผมจะเน้นไปดูที่ Lazada
ดูจากราคาแล้ว เราสู้ได้แน่นอนครับ เพราะต้นทุนเรายังไม่ถึง 35 บาท ยังไงก็ขายได้ครับ
ในเมื่อผมมั่นใจขนาดนี้แล้ว ผมก็กลับไปที่เว็ป Alibaba เพื่อขอให้เขาส่งบิลมาให้ครับ จากนั้นก็จ่ายเงินเขา
(ไม่ใช่รูปของผมนะครับ)
หลังจากจ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะมาที่หน้าเพจแบบนี้ครับ
(ไม่ใช่รูปของผมนะครับ)
ระหว่างรอสินคา อย่าอยู่เฉยๆนะครับ เรามาคิดกันเลยดีกว่าว่าจะตั้งราคาเท่าไหร่ แล้วขายเท่าไหร่ดี
ขายที่ไหน ถึงจะขายดี?
จากประสบการณ์ของผม ผมแนะนำให้เริ่มจาก 3 ที่ก่อนเลยนะครับ ได้แก่
1. Shopee
2. Lazada
3. Facebook
ผมจะสอนทำคร่าวๆนิดหน่อยนะครับ แล้วผมจะบอกรายละเอียดด้วยว่า ในแต่ละที่นี้มันมีข้อแกร่งและข้อด้อยของมันยังไง มาเริ่มกันเลยครับ
ลงขายบน Shopee
เหตุผลที่ผมเอา Shopee ขึ้นก่อนเพราะว่าส่วนตัวผมแล้ว ผมเห็นว่า Shopee เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทั้งคนซื้อและคนขายครับ และลูกค้าสามารถคุยกับทางร้านได้โดยตรงหากมีคำถามอะไร ทำให้ลูกค้ากล้าตัดสินใจซื้อกับเรามากขึ้นครับ ผมจะมาสอนคร่าวๆก่อนนะครับ ว่าลงขายยังไง ผมทำในคอมนะครับ ถ้าเป็นโทรศัพท์จะง่ายกว่านี้ครับ ผมจะเอารูปให้ดูตอนท้ายนะครับ
ตอนนี้เราอยู่หน้าเว็ปแล้วนะครับ ถ้ายังไม่มีบัญชี สมัครโดยการกดตรงนี้ แล้วกรอกข้อมูลนิดหน่อย
กดปุ่ม “ขาย” ต่อครับ
คลิก “สินค้าของฉัน”
คลิก “เพิ่มสินค้า”
กดตรงนี้เพื่อลงรูปสินค้าครับ
หลังจากลงหมดแล้ว กรอกข้อมูลให้หมดนะครับ หน้าตาจะออกมาเป็นแบบนี้ครับ
เสร็จแล้วก็เลื่อนลงมาข้างล่างสุดของหน้า page แล้วกด “บันทึก” ครับ
แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ สำหรับ Shopee
ถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือ กดตรงนี้เลยครับ ง่ายกว่าในคอมเยอะเลย
แล้วก็กดเข้าไปเพิ่มรูปอะไรเหมือนที่เราทำมาเมื่อกี้ครับ แค่นี้ก็เสร็จแล้ว
ลงขายใน Facebook
ส่วนตัวผม ผมชอบขายในเฟสนะครับ ดีเหมือน Shopee แต่จะไม่มีความน่าเชื่อถือเท่าไหร่ เพราะมันเหมือนคนเอาของที่ไม่ใช้แล้วมาขายมากกว่า แต่ผมว่ามันขึ้นอยู่กับรูปที่เอามาลงมากกว่า
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ เราอยู่หน้า page ของ Facebook แล้วกดตรงนี้ครับ ผมไม่รู้ว่าระบบภาษาไทยเขาใช้คำว่าอะไร
กดตรงนี้เพื่อเริ่มลงขายได้เลยครับ
กดเสร็จมันจะมีหน้าต่างแบบนี้ออกมาครับ ลงรูปและกรอกข้อมูลให้เสร็จสับนะครับ เสร็จแล้วก็กด “post” ได้เลยครับผม
เป็นอันเสร็จสับในการลงขายบน Facebook ครับ
ลงขายใน Lazada
เท่าที่ผมไปคุยๆกับคนขายใน Lazada มา ผมเห็นหลายๆคนบ่น แต่ยังไงผมก็คิดว่า ลูกค้าหลายๆคนก็ยังเลือกซื้อของจาก Lazada อยู่ดี เพราะฉะนั้นเราจะเสียโอกาสเปล่าๆ ถ้าเราไม่ลองขายใน Lazada ดู ถ้าขายแล้วไม่ดีค่อยเลิกครับ ดีกว่าไม่ได้ลอง
ถ้าเราเข้ามาหน้าแรกคลิก “สมัครสมาชิก” แล้วจะเห็นหน้านี้นะครับ
สำหรับผม ผมเลือกเข้าแบบใช้ gmail ครับ หรือใครจะเข้าโดยใช้ Facebook ก็ได้เหมือนกัน
เสร็จแล้วกดตรงนี้เลยครับ
กดตรงนี้ต่อครับ
จากนั้นก็กรอกข้อมูลตรงนี้เลยครับ
สิ่งสำคัญที่ควรจำ ก่อนที่จะลงขาย
อย่าใช้รูปที่โรงงานมี
พยายามอย่าใช้รูปที่โรงงานให้มานะครับ ถึงแม้จะเป็นรูปที่ดีก็ตาม เพราะมันจะมีโอกาสที่คู่แข่งของคุณจะมาขายสินค้าตัวนี้เหมือนกัน และเขาอาจจะใช้รูปเดียวกัน แล้วถ้าเขายิ่งตัดราคาคุณอีก จะขายยากมากครับ
ถ่ายรูปสินค้าเองมันจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของร้านคณ ส่วนตัวผมแล้ว ถ้าผมเห็นร้านที่ใช้รูปที่มีภาษาจีนหรืออะไรด้วย ผมจะไม่เชื่อใจเขาทันทีเลยครับ ในหัวผมจะคิดว่า เขาอาจจะขายของไม่ดีหรือไม่เขาก็ขี้เกียจที่จะถ่ายเองมาก
รูปไม่จำเป็นต้องเป็นรูปมืออาชีพนะครับ แบบนี้ก็พอแล้วครับ อันนี้ผมถ่ายให้ดูครับ
– ถ้าถ่ายจริงๆ เอาให้ดีกว่านี้หน่อยนะครับ ฮ่าๆ
อย่าใช้ก็อปรายละเอียดจากโรงงาน
อันนี้ผมเจอบ่อยครับ บางเจ้านี้ขี้เกียจมากจนก็อปมาทั้งหมดเลย คุณควรจะทำความเข้าใจว่าสินค้ามันคืออะไร แล้วค่อยสรุปลงมาในรายละเอียดสินค้าครับ
ผมมีตัวอย่างมาให้ดูนิดหน่อยครับ อันนี้ไม่มีรายละเอียดเลย
ตัวอย่างที่ดีเป็นแบบนี้ครับ
อย่าตั้งราคาสูงเกิน หรือ ต่ำที่สุด
พยายามเลือกราคาที่อยู่ระหว่างกลางๆนะครับ เพราะ ถ้าลูกค้าเห็นว่าราคาสินค้าของคุณต่ำเกินไป เขาจะส่งสัยว่าสินค้าดีจริงหรือเปล่า แล้วถ้าตั้งราคาสูงเกินเขาก็จะคิดว่าคุณขายเกินราคา เพราะฉะนั้นให้ตั้งราคาอยู่ประมาณกลางๆครับ
เสร็จแล้วครับ!
แค่นี้คุณก็เริ่มขายของออนไลน์ได้แล้วครับ ในโพสต์ต่อไปผมจะพูดถึงการโฆษณาและทำยังไงให้ขายของได้เยอะๆ และรวยๆกันครับ
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ ZoZav