ธุรกิจเบเกอรี่ เค้กโฮมเมด ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ สร้างอาชีพสร้างรายได้เสริม

ธุรกิจเบเกอรี่ ธุรกิจเบเกอรี่ เค้กโฮมเมด ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ

ธุรกิจเบเกอรี่ เค้กโฮมเมด ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ สร้างอาชีพสร้างรายได้เสริม

ธุรกิจเบเกอรี่ยังคงเป็นอะไรที่สามารถทำเงินได้อย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่ายังคงอยู่ในความฝันของใครหลายๆ คนที่กำลังอยากเป็นมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เนื่องจากเบเกอรี่เป็นเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมสูง อีกนัยหนึ่งยังเป็นงานศิลปะที่หลายคนชื่นชอบอีกด้วย และหลายท่านน่าจะคุ้นหูกับคำว่า “เค้กโฮมเมด” เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก

ธุรกิจเบเกอรี่และคำนิยามของเค้กโฮมเมด

นิยามของคำว่าเค้กโฮมเมดนั้นก็คือการทำเค้กด้วยตัวเอง ภายในบ้านของตัวเอง แตกต่างจากการรับเค้กสำเร็จมาจำหน่ายต่อเพื่อสร้างกำไร ดังนั้นธุรกิจเบเกอรี่ที่เกี่ยวกับการจำหน่ายเค้กโฮมเมดนั้น ผู้ขายจะต้องทำหน้าที่มากกว่าการขาย แต่จะต้องลงมือเองทุกขั้นตอนตั้งแต่การผลิต หรือเรียกได้ว่าเป็นทั้งผู้ขายและเป็นทั้งผู้ผลิตในคราวเดียวกัน สามารถผลิตได้ในบ้านไม่จำเป็นต้องมีโรงงาน และสามารถเรียนรูปวิธีการทำได้จากสื่อการสอนต่างๆ อาทิ หนังสือ อินเตอร์เน็ต เป็นต้น ไม่จำเป็นต้องลงคอร์สเรียน วัตถุดิบที่ใช้ต่างๆ จะมีคุณภาพสูงกว่าวัตถุดิบผลิตเค้กในโรงงาน

ธุรกิจเบเกอรี่ เค้กโฮมเมด ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ

ธุรกิจเบเกอรี่เปรียบเทียบการขายเค้กโฮมเมด & รับเค้กมาขาย

หากเปรียบเทียบระหว่างการขายเค้กโฮมเมดและการรับเค้กมาขาย ก็มีข้อดีและข้อด้อยแตกต่างกันออกไป ซึ่งเหมาะและสอดคล้องกับผู้ลงทุนแต่ละรายที่แตกต่างกัน

1.เวลา

ในเรื่องของเวลา หากเปรียบการทำธุรกิจเบเกอรี่เค้กโฮมเมดกับการรับเค้กมาขาย เชื่อว่าการรับเค้กมาขายจะได้เปรียบกว่าการขายเค้กโฮมเมดอยู่มาก เนื่องจากการรับเค้กมาขายนั้นผู้ประกอบการไปต้องเสียเวลามานั่งทำเองให้ยุ่งยาก การเริ่มต้นธุรกิจก็ไม่ต้องเรียนรู้วิธีทำ สามารถหาแหล่งจำหน่ายเค้กราคาส่งและรับมาขายได้เลย แต่การขายเค้กโฮมเมดจะต้องเรียนรู้ตั้งแต่วิธีการทำ เรียนรู้เรื่องแหล่งวัตถุดิบ ทำให้การเริ่มต้นธุรกิจใช้เวลาค่อนข้างมาก อีกทั้งระหว่างการขายซึ่งต้องผลิตสินค้าด้วยตัวเอง ก็สิ้นเปลืองเวลามากกว่าการรับเค้กมาขายเช่นกัน

2.ต้นทุน

ด้านต้นทุน หากเปรียบเทียบการลงทุนในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ การลงทุนของเค้กโฮมเมดจะสูงกว่าการรับเค้กมาขาย เนื่องจากการขายเค้กโฮมเมดต้องมีในเรื่องของอุปกรณ์และวัตถุดิบ ขณะที่การรับเค้กมาขายไม่ต้องลงทุนในส่วนนี้เลย แต่ในด้านต้นทุนของสินค้า เนื่องจากการทำเค้กโฮมเมดขายเป็นการซื้อวัตถุดิบมาผลิตเป็นเค้กเพื่อจำหน่าย ต้นทุนต่อหน่วยย่อมต่ำกว่าการรับเค้กมาขาย เช่น ซื้อวัตถุดิบมา 200 บาท สามารถผลิตเค้กได้ 20 ชิ้น ต้นทุนต่อหน่วยอยู่ที่ 10 บาทต่อชิ้น แต่การรับเค้กมาขายอาจมีต้นทุนอยู่ที่เค้กชิ้นละ 20 บาท ในขณะที่รูปร่างและขนาดของสินค้าไม่แตกต่างกัน เป็นต้น แต่ถ้าหากต้นทุนต่อหน่วยของเค้กนั้นเท่ากัน เค้กโฮมเมดย่อมมีคุณภาพที่สูงกว่า

ธุรกิจเบเกอรี่ เค้กโฮมเมด ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ

3.คุณภาพ

ด้านคุณภาพเห็นได้ชัดเจนว่าการดำเนินธุรกิจเบเกอรี่ในสินค้าเค้กโฮมเมดย่อมมีคุณภาพมากกว่าการธุรกิจเบเกอรี่แบบรับมาขายไป เนื่องจากเค้กโฮมเมดผู้ประกอบการสามารถคัดเลือกวัตถุดิบได้ด้วยตนเอง ควบคุมการผลิตเอง ทำให้ได้สินค้าที่สดสะอาดและได้มาตรฐานมากกว่าการรับมาขาย กลุ่มลูกค้าส่วนมากยังให้ความนิยมในสินค้าโฮมเมดมากกว่าอีกด้วย

4.ความยากง่าย

ความยากง่ายในการดำเนินธุรกิจเบเกอรี่เค้กโฮมเมดย่อมซับซ้อนกว่าการการรับเค้กมาขายมาก เพราะต้องเริ่มต้นตั้งแต่การจัดหาอุปกรณ์การทำ จัดหาวัตถุดิบราคาต่ำแต่มีคุณภาพที่พึงพอใจ ต้องเรียนรู้วิธีการผลิตสินค้าด้วยตนเอง และต้องผลิตเองทุกขั้นตอน ทำให้ความยากมีมากกว่าการรับเค้กมาขายค่อนข้างมาก

5.กำไร

กำไรต่อหน่วยสำหรับการขายเค้กโฮมเมดย่อมสูงกว่าการรับเค้กมาขาย เนื่องจากต้นทุนต่อหน่วยต่ำกว่า ทำให้ได้กำไรมากกว่า อีกทั้งในเรื่องของคุณภาพสินค้าที่ในหลายๆ ครั้ง ยังสามารถอัพราคาได้สูงอีกด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับเค้กคุณภาพโรงงานย่อมตั้งราคาขายได้สูงกว่ามาก ทำให้ได้กำไรมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น เค้กโฮมเมดที่รับสั่งตามออร์เดอร์ เป็นต้น ที่สามารถอัพราคาได้สูง และลูกค้ายินดีจ่าย

ธุรกิจเบเกอรี่ เค้กโฮมเมด ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ

ข้อดีของการขายเค้กโฮมเมด
  1. สินค้าสดใหม่และสะอาด
  2. สามารถควบคุมการผลิตได้ด้วยตนเอง
  3. สามารถทำในบ้านของตัวเองได้และขายผ่านออนไลน์ ไม่ต้องเสียค่าเช่าที่
  4. สามารถดีไซน์ผลงานได้ตามใจชอบ
  5. สินค้ามีมูลค่าสูง สามารถอัพราคาเพิ่มกำไรได้ เช่น เค้กสั่งทำตามออร์เดอร์
  6. เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพได้ด้วยสินค้าสดใหม่ ไม่ใช่สารกันเสีย และสินค้าที่สะอาด

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวของการทำธุรกิจเบเกอรี่ที่เกี่ยวข้องกับการขายเค้กโฮมเมด เพื่อสร้างอาชีพหลักและอาชีพเสริมที่เหมาะสมกับผู้ประกอบการแต่ละราย

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : campaign.hkjc.com, https://divascancook.com, Pinterest, www.foodnetwork.com

แสดงความคิดเห็น