ธุรกิจเอสเอ็มอี แมลงทอดอัดกระป๋อง ธุรกิจสุดแปลก แนวคิดติดแบรนด์ “ภูฟาร์ม”

ธุรกิจเอสเอ็มอี แมลงทอดอัดกระป๋อง
ธุรกิจสุดแปลก แนวคิดติดแบรนด์ “ภูฟาร์ม”

ธุรกิจเอสเอ็มอี อีกหนึ่งสิ่งที่คู่ควรของผู้ประกอบการขนาดเล็ก สู่การสร้างรายได้ที่ยั่งยืนและมั่นคง วันนี้เราก็มีอีกหนึ่งสาขาอาชีพมาฝากในหมวดหมู่ของธุรกิจเอสเอ็มอีเช่นกัน กับการสร้างผลผลิตจัดจำหน่ายในท้องตลาด มีการนำเมนูพื้นบ้านทานง่ายมาบรรจุกระป๋อง ผ่านกรรมวิธีที่ได้มาตรฐานและสะอาด ถูกหลักโภชนาการ ทั้งยังสร้างแบรนด์จากผลผลิตเกษตรได้อย่างน่าสนใจ

ธุรกิจเอสเอ็มอี ในครั้งนี้เกี่ยวกับ “แมลงทอด” หลายคนคงคุ้ยเคยกับเมนูนี้ที่มักขายตามมอเตอร์ไซค์ ตระเวนขายไปยังพื้นที่ต่างๆ และได้รับความนิยมจากกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบการทานแมลงทอด แต่การขายในรูปแบบนั้นอาจไม่ได้มาตรฐานมากนัก เนื่องจากสินค้าไม่ได้มีการสร้างบรรจุภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน บวกกับโรงงานผลิตก็เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคมองไม่เห็น หรือไม่อาจรู้ได้ว่าโรงงานเหล่านั้นหน้าตาเป็นอย่างไร สะอาดหรือไม่ หรือเป็นไปตามหลักโภชนาการหรือเปล่า ดีไม่ดีอย่างไรอาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีอาการท้องเสียและอาเจียน

แต่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการบางรายนำเอาแมลงทอดไปต่อยอดให้มีมาตรฐานมากขึ้น ยกระดับเมนูข้างทางสู่ “อาหารกระป๋อง” ภายใต้การประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในชื่อ “ภูฟาร์ม” ดำเนินการโดย “คุณพัทธพงษ์ พงษ์เพชร” ที่คิดเอาธุรกิจแปรรูปเส้นไหมเป็นผ้าไหมมาต่อยอดเป็นธุรกิจแมลงทอดอัดกระป๋องพร้อมทาน ที่ได้มาตรฐานผ่านกระบวนการที่พิถีพิถันในโรงงานที่มีการรับรอง มีการปรุงที่สะอาด ปลอดสาร รับรองความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค

ธุรกิจเอสเอ็มอีแมลงทอดอัดกระป๋องภูฟาร์มเริ่มต้นมาจากทางบ้านของคุณพัทธพงษ์ทำธุรกิจแปรรูปผ้าไหมจากเส้นไหม ซึ่งแต่ละเดือนจะมี “ดักแด้ไหมอีรี่” ที่หมดอายุการใช้งานมากถึง 9 ตัน จึงมีความคิดที่จะนำตัวดักแด้มาเพิ่มมูลค่าแตกไลน์จากธุรกิจเดิม กระทั่งนำมาสู่ผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องที่ได้มาจากการแปรรูปดักแด้ไหมอีรี่ให้เป็นอาหารสำเร็จรูป ที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว และกลายเป็นธุรกิจเอสเอ็มอีอาหารกระป๋องที่มีความน่าสนใจ

ลักษณะของอาหารกระป๋องของแบรนด์ภูฟาร์มคือดักแด้ไหมอีรี่ทอดกรอบแบบสำเร็จรูปพร้อมทาน นอกจากรูปแบบอาหารที่มีความน่าสนใจในแง่ของการแปรรูปและบรรจุกระป๋องแล้ว ยังมีการเสริมรสชาติเข้าไปด้วยซึ่งมากถึง 6 รสชาติด้วยกัน ได้แก่ รสต้มยำ รสลาบ รสชีส รสบาร์บีคิว รสเกลือ รสโนริสาหร่าย และนอกจากดักแด้ไหมอีรี่แล้วทางแบรนด์ยังเพิ่มความหลากหลายด้วยการนำ “หนอน” มาต่อยอดธุรกิจด้วย ผลิตออกมาเป็น หนอนไหมทอดอบกรอบ รสต้มยำ บรรจุกระป๋องเช่นเดียวกันกับดักแด้ไหมอีรี่

กรรมวิธีของดักแด้ไหมอีรี่อัดกระป๋องคือการนำตัวไหมไปแช่แข็งนาน 24 ชั่วโมง จากนั้นนำไปทอดในอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสให้เหลืองกรอบ แล้วทำให้ไม่มีน้ำมันโดยการนำมาแผ่ออกก่อนนำเข้าตู้อบและอบด้วยความร้อน 80 องศาเซลเซียสนาน 1 ชั่วโมง จากนั้นนำมาปรุงรสด้วยรสชาติต่างๆ ก่อนจะนำไปบรรจุลงกระป๋อง ซึ่งสามารถเก็บรักษาได้ยาวนานถึง 4 เดือน

โดยกรรมวิธีนี้ได้รับความรู้จาก “อาจารย์ ดร.อัศวิน อมรสิน” คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสารคาม ที่ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาสินค้าและยืดอายุการเก็บรักษาอาหารให้อยู่ได้นานขึ้น นำมาสู่ธุรกิจเอสเอ็มอีอาหารกระป๋องที่ผลิตสินค้าอย่างมีมาตรฐาน ได้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการทั้งยังปลอดภัยจากสารเคมี ดักแด้ที่ใช้ยังผ่านการเลี้ยงแบบธรรมชาติโดยผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ได้อาหารที่ปลอดสารพิษ รวมทั้งได้รับการรับรองจาก อย. การันตีอาหารที่ได้มาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันทางผู้ประกอบการยังเตรียมการที่จะพัฒนาสินค้าต่อไปเพื่อให้รองรับการส่งออกด้วย

ช่องทางการขายปัจจุบันมีหน้าร้านอยู่ที่ศูนย์แสดงสินค้า MSU Outlet มหาวิทยาลัยสารคาม และสามารถสั่งซื้อได้จากเว็บไซต์ของบริษัท จำหน่ายราคากระป๋องละ 40 บาททุกรสชาติ

ข้อมูลติดต่อธุรกิจภูฟาร์ม
ที่อยู่ : พงษ์เพชรฟาร์ม 88 หมู่ 7 ตำบลโนนนาอาน อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์
โทรศัพท์ : 095-929-7549, 083-342-4565
Email : pupanack@gmail.com
Website : http://www.phufarm.com
Facebook : Phufarm
LINE ID : samia.com

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : ภูฟาร์ม