อาชีพทำเงิน รวม 15 ขนมไทย ทำเงินในตลาดนัด
อาชีพทำเงิน ถ้าพูดถึงประเภทสินค้าคงหนีไม่พ้นอาหารที่สามารถทำเงินได้ในท้องตลาด เหมาะที่จะทำเป็นธุรกิจสร้างรายได้ โดยอาชีพทำเงินวันนี้ที่เรานำมาฝากเกี่ยวกับอาหารโดยเฉพาะ ตอบโจทย์คนที่อยากมีอาชีพด้วยขนมไทย กับการรวมเมนูขนมติดอันดับอาชีพทำเงินมาฝาก
รวมศูนย์ฝึกอาชีพ “เรียนทำขนมไทย” ล่าสุด คลิ๊ก>>
20 เมนูขนมทานเล่นสุดฮิต ทำเงิน คลิ๊ก>>
รวมขายส่ง “ขนมไทย” ปังปี๊บ ขนมหวาน คลิ๊ก>>
1.ขนมเบื้อง
วิธีทำ
- ผสมแป้งข้าวเจ้า ถั่วเขียวป่น และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน
- จากนั้นเทน้ำปูนใสลงไปทีละน้อย สลับกับนวดแป้งไปด้วย
- นวดจนเนื้อแป้งเข้ากันเป็นเนื้อเดียวใช้เวลาประมาณ 10 นาที
- เมื่อน้ำตาลทรายละลายหมดแล้ว ตีไข่ขาวกับน้ำตาลปี๊บด้วยความเร็วสูงสุดจนขึ้นฟู ประมาณ 10-15 นาที
- เสร็จในส่วนของการทำแป้งขนมเบื้อง
- จากนั้นมาทำส่วนของครีมต่อในส่วนของใส่เค็ม ให้โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเข้าด้วยกันจนกระทั่งละเอียด
- ใส่น้ำมันลงกระทะใช้ไฟปานกลาง ก่อนจะนำเครื่องที่โขลกไว้เมื่อสักครู่เทตามลงไป ผัดสักระยะแล้วปรุงรสด้วยเกลือป่นและน้ำตาลทราย
- จากนั้นนำแป้งที่ทำเสร็จแล้วลงบนเตาทาให้เป็นรูปวงกลมก่อนจะทาไส้ตามลงไป รอจนสุกได้ที่ก็แซะแปะออกมาพับเป็นรูปครึ่งวงกลมเสร็จสรรพพร้อมเสิร์ฟ
หมายเหตุ ทริคเล็กๆ สำหรับอาชีพทำเงิน สามารถเปลี่ยนแป้งเป็นชาโคลเพื่อเพิ่มลูกเล่นในการสร้างจุดขาย โดยการใส่ผงชาโคลผสมลงไปในขั้นตอนการผสมแป้ง ราคาขายที่เหมาะสมคือ 5 ชิ้นราคา 20-25 บาท
2.ขนมครก
วิธีทำ
- ในส่วนของแป้งขนมครกให้นำแป้งข้าวเจ้า ข้าวสุก น้ำตาลทราย เกลือสมุทร น้ำปูนใส หัวกะทิ และหางกะทิ ปั่นเข้าด้วยกันในเครื่องปั่น เมื่อเข้ากันเป็นเนื้อเดียวแล้วเทใส่ภาชนะทิ้งไว้สักประมาณ 15-20 นาที
- ในส่วนของหน้ากะทิของขนมครก ให้นำหัวกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือสมุทรผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นคนจนน้ำตาลทรายละลาย แล้วใส่แป้งข้าวเจ้าตามลงไป จากนั้นคนจนส่วนผสมละลายและเข้ากัน
- ขั้นตอนการทำขนมครกให้นำเตาขนมครกตั้งไฟให้ร้อน จากนั้นทาน้ำมันลงในหลุมแต่ละหลุมแล้วหยอดแป้งลงไปในแต่ละหลุม รอแป้งเซตตัวแล้วตักส่วนผสมของกะทิที่ผสมไว้ใส่ลงไป รอจนเริ่มสุกก็โรยเผือก ข้าวโพด หรือต้นหอมซอยลงไป รอจนสุกกำลังดีตักขึ้นใส่กล่องพร้อมเสิร์ฟ
หมายเหตุ เพิ่มลูกเล่นเพื่อให้เหมาะกับการเป็นอาชีพทำเงินด้วยการทำแป้งชาโคล แป้งชาไทย หรือแป้งข้าวไรซ์เบอรรี่ ราคาขายที่เหมาะสมคือ 20 บาทต่อกล่อง กล่องหนึ่งบรรจุ 10 คู่
3.ลูกชุบ
วิธีทำ
นำถั่วเขียวมาลางน้ำให้สะอาดก่อนนำไปแช่ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วเทใส่ผ้าขาวบางเพื่อสะเด็ดน้ำออก จากนั้นนำถั่วเขียวที่ได้ไปนึ่งให้สุกใช้เวลา 1 ชั่วโมงโดยประมาณ และลองสัมผัสดูว่านิ่มทั้งเม็ดหรือไม่ หากนิ่มทั่วทั้งเม็ดแล้วนำไปบดจนละเอียด แล้วใส่ลงในกระทะทองเหลืองที่มีน้ำกะทิเตรียมไว้ กวนให้เข้ากันแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นนำไปตั้งไฟอ่อนๆ แล้วกวนไปทางเดียวกันโดยใช้ไม้พาย เมื่อถั่วเหนียวและไม่ติดกระทะ ก็หยิบขึ้นมาปั้นเป็นรูปร่างต่างๆ ได้ หากกวนถั่วด้วยเครื่องให้เอาถั่วเขียวที่ร้อนระอุใส่ลงไปในเครื่องกวน ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาทีเป็นอันเสร็จสรรพ ประหยัดเวลากว่าแรงงานคนไป 2-3 ชั่วโมง
หมายเหตุ เพิ่มยอดขายสู่การเป็นอาชีพทำเงินได้ด้วยการปั้นให้เป็นรูปร่างต่างๆ แบบแฟนซี หรือปั้นเป็นรูปร่างเสมือนจริง นอกเหนือไปจากรูปผลไม้
4.ทองหยิบ ทองหยอด
วิธีทำ
- ในส่วนของขนมทองหยิบให้ผสมน้ำลอยดอกไม้ น้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน จากนั้นเคี่ยวให้เป็นน้ำเชื่อม จากนั้นแยกไข่ขาวและไข่แดง แล้วใช้เฉพาะไข่แดงมาตีให้ขึ้นฟูจนไข่เปลี่ยนเป็นสีนวล จากนั้นตักไข่หยอดใส่ในน้ำเชื่อมครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ให้ไข่เป็นแผ่น หยอดให้เต็มกระทะแล้วรอให้ไข่สุก ตักแผ่นไข่ที่หยอดไว้ใส่ถาดใช้มือจับเป็นจีบ แล้วหยิบใส่ถ้วยตะไลรอให้เย็นแล้วจึงแคะออกจากถ้วยตะไล
- ในส่วนของขนมทองหยอด ให้ผสมน้ำและน้ำตาลทรายเข้ากัน จากนั้นตั้งไฟให้เดือดพอเหนียวแล้วตักน้ำเชื่อมขึ้นไว้สำหรับลอยทองหยอด แล้วตั้งไฟต่อไปให้น้ำเชื่อมเหนียว แยกไข่แดงและไข่ขาวออกจากกัน ตีไข่แดงให้ขึ้น แล้วค่อยๆ ใส่แป้งทองหยอดคนให้เข้ากัน จากนั้นหยอดไข่ที่ตีแล้วลงในน้ำเชื่อมที่ตั้งอยู่บนไฟ ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางเป็นตัวกำหนดขนาดของลูก โดยนิ้วหัวแม่มือจะเป็นนิ้วที่ช่วยรูดแป้งลงที่ปลายนิ้ว จากนั้นสะบัดไข่ลงในน้ำเชื่อม เมื่อทองหยอดสุกลอยขึ้นให้ตักใส่ในน้ำเชื่อมสำหรับลอย
5.ฝอยทอง
วิธีทำ
- นำน้ำตาลทรายและน้ำตั้งไฟพอเดือดสามารถทำให้น้ำตาลละลาย
- เมื่อน้ำตาลละลายยกลงแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง จากนั้นตั้งไฟเพื่อเคี่ยวน้ำเชื่อมต่อไม่ให้ใสหรือข้นจนเกินไป
- ตอกไข่ลงไป แล้วแยกไข่ข่วกับไข่แดงออกจากกัน
- นำไข่แดงใส่ผ้าขาวบางแล้วรีดเยื่อไข่ออก จากนั้นนำกลับไปผสมกับไข่ขาว (ที่ไม่เป็นลิ่ม) คนให้เข้ากัน
- เตรียมกระทะทองใส่น้ำเชื่อมเดือดๆ ไว้ ทำกรวยด้วยใบตอง หรือใช้กรวยโลหะใส่
- นำไข่แดงโรยในน้ำเชื่อมเดือดๆ เป็นวงกลมๆ รอบๆ ประมาณ 20- 30 รอบ
- เมื่อเส้นไข่สุกแล้วใช้ไม้แหลมสอยขึ้นมา พับเป็นแพ แล้วอบด้วยควันเทียน
6.ขนมถังแตก
วิธีทำ
ผสมแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย และเกลือป่นเล็กน้อยเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่กะทิและน้ำตามลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง ผสมยีสต์กับน้ำตาลทรายลงในน้ำอุ่น คนให้เข้ากัน แล้วปิดฝาภาชนะที่ใช้ผสม นำไปตากแดดประมาณ 8-10 นาที แล้วนำไปผสมกับส่วนผสมแป้งในขั้นตอนที่หนึ่ง คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง จนกระทั่งเริ่มมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวและมีฟอง แล้วทาน้ำมันที่กระทะ ตั้งไฟจนร้อนจัดแล้วลดไฟลง ตักแป้งใส่กระทะเหล็ก เมื่อแป้งเริ่มสุกจึงโรยน้ำตาลทราย งา และมะพร้าวขูดลงไป จากนั้นแซะแป้งออกจากเตาพับใส่ภาชนะพร้อมเสิร์ฟ
7.ลูกระเบิด (ขนมโป้งเหน่ง)
วิธีทำ
- ร่อนแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า ผงฟูรวมกัน กระทั่งได้แป้งที่มีลักษณะฟู แล้วร่อนรวมกัน 2 ครั้งพักไว้
- ตอกไข่ลงในภาชนะผสมแล้วใช้ตะกร้อมือตีจนไข่ขึ้นเป็นครีมสีเหลืองๆ จากนั้นผสมน้ำตาลกับเกลือลงไปตีจนรู้สึกว่าไม่มีเม็ดน้ำตาลเหลืออยู่ ใส่น้ำมันพืชลงไปตีต่อจนส่วนผสมเข้ากัน
- ตักแป้งที่ร่อนไว้นำมาใส่ลงไปในไข่ที่ตี สลับกับนมสดจนหมด ตีให้แป้งละลาย ถ้าแป้งเหนียวให้เติมนมลงไป ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะได้แป้งชุบทอดที่เนื้อเนียนเข้ากัน สังเกตแป้งเหนียวหนืด ไม่เหลว ชุบไส้กรอกติดดี แปลว่าใช้ได้แล้ว
- ใส่น้ำมันลงในหม้อเพื่อทอดขนม ตั้งไฟปานกลางจนกระทั่งน้ำมันร้อนจุ่มไส้กรอกลงไปในแป้ง แล้วนำทั้งหมดไปทอดจนเหลืองแล้วตักออกมา ก่อนจะจุ่มลงไปเป็นรอบที่ 2 แล้วทอดต่อไปจนเหลืองสุก ทำการซับน้ำมันเป็นอันเสร็จสรรพพร้อมเสิร์ฟ
รวมศูนย์ฝึกอาชีพ “เรียนทำขนมไทย” ล่าสุด คลิ๊ก>>
20 เมนูขนมทานเล่นสุดฮิต ทำเงิน คลิ๊ก>>
รวมขายส่ง “ขนมไทย” ปังปี๊บ ขนมหวาน คลิ๊ก>>
8.ขนมไข่
วิธีทำ
- ร่อนแป้งกับผงฟูเข้าด้วยกัน 2 ครั้ง เตรียมไว้สำหรับขั้นตอนต่อไป
- ตีไข่ไก่ด้วยความเร็วสูงสุดจนขึ้นฟู
- ใส่น้ำตาลทรายลงไปทีละน้อยแล้วตีต่อด้วยความเร็วสูงจนตั้งยอดอ่อน (เป็นรอยตะกร้อ) จากนั้นใส่น้ำมะนาวลงไปตีต่อให้เข้ากันอีกครั้ง
- แบ่งแป้งที่ร่อนไว้ลงไปคน ตะล่อมเบาๆ จนแป้งไม่เป็นเม็ด เติมกลิ่นวานิลลาลงไปค่อยๆ คนให้เข้ากัน ตักส่วนผสมใส่ลงพิมพ์ประมาณ 3/4 พิมพ์
- นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน- ล่าง ประมาณ 15-20 นาที กระทั่งขนมเป็นสีน้ำตาลและกรอบ นำออกจากเตา พักทิ้งไว้จนอุ่น แล้วจึงนำออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ
9.ขนมถ้วย
วิธีทำ
- ผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือป่น และหัวกะทิเข้าด้วยกัน ส่วนนี้ทำเป็นหน้าขนม จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง แล้วเตรียมไว้สำหรับขั้นตอนต่อไป
- ทำตัวขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลปี๊บ แป้งมันสำปะหลัง แป้งท้าวยายม่อม น้ำลอยดอกมะลิ และหางกะทิเข้าด้วยกัน ใช้มือขยำเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันจนกระทั่งน้ำตาลปี๊บละลายหมด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้สำหรับขั้นตอนต่อไป
- นำถ้วยขนมไปนึ่งใช้เวลาประมาณ 5 นาที เพื่อไม่ให้ขนมติดถ้วย
- เทส่วนผสมตัวขนมลงไปในถ้วย ปริมาณเกินครึ่งถ้วยเล็กน้อย แล้วปิดฝานึ่งประมาณ 5 นาที เมื่อครบเวลายกลงจากเตา พักทิ้งไว้ประมาณ 1–2 นาที
- เทส่วนผสมหน้ากะทิลงไปจนเต็มถ้วย นำไปนึ่งต่อประมาณ 6–7 นาทีจนขนมสุก แล้วยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นประมาณ 10 นาที
- นำไม้พายแช่น้ำแคะขนมออกจากถ้วยแล้วใส่ภาชนะเพื่อเสิร์ฟ
10.ขนมชั้น
วิธีทำ
- วันนี้ขอนำเสนอสูตรขนมชั้นใบเตย เริ่มที่การใส่น้ำตาลทรายและกะทิลงในหม้อก่อน ตั้งไฟปานกลางประมาณ 5 นาที คนให้เข้ากันจนน้ำตาลทรายละลาย แล้วยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
- นำถาดหรือแม่พิมพ์ไปนึ่งในที่มีน้ำเดือดประมาณ 15 นาที
- นำแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และแป้งท้าวยายม่อมผสมกันจากนั้นเทน้ำกะทิตามลงไปแล้วใช้มือนวดแป้งให้เข้ากัน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที เมื่อแป้งไม่จับตัวเป็นก้อนแล้วนำไปกรองด้วยตระแกรง
- แบ่งแป้งที่ผสมไว้ออกเป็น 2 ถ้วย โดยนำถ้วยแรกผสมกับน้ำใบเตย และถ้วยที่สองผสมกับน้ำมะลิ จากนั้นคนให้เข้ากัน
- ทำชั้นที่ 1 โดยการเทส่วนผสมสีขาวลงไปในพิมพ์ จากนั้นปิดฝาแล้วนึ่งประมาณ 5 นาที เปิดฝาแล้วเทส่วนผสมสีเขียวลงไปจากนั้นปิดฝานึ่งอีก 5 นาที ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบทุกชั้น จนถึงชั้นสุดท้ายนึ่งประมาณ 7 นาที แล้วยกออกวางทิ้งไว้ให้เย็น รอประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วนำออกจากถาด แล้วนำมีดจุ่มน้ำร้อนหั่นขนมชั้นเป็นชิ้นๆ พร้อมเสิร์ฟ
11.ขนมหม้อแกง
วิธีทำ
- เจียวหอมแดงลงในน้ำมันจนเหลืองและกรอบ แต่ต้องระวังอย่าให้ไหม้และควรใช้ไฟอ่อน
- แกะเปลือกถั่วเขียวออกแล้วนำไปแช่น้ำ จากนั้นนึ่งจนสุก
- นำไข่ผสมกับน้ำตาลปี๊บและเกลือ ขยำโดยใช้ใบเตยเพื่อให้เข้ากันดี จนกระทั่งน้ำตาลละลายจนหมด ใส่หัวกะทิลงไป ขยำต่อจนเข้ากัน จากนั้นนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง
- นำถั่วใส่ลงไปในส่วนผสมที่กรองแล้ว และใส่น้ำมันที่เหลือจากการเจียวหอมแดงลงไป คนให้เข้ากัน
- นำส่วนผสมไปกวนบนไฟปานกลางให้เข้ากัน จากนั้นนำไปอบในความร้อน 180 องศาเซลเซียส (360 องศาฟาเรนไฮต์) ใช้เวลาอบประมาณ 30-40 นาที หลังจากนั้นนำหอมเจียวโรยหน้าแล้วอบต่ออีก 5 นาที ตัดแบ่งพร้อมเสิร์ฟ
12.วุ้นกะทิ
วิธีทำ
ส่วนของตัววุ้นให้นำผงวุ้นและใบเตยต้มในกระทะจนผงวุ้นละลาย จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไปแล้วคนให้ละลายแล้วหรี่ไฟเบา จากนั้นหยอดวุ้นใบเตยลงในพิมพ์ประมาณ ¾ ปล่อยทิ้งไว้ให้วุ้นจับตัว
ส่วนของหน้าวุ้นให้ต้มผงวุ้นและน้ำมะพร้าวในกระทะ ต้มจนผงวุ้นละลายแล้วใส่แป้งข้าวโพดกับหัวกะทิและเกลือลงไปคนให้เข้ากัน จากนั้นหยอดลงในพิมพ์เดิมปิดทับในส่วนของตัววุ้นโดยเทให้เต็มพิมพ์ ปล่อยทิ้งไว้จนวุ้นเซ็ตตัวหรือนำเข้าตู้เย็น พร้อมเสิร์ฟ
13.ขนมไข่นกกระทา
วิธีทำ
นึ่งมันเทศให้นิ่มแล้วนำมาบดละเอียด จากนั้นผสมแป้งมัน แป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เกลือ และน้ำตาลลงไปในภาชนะ คนให้เข้ากัน ก่อนจะใส่มันบดลงไปแล้วขยำเป็นเนื้อเดียว จากนั้นเติมกะทิลงไปแล้วขยำอีกครั้ง นำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ตั้งกระทะใส่น้ำมันท่วม ตั้งไฟกระทั่งน้อมันร้อนจัดหยอดขนมที่ปั้นไว้ลงไป เมื่อขนมเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองใช้ตะหลิวคลึงที่ตัวขนม ก่อนจะตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พร้อมเสิร์ฟ
14.ลอดช่อง
วิธีทำ
- ขูดมะพร้าวใส่ถาดแล้วนำไปนึ่งประมาณ 15 นาที แล้วนำไปปั่นในเครื่องปั่น หากปั่นไม่ได้เติมน้ำต้มสุกอุ่นๆ ลงไปเล็กน้อย
- นำกะทิที่ปั่นแล้วมากรองกากออก แล้วบีบให้น้ำกะทิออกมา
- ใส่น้ำตาลปิ๊บและเกลือลงไปในกะทะ คั่วด้วยไฟอ่อน จนน้ำตาลละลาย ส่วนกะทิเดือด
- เมื่อน้ำกะทิเย็นขึ้นนำไปกรองอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นนำไปอบควันเทียนเพื่อเพิ่มความหอม แล้วพักไว้
- ในส่วนของตัวลอดช่องให้นำใบเตยกับน้ำปูนใสใส่ลงในเครื่องปั่น แล้วนำไปกรองเพื่อเอากากออก จากนั้นผสมแป้งลงไปแล้วคนให้ละลายก่อนนำไปกรองอีกรอบ
- กวนต่อไป 1 ชั่วโมง 10 นาที กระทั่งได้เส้นที่เหนียวนุ่มพอประมาณ
- นำลอดช่องไปกดลงในน้ำเย็นจัด (อาจใช้กระป๋องนมแล้วหาตะปูเจาะรูก็ได้ เมื่อเส้นนิ่ม เส้นจะไหลลงมาเองโดยที่ไม่ต้องกด) พร้อมเสิร์ฟ
15.ขนมครกใบเตย
วิธีทำ
- ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งมัน และผงฟูเข้าด้วยกัน จากนั้นเติมน้ำตาลทรายและเกลือลงไป แล้วคนให้เข้ากัน
- นำไข่ไก่ลงไปตีผสมให้เข้ากัน แล้วเทกะทิลงไปตีผสมกัน จากนั้นเติมน้ำใบเตยลงไป แล้วคนผสมให้เข้ากันจนกลายเป็นเนื้อเนียนละเอียด พักแป้งไว้ 10 นาที
- ตั้งไฟเตาขนมครกอ่อนที่สุด แล้วนำผ้าชุบน้ำมันทาเตาบางๆ จากนั้นตักแป้งหยอดลงเตาแต่อย่าให้เต็ม เพราะขนมจะฟูขึ้นมาอีก แล้วปิดฝา
- เมื่อขนมสุกแล้วสามารถแคะขึ้นมา พร้อมเสิร์ฟ
รวมศูนย์ฝึกอาชีพ “เรียนทำขนมไทย” ล่าสุด คลิ๊ก>>
20 เมนูขนมทานเล่นสุดฮิต ทำเงิน คลิ๊ก>>
รวมขายส่ง “ขนมไทย” ปังปี๊บ ขนมหวาน คลิ๊ก>>