ไอเดียธุรกิจ กล่องเก็บความเย็นจากมะพร้าว

คงจะดีไม่น้อย หากเรามีคูลเลอร์หรือกล่องเก็บความเย็นที่สามารถใส่เบียร์กระป๋องเย็น ๆ หรือไอศกรีม แล้วพกพาไปกับเราได้ทุกที่ แต่คูลเลอร์ที่ใช้กันทั่วไปนั้นมีขนาดใหญ่ เทอะทะ ดูไม่ทันสมัย ไม่เหมาะกับการพกพา แถมยังทำมาจากโฟมโพลีสไตรีน ซึ่งเป็นวัสดุที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะไม่สามารถย่อยสลายได้

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่า ตลาดของกล่องเก็บความเย็นยังเติบโตได้ถึง 6% ไปจนถึงปี 2025 นี่จึงเป็นตลาดที่ให้ผู้เล่นหน้าใหม่ได้เข้ามามีบทบาท จากเดิมที่มีแบรนด์ Igloo และ Coleman อยู่แล้ว บริษัทอย่าง Yeti ก็เริ่มพัฒนากล่องเก็บความเย็นให้ดูพรีเมี่ยมมากขึ้นด้วยสีสัน ทำให้ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น

สองนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด David Cutler ที่เชี่ยวชาญในเรื่องการออกแบบ และ Tamara Mekler ที่เชี่ยวชาญการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพชื่อ Nutshell Coolers เพื่อออกแบบกล่องเก็บความเย็นแบบใหม่ ที่ชื่อ Nutshell โดยใช้ฉนวนธรรมชาติจากแกลบมะพร้าวมาสร้างมูลค่าใหม่ แทนการใช้ฉนวนสังเคราะห์เดิมที่ใช้ในกล่องเก็บความเย็นทั่วไปในตลาด โดยทางบริษัทร่วมมือกับบริษัทดีไซน์ Box Clever ในการออกแบบให้ดูเหมือนกระเป๋าถือใบใหญ่ พับได้ มีสีฟ้าใสและสีเทาอมน้ำเงินเข้ม แต่มีน้ำหนักเบาและสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพหลังการใช้งาน

การพัฒนาฉนวนสำหรับกล่องเก็บความเย็น เริ่มขึ้นจากหลักสูตรที่ทั้งสองได้เรียนร่วมกัน ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือชาวประมงในประเทศฟิลิปปินส์ที่กำลังเผชิญปัญหาการเก็บรักษาเนื้อปลาให้สดใหม่ ปกติชาวประมงเหล่านี้จะใช้กล่องเก็บความเย็นที่ทำจากสไตโรโฟม แต่ประสิทธิภาพยังไม่ดีพอ ความสดใหม่ของปลาจึงลดลงตามระยะเวลาที่เก็บ อีกทั้งสไตโรโฟมยังไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อมเพราะไม่สามารถย่อยสลายได้ และยังปล่อยก๊าซที่ทำลายชั้นโอโซน เพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจกหรือคาร์บอนฟุตพริ้นท์ รวมถึงใช้พื้นที่มากในการขนส่ง

Cutler และ Mekler จึงช่วยกันหาทางเลือกทดแทนที่ดีกว่า ทั้งสองจึงได้ขับรถไปรอบ ๆ ประเทศฟิลิปปินส์ แล้วสังเกตเห็นว่าเต็มไปด้วยต้นมะพร้าวและมีพื้นที่เพาะปลูกมะพร้าว จากนั้นพวกเขาจึงเริ่มสำรวจงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับต้นมะพร้าว จึงได้พบว่ากาบมะพร้าวมีคุณสมบัติเป็นฉนวน

“กาบมะพร้าวเต็มไปด้วยโพรงอากาศมากมาย ที่สามารถดักจับอากาศและมีความเป็นฉนวนได้เหมือนฉนวนโฟม อีกทั้งมะพร้าวสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพและมีอยู่มากมาย” Mekler กล่าวไว้ “ในพื้นที่เพาะปลูกมะพร้าว ชาวสวนจะนำกาบมะพร้าวมาสุมเป็นกองเพื่อเผาทิ้ง หลังจากที่ได้แยกเอาเนื้อและน้ำมะพร้าวออกไปแล้ว ซึ่งกระบวนการเผาไหม้จะปล่อยก๊าซคาร์บอนออกมา”

ทั้งสองจึงได้ใช้กาบมะพร้าวเพื่อสร้างระบบฉนวน โดยมีขนาดและรูปร่างคล้ายกับกล่องสไตโรโฟม และยังสามารถทำให้กล่องพับได้ จึงง่ายต่อการขนย้ายขึ้นเรือ

Cutler และ Mekler เชื่อว่าผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาจะสนใจในเทคโนโลยีใหม่นี้ หากพัฒนาในเรื่องของดีไซน์ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทั้งสองได้พยายามเชิญ Bret Recor ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการสร้างของสตูดิโอออกแบบ Box Clever ให้มาร่วมโครงการ ด้วยไอเดียเกี่ยวกับกล่องเก็บความเย็นที่พับได้และยั่งยืน ซึ่ง Recor ก็สนใจในฉนวนจากกาบมะพร้าวนี้ แต่ยังต้องการที่จะเห็นว่ามันมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับฉนวนที่มีอยู่ในท้องตลาด เขากล่าวว่า “พวกเราไม่ต้องการจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าที่มีอยู่ในท้องตลาด เพราะการนำผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพมาวางจำหน่ายนับเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน เพราะท้ายที่สุดมันก็จะกลายเป็นขยะอยู่ดี”

แต่ในที่สุดเมื่อพวกเขาทดสอบและนำเสนอฉนวนจากมะพร้าวในครั้งที่ 3 ก็พบว่ามันสามารถเก็บรักษาอุณหภูมิที่ -4 องศาเซลเซียส ได้นาน 48 ชั่วโมง ซึ่งสามารถเก็บอุณหภูมิได้พอ ๆ กับกล่องเก็บความเย็นอื่น ๆ ในตลาด พวกเขาจึงตกลงร่วมกันทำงานเพื่อออกแบบกล่องเก็บความเย็น Nutshell ซึ่งสามารถเก็บเครื่องดื่มได้ 24 กระป๋องที่อัดแน่นไปด้วยน้ำแข็ง โดยใช้โพลีเอสเตอร์รีไซเคิลทั้งชั้นนอกที่กันน้ำได้และชั้นในที่ป้องกันการรั่วซึมได้ดี กล่องเก็บความเย็นนี้มีน้ำหนักเบาแค่ประมา 3.5 กิโลกรัม และยังสามารถพับได้ จึงง่ายต่อการเก็บเมื่อไม่ใช้

Mekler เชื่อว่ากล่องเก็บความเย็นนี้ยังสามารถประยุกต์ใช้ได้อีกมากมาย “คุณสามารถนำกล่องเก็บความเย็นไปยังร้านค้าเมื่อคุณต้องการช้อปปิ้ง และยังสามารถนำไปสวนสาธาราณะหรือปิกนิกได้ เพราะว่ามีน้ำหนักเบากว่ากล่องเก็บความเย็นทั่วไปที่ขนาดเท่ากัน” เธอกล่าว

Cutler กล่าวว่า เขาตัดสินใจที่จะปล่อยผลิตภัณฑ์นี้ออกสู่ Kickstarter ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ดีในการเชื่อมผลิตภัณฑ์กับผู้ที่ต้องการใช้ได้จริง เขาเชื่อว่ากล่องเก็บความเย็นนี้จะโดนใจผู้บริโภคที่ใส่ใจกับความยั่งยืนและใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่นอกสถานที่ ซึ่งหลังจากปล่อยไป 2-3 วัน โครงการก็มีผู้ลงทุนมากถึง 80,000 เหรียญสหรัฐ (เดิมตั้งเป้าแค่ 30,000 เหรียญฯ) ด้วยราคาแรกเริ่ม 169 เหรียญฯ (ราคาลดลง 32% จากราคาขายจริง) ซึ่งสามารถเริ่มขนส่งให้กับผู้สนใจได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2022

ข้อมูลจาก TCDC