กาแฟขี้ช้าง กิโลกรัมละ 4 หมื่นบาท ทำลายสถิติกาแฟที่แพงที่สุดในโลก

กาแฟขี้ช้าง อีกหนึ่งกระแสที่มาแรงมากในวงการกาแฟเรียกว่าสะเทือนวงการเลยก็ว่าได้ หลายคนคงผ่านหูกันมาบ้างแล้วกับกาแฟขี้ช้างที่ว่าแพงหนักหนา แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักคงต้องทำความรู้จักเดี๋ยวนี้ เพราะของเขาดีจริงและสามารถตั้งราคาขายได้สูงลิบทำลายสถิติกาแฟที่แพงที่สุดในโลก ด้วยกระบวนการทำที่ยุ่งยากซับซ้อน นำมาซึ่งกาแฟขี้ช้างที่มีรสชาติดีกลมกล่อมมากว่ากาแฟทั่วไป

รวมร้านขายส่งอุปกรณ์กาแฟ เมล็ดกาแฟ ผงกาแฟ อัพเดทล่าสุด คลิ๊ก >>

รวมโรงงานผลิตกาแฟ ผงกาแฟ เมล็ดกาแฟ คลิ๊ก>>

รวมข้อมูล “แฟรนไชส์กาแฟ” แบบละเอียดล่าสุด คลิ๊ก>>

รวมศูนย์ฝึกอาชีพ “เรียนชงกาแฟ” เรียนบาริสต้า คลิ๊ก>>

กาแฟขี้ช้าง คือกาแฟที่ได้มาจากมูลของช้าง หลายคนอาจงงว่าเป็นไปได้อย่างไรที่ผลผลิตจากมูลสัตว์ จะสามารถทำขายได้ ทั้งยังสามารถตั้งราคาได้แพงขนาดนี้ แต่เรื่องราวเหล่านี้ก็เป็นไปแล้ว ท่ามกลางเสียงฮือฮาของคอกาแฟอย่างมาก โดยกาแฟขี้ช้างเป็นกาแฟไทยที่ไปทำลายสถิติกาแฟที่แพงที่สุดในโลก เมื่อก่อนหน้านี้เจ้าของกาแฟที่แพงที่สุดนั้นเป็นกาแฟจากประเทศอินโดนีเซียนามว่ากาแฟขี้ชะมดหรือ Kopi Luwak แต่เมื่อกาแฟขี้ช้างถูกผลิตออกมาก็ทำให้สถิตินั้นเปลี่ยนแปลงไปโดยเร็ว

โดยกาแฟขี้ชะมดมีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 16,000-17,000 บาท หรือ 600 ดอลลาห์สหรัฐ ซึ่งเป็นเจ้าของสถิติกาแฟที่แพงที่สุดในโลกก่อนหน้านี้ กระทั่งที่กาแฟขี้ช้างคลอดออกมาก็ทำให้วงการกาแฟสะเทือน และสถิติเดิมก็เปลี่ยนไป กลายเป็นว่ากาแฟขี้ช้างจากประเทศไทยเรานี่เองที่แพงที่สุดในโลก เพราะมีราคาขายสูงถึงกิโลกรัมละ 4 หมื่นบาท หรือ 1,100 ดอลลาห์สหรัฐ ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากกลุ่มนักท่องเที่ยวอย่างมากในเวลานี้

ที่แรกที่เป็นผู้ผลิตกาแฟขี้ช้างคือปางช้างแม่แตง บ้านแม่ตะมาน ตำบลกิ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่มาของชื่อกาแฟขี้ช้าง เพราะได้มาจากมูลของช้างที่ขับถ่ายออกมา ผ่านกระบวนการผลิตอย่างเป็นระบบและเป็นขั้นเป็นตอน กระทั่งได้ออกมาเป็นกาแฟขี้ช้างที่สะอาดและรสชาติดีอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน และมีมูลค่าสูงลิบแบบที่ใครเห็นก็ต้องตะลึงไปทีเดียว

สำหรับชื่อของกาแฟขี้ช้างที่ต่างประเทศรู้จักมีนามว่า แบล็ค ไอวอรี่ คอฟฟี่ (Black Ivory Coffee) เป็นกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยกระบวนการทำที่แตกต่างจากกาแฟทั่วทุกมุมโลก เพราะได้มาจากมูลของช้างที่ขับถ่ายออกมา คือการนำเมล็ดกาแฟให้ช้างได้รับประทานเข้าไปตามธรรมชาติ จากนั้นเมล็ดกาแฟก็จะถูกนำไปย่อยในระบบทางเดินอาหารของช้าง ซึ่งขั้นตอนการย่อยนี่เองที่เป็นขั้นตอนสำคัญในการผลิตเมล็ดกาแฟที่แพงที่สุดในโลก เพราะเอนไซม์ที่ถูกใช้ในการย่อยเมล็ดกาแฟจะทำให้โปรตีนในเมล็ดกาแฟแตกตัวเป็นโมเลกุลที่มีขนาดเล็กลง ซึ่งโปรตีนชนิดนี้เป็นตัวที่ทำให้กาแฟมีรสขม แต่เมื่อโปรตีนมีโมเลกุลเล็กลงรสขมก็จะลดลงด้วย

ขั้นตอนการทำกาแฟขี้ช้างก่อนอื่นคือการคัดเลือกเมล็ดกาแฟไทยอาราบิก้าที่ปลูกในพื้นที่สูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเลโดยประมาณ จากนั้นนำเมล็ดกาแฟเหล่านั้นมาให้ช้างรับประทานแล้วรอจนช้างขับถ่ายออกมา ควาญช้างจะต้องทำหน้าที่คอยเฝ้าสังเกตเมื่อช้างถ่าย ซึ่งจะถ่ายตามธรรมชาติและรับประทานเมล็ดกาแฟตามธรรมชาติ ไม่มีการบังคับแต่อย่างใด และเมื่อช้างขับถ่ายออกมาควาญช้างจะต้องนำไปคัดแยกเมล็ดกาแฟออกมา และทำความสะอาดตามขั้นตอน

สำหรับรูปแบบการขายกาแฟขี้ช้างหากบรรจุถุงขายอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 4 หมื่นบาท และการขายแบบชงใส่แก้วให้นักท่องเที่ยวในราคาแก้วละ 1,500 บาท มีทั้งหมด 3 ชนิดให้เลือก ได้แก่ แบบอ่อน แบบกลาง และแบบเข้ม แต่ก็ขายได้ในจำนวนจำกัดเพียงวันละ 15 แก้วเท่านั้น เพราะช้างที่ใช้ในการผลิตกาแฟขี้ช้างของปางช้างแม่แตงมีเพียง 5 เชือกเท่านั้น ทำให้กำลังการผลิตไม่เพียงพอ