กาแฟดอยช้าง กาแฟชาวเขา ที่ถูกจัดในอยู่ในระดับแถวหน้าของโลก!!

วันนี้คอกาแฟไทยคงไม่ต้องจ่ายค่ากาแฟสูงลิบลิ่วเพื่อดื่มกาแฟแบรนด์ดังระดับโลก อย่างเช่น บลูเมาเทนอีกต่อไป เพราะกาแฟดอยช้างของไทยกำลังค่อยๆบุกตลาดและลงทุนในต่างประเทศ ที่ถือเป็นถิ่นของคอกาแฟพันธ์แท้ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของความสำเร็จกาแฟดอยช้างคือ “ คุณปณชัย พิสัยเลิศ หรืออาเดล “ เลือดเนื้อเชื้อไขชาวอาข่า ที่เรียนจบแค่ป. 2 มาสวมหมวกกรรมการผู้จัดการอย่างบริษัท บริษัท ดอยช้าง เฟรช โรสเต็ด คอฟฟี่ จำกัด โดยอาชีพดั้งเดิมของเขาคือการปลุกฝิ่นต่อมาในหลวงท่านให้โอกาศ โดยการเลิกปลูกฝิ่นแต่หันมาปลูกพืชเมืองหนาวแทน

โดยกรมประชาสงเคราะห์ก็ได้นำพืชเมืองหนาวมาให้ปลูก ทั้งมะคาเดเมีย ท้อ บ๊วย และกาแฟอราบิก้า เป็นต้น โดยในส่วนของกาแฟเริ่มต้นปลูกประมาณ 40 ไร่ หนึ่งในผู้เริ่มปลูกกาแฟบนดอยช้าง คือ พิก่อ แซ่ดู่ (บิดาของปณชัย) หลังจากการปลูกกาแฟก็ไม่รู้จะนำไปขายยังไงเพราะลงไปก็ไกล ไม่รู้จะเอาให้ใคร จากปัญหาดังกว่าทำให้ตัดและเผาต้นกาแฟทิ้งแต่กลับไม่ตาย ระหว่างบิดาทำกาแฟนั้น คุณปณชัยก็เลือกที่จะค้าขายกับจีนโดยส่งขาไก่และได้เจอค้าขายกาแฟดอยช้างจึงคิดที่จะขายกาแฟบ้าง

หลังจากกลับมาก็ตั้งใจศึกษาและปลูกกาแฟดอยช้างอย่างจริงจังดูจนถึงแหล่งผลิตกาแฟว่า ในโลกมีที่ไหนบ้าง มีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร แล้วก็กลับมาดูตัวเอง จากนั้นก็ปรับปรุงมาเรื่อยๆ ปณชัย กล่าวถึงจุดพลิกผันในการเข้าสู่อาชีพผู้ค้ากาแฟอย่างจริงจัง และตัดสินใจทำเป็นอาชีพหลักหลังจากที่ปลูกถึง 20 ปีจึงระดมทุนตั้งบริษัท ดอยช้าง เฟรช โรสเต็ด คอฟฟี่ จำกัด ในปี 2546 ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้คิดทำอะไรใหญ่โตขายได้ก็พอ พอขายกาแฟได้ก็แบ่งมาลงทุน

ส่วนที่มาของโลโก้ชายชาวอาข่า ที่มีข้อความ doi chaang อยู่ข้างใต้ของผลิตภัณฑ์กาแฟดอยช้าง ปณชัย พิสัยเลิศ กล่าวถึงที่มาของโลโกดังกล่าวว่า “เป็นการให้เกียรติคุณพ่อ(พิก่อ แซ่ดู่)ซึ่งเป็นคนแรกที่ปลูกกาแฟบนดอยช้าง ส่วนชื่อ ดอยช้าง เป็นการให้เกียรติสถานที่ เป็นการให้เกียรติพี่น้องชาวเขาบนดอยช้าง” กาแฟดอยช้างมองเห็นเรื่องของผลผลิตน่าจะไม่มีปัญหาเพราะพื้นที่นั้นเหมาะที่จะปลูกกาแฟ โดยเป้าหมายของกาแฟดอยช้างนั้นคือ เป็นอันดับหนึ่งในตลาดกาแฟระดับไฮอราบิก้า”

ปัจจุบันมีต้นกาแฟที่ให้ผลผลิตแล้วประมาณ 2,000-3,000 ไร่ ให้ผลผลิตประมาณ 1,200 ตัน โดยกาแฟดอยช้างทั้ง 20,000 ไร่ จะให้ผลผลิตในอีก 3 ปีข้างหน้า จะทำให้กาแฟดอยช้างก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่งในแง่ของผลผลิตกาแฟในตลาดไฮอราบิก้า ส่วนในด้านราคาเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนากระบวนการผลิตต่อไป รวมถึงการเพิ่มความเชี่ยวด้านการตลาดให้มากขึ้น

ในเรื่องของแฟรนไชส์กาแฟดอยช้างถึงแม้จะไม่ได้ทำแฟรนไชส์ในเมืองไทย แต่ใช่ว่า จะไม่ทำเลย แฟรนไชส์กาแฟดอยช้างแห่งแรกกลับไม่ได้เกิดขึ้นที่เมืองไทย แต่อยู่ที่ประเทศเกาหลี เป็นความร่วมมือกับคู่ค้าที่นั่น เบื้องต้นจะมีประมาณ 57 ร้าน แคนาดากำลังจะเริ่ม ที่เลือกเกาหลี เพราะผู้ร่วมทุนที่นั่นมีความเชี่ยวชาญในเรื่องแฟรนไชส์เป็นอย่างดี

หลังสั่งสมความรู้มาเป็นเวลานานจึงเปิดสถาบันฝึกอบรมวิชาการกาแฟ(DOI CHAANG ACADEMY OF COFFEE)ขึ้นบนดอยช้าง ปัจจุบันนี้มีคนเข้ามาศึกษามากมายทั้งคนในประเทศและต่างประเทศ ถึงแม้จะมองว่ายังทำได้ไม่ดีพอ แต่บอกได้ว่ากาแฟดอยช้างจะสร้างชื่อเสียงไปทั่วทุกมุมโลกแน่นอน