กาแฟสด “กระชายดำ” แฟรนไชส์ขายดี ‘คอฟฟี่ บัน’ (Coffee Bun)

กาแฟสดที่ผ่านการผสมผสานเมล็ดกาแฟเข้ากับสมุนไพร “กระชายดำ” จนเป็นที่มาของกาแฟหอมกรุ่น รสชาติเข้มข้น พร้อมคุณประโยชนจากกระชายดำ งานนี้เรียกว่าอร่อยแถมมีประโยชน์ คุณธัญญ์นิธิ ศรีบุรินธนาภรณ์ ประธานวิสาหกิจชุมชน รักษ์สมุนไพรไทยท่าศาลา จังหวัดเลย ได้รวมกลุ่มกันกับชาวบ้านในหมู่บ้าน ร่วมกันแปรรูปเมล็ดกาแฟมาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยเริ่มแรกนั้นคั่วบดเมล็ดกาแฟขายกันเองในชุมชน ต่อมาจึงคิดหาวิธีสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสินค้า โดยศึกษาเรียนรู้การคั่วกาแฟ ลองผิดลองถูกจนได้กาแฟ รสชาติเข้มข้น มีความหอมเป็นพิเศษ เมื่อมีกาแฟที่เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแล้ว ก็คิดต่อยอดสร้างเอกลักษณ์ให้แก่ตัวสินค้า โดยนำเอา กระชายดำ ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีอยู่จำนวนมากในท้องถิ่น เข้ามาเป็นอีกหนึ่งในวัตถุดิบผลิตกาแฟนั่นเอง

การแปรรูปกระชายมาใส่ในกาแฟนั้น มีวิธีการมาจาก การนำกระชายดำไปผสมกับน้ำผึ้ง ผ่านกรรมวิธีแปรรูปจนกลายเป็นเกล็ดผง ซึ่งเกล็ดผงนี้สามารถใช้ทดแทนน้ำตาลทราย โดยจะมีความหวานเช่นเดียวกับน้ำตาลทรายแต่จะมีความละมุนของเนื้อมากกว่าน้ำตาลทราย เมื่อนำกาแฟมาชงจะสัมผัสได้ถึงรสอ่อนๆของกระชายดำนั่นเอง โยตัวของกระชายดำนั้นมีสรรพคุณช่วยลดอาการปวดเมื่อย และช่วยระบบการหมุนเวียนของเลือด

หลังจากที่ได้สูตรกาแฟกระชายดำ จึงเริ่มทดลองชงให้ลูกค้าดื่ม ซึ่งผลปรากฏออกมาว่า ลูกค้าต่างชื่นชอบและให้การตอบรับเป็นอย่างดี มีออเดอร์จากทั่วประเทศ อีกทั้ง ทางจังหวัดยังให้เครื่องหมาย “The BEST สุดยอดเมืองเลย” ในฐานะผลิตภัณฑ์เด่นประจำจังหวัดอีกด้วย”

เมนูที่มีนอกจากกาแฟสดที่เป็นเมนูยอดนิยมแล้ว ยังมีเมนูเอสเพรสโซ่ คาปูชิโน ลาตเต้ ชาเขียว ชาเย็น โกโก้ เป็นต้น สนนราคาขาย อยู่ที่แก้วละ 30 – 65 บาท เมื่อเป็นที่นิยมและมีคนติดต่อเข้ามาขอซื้อเพื่อขายต่อจำนวนมาก จึงเปิดขายในรูปแบบแฟรนไชส์ขึ้นมา ภายใต้ชื่อว่า ‘คอฟฟี่ บัน’ ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา โดยมีสาขามากกว่า 120 สาขาทั่วประเทศ

ข้อมูลแฟรนไชส์
งบลงทุน 75,000 บาท

สิ่งที่จะได้รับ
อุปกรณ์ครบชุด เช่น คีออส เครื่องชง เครื่องบดกาแฟ และอุปกรณ์อื่นๆ ครบถ้วนพร้อมเปิดร้าน

เงื่อนไขสำคัญ
ต้องรักษาคุณภาพตามข้อตกลง และรับวัตถุดิบหลักจากส่วนกลาง ได้แก่ กาแฟคั่วบด ในราคา กิโลกรัมละ 500 บาท และผงกระชายดำผสมน้ำผึ้ง ในราคา 50 บาทต่อน้ำหนัก 100 กรัม