กาแฟ Trung Nguyen เขาสร้างความเป็นผู้นำได้อย่างไร?

กาแฟ Trung Nguyen เขาสร้างความเป็นผู้นำได้อย่างไร

กาแฟ Trung Nguyen เขาสร้างความเป็นผู้นำได้อย่างไร?

หากพูดถึงเมล็ดกาแฟพันธุ์ดีหลายคนอาจมองหาเมล็ดกาแฟที่ผลิตจากประเทศในแถบอเมริกาใต้อย่างบราซิลหรือโคลอมเบีย แต่น้อยคนนักที่จะจินตนาการถึงประเทศในแถบเอเชียอย่างเวียดนาม ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีปริมาณการผลิตและส่งออกเมล็ดกาแฟมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก นับตั้งแต่ชาวเวียดนามได้รับวัฒนธรรมการดื่มกาแฟมาจากฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 19 วัฒนธรรมการดื่มกาแฟก็ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง โดยกาแฟตามแบบฉบับของเวียดนามนั้นจะต้องชงกาแฟผสมเข้ากับนมข้นหวานและน้ำแข็งเพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม ถึงตรงนี้ใครๆ หลายคนอาจกำลังตั้งคำถามอยู่ในใจว่าประเทศที่มีปริมาณการส่งออกเมล็ดกาแฟเป็นอันดับต้นๆ ของโลก อีกทั้งผู้คนต่างก็หลงใหลในเสน่ห์ของการดื่มกาแฟ มีใครเป็นผู้นำด้านแบรนด์กาแฟและเขาสร้างความเป็นผู้นำได้อย่างไร?

ด้วยความนิยมในการดื่มกาแฟที่เพิ่มมากขึ้นประกอบกับการมีเมล็ดกาแฟคุณภาพดีเป็นทุน นาย Dang Le Nguyen Vu จึงได้เล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจและเกิดความคิดริเริ่มในการสร้างแบรนด์กาแฟสัญชาติเวียดนาม “ตรุงเหงียน” (Trung Nguyen Coffee) ขึ้นมา โดยนาย Dang ได้สร้างภาพลักษณ์ให้กับกาแฟตรุงเหงียนเป็นกาแฟระดับพรีเมี่ยม ทันสมัยแต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของกาแฟเวียดนาม ร้านกาแฟตรุงเหงียนจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการคัดสรรเมล็ดกาแฟอย่างพิถีพิถัน เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างสรรค์รสชาติกาแฟที่หลากหลาย นาย Dang ได้เปิดร้านกาแฟแห่งแรกขึ้น ณ เมืองโฮจิมินส์ ซึ่งร้านของเขาได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีและกลายมาเป็นที่นิยมในหมู่ชาวเวียดนามได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อร้านกาแฟตรุงเหงียนเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น บริษัท Trung Nguyen Coffee จึงเริ่มมองหาโอกาสที่จะขยับขยายสาขาโดยบริษัทได้นำกลยุทธ์ Triangular approach มาใช้ ด้วยวิธีดังกล่าว ร้านกาแฟที่ตั้งขึ้นใหม่ทุกๆ สามร้านจะตั้งอยู่ในบริเวณที่สามารถเดินหากันได้ทั้งหมด ซึ่งวิธีนี้จะส่งผลดีต่อการบริหารจัดการและการควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เพื่อช่วยให้สามารถเข้าถึงลูกค้าตามเมืองต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น บริษัทจึงได้นำกลยุทธ์การขายเฟรนชายส์ (Franchise) เข้ามาใช้ควบคู่กัน หลังจากประสบความสำเร็จในการขยับขยายสาขา ในปี 2003 บริษัทได้สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดซึ่งเป็นกาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่มตรา G7 โดยจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย ร้านค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อ G7 Mart ทั่วประเทศ

เมื่อฐานลูกค้าในประเทศเริ่มอิ่มตัวประกอบกับการมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเพิ่มมากขึ้น บริษัท Trung Nguyen Coffee จึงเริ่มเปลี่ยนกลยุทธ์จากการขยายฐานลูกค้ามาเป็นการรักษาฐานลูกค้า โดยหันมาให้ความใส่ใจกับคุณภาพด้วยการเพิ่มคุณภาพของวัตถุดิบ การปรับปรุงร้านให้ทันสมัย รวมถึงการรักษาคุณภาพในการให้บริการ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายตลาดแบรนด์กาแฟตรุงเหงียนไปยังต่างประเทศ โดยบริษัทเลือกที่จะเปิดร้านในย่าน Roppongi Hills อันเป็นย่านแหล่งบันเทิงชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทมีแนวคิดที่ว่าหากบริษัทสามารถประสบความสำเร็จได้ในประเทศญี่ปุ่นอันเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกหลั่งไหลเข้ามามากมาย แบรนด์กาแฟตรุงเหงียนจะสามารถมีชื่อเสียงได้ในช่วงข้ามคืนและมันจะกลายเป็นก้าวสำคัญสำหรับแบรนด์กาแฟตรุงเหงียนที่จะเป็นที่รู้จักในต่างแดน

ด้วยคุณภาพของเมล็ดกาแฟที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดี การมีรสชาติกาแฟที่หลากหลายประกอบกับความมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างกาแฟเวียดนาม จึงทำให้แบรนด์กาแฟตรุงเหงียนประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นบริษัท Trung Nguyen Coffee ได้ขยายสาขาไปยังประเทศต่างๆ มากมาย อาทิ สิงคโปร์ จีน ออสเตรเลีย ยุโรป รวมถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปัจจุบันกาแฟตรุงเหงียนเป็นที่นิยมและรู้จักกันในวงกว้างกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งการมาเยือนประเทศเวียดนามแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ จนได้รับสมญานามว่า “กาแฟแห่งเอเชีย”

กาแฟ Trung Nguyen เขาสร้างความเป็นผู้นำได้อย่างไร

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กาแฟ Trung Nguyen
ผู้เขียน: EIC | Economic Intelligence Center
เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ Post Today ฉบับวันที่ 7 สิงหาคม 2557

แสดงความคิดเห็น


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *