ก้าวสู่สังคมไร้เงินสดแห่งโลกอนาคตในปี 2020
ในยุค 2020 ที่กำลังจะถึงนี้ สังคมโลกจะถูก Disrupt เข้าสู่ภาวะสังคมไร้เงินสดแห่งโลกอนาคตอย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งนักธุรกิจทุกคนจำต้องปรับตัวให้ทันยุคสมัยแห่งความเปลี่ยนแปลงที่มากที่สุดกว่าที่เคยมีมา เพื่อยังคงรักษาธุรกิจให้อยู่รอดและเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป
ในอดีตเราจะคุ้นเคยกับสังคมไร้เงินสด ผ่านรูปแบบของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต รวมถึงการให้บริการของ Mobile Banking หรือการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือโดยแพลตฟอร์มการให้บริการของสถาบันการเงินธนาคาร
แต่ภายหลังการถือกำเนิดสกุลเงินดิจิตอล Cryptocurrency ในยุค 2009 ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 10 ปี รูปแบบสังคมไร้เงินสดของคนยุคนี้ได้เปลี่ยนแปลงเข้าสู่ Social Banking หรือการทำธุรกรรมทางการเงินด้วยสกุลเงินดิจิตอลรูปแบบต่างๆ ผ่านมือถือสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้คนทั่วโลกต่างรู้จักและใช้งานกันหลากหลายสกุลเงินดิจิตอล และคุ้นเคยกับคำว่า E-Wallet หรือกระเป๋าเงินดิจิตอล
ในปี 2020 นี้ จะเป็นช่วงที่รูปแบบวิถีชีวิตของผู้คนถูกยกระดับและพัฒนาไปสู่สังคมดิจิตอลที่มีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเต็มตัว โดยเฉพาะเมื่อ Facebook ประกาศเปิดตัวการใช้งานสกุลเงินดิจิตอล Libra ในต้นปี 2020 นี้ ซึ่งหากสามารถทำได้สำเร็จตามกำหนดเป้าหมายที่วางเอาไว้ นั่นแสดงว่า ประชากร 1 ใน 3 ของโลกที่กำลังใช้งาน Facebook อยู่ มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเข้าสู่ “สังคมไร้เงินสด” อย่างแน่นอน
นักธุรกิจ SME ควรทำธุรกิจอย่างไรในโลกที่ไร้เงินสด?
ในช่วงที่ผ่านมา SME อาจมีการปรับตัวเพื่อรองรับ “สังคมไร้เงินสด” อยู่บ้างประปราย จากระบบการใช้จ่ายเงิน Fiat ผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต และ Mobile Banking ซึ่งอาจทำให้นักธุรกิจ SME หรือพ่อค้าแม่ค้าในโลกธุรกิจขนาดเล็ก ไม่ค่อยตื่นตระหนกในเรื่องสังคมไร้เงินสดสักเพียงใด นั่นเป็นเพราะลูกค้าส่วนใหญ่ ยังคงนิยมการใช้จ่าย ชำระค่าสินค้าและบริการด้วยเงินสดเป็นหลัก
แต่สำหรับตอนนี้ ที่ยุคสมัยกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมเงินดิจิตอล Cryptocurrency ที่เริ่มได้รับการยอมรับและมีความนิยมแพร่หลายเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น สกุลเงินดิจิตอลต่างๆ ได้ถูกผลิตออกมาเพื่อรองรับการลงทุน การดำเนินธุรกิจ การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน การเปลี่ยนแปลงต่างๆ จึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และส่งผลกระทบกับรูปแบบการทำงาน วิถีชีวิตและการดำเนินธุรกิจในทุกระดับ รวมถึง SME อย่างแน่นอน เราจึงจำต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับมือ ก่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะก้าวมาถึงในเร็ววันนี้
“สังคมไร้เงินสด” คือการที่ผู้ซื้อและผู้ขาย ทำการซื้อขายสินค้าบริการ ด้วยการชำระเงินจากกระเป๋าเงินดิจิตอลหรือที่เรียกว่า E-Wallet จากบัญชีหนึ่งสู่อีกบัญชีหนึ่งโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินสด ผ่านระบบให้บริการออนไลน์ด้วยแอพพลิเคชั่น สมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ต
นั่นหมายถึง การซื้อขายหรือทำธุรกรรมต่างๆ ไม่จำเป็นต้องพกเงินสดที่จับต้องได้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ แต่มูลค่าการซื้อขายจะถูกถ่ายโอนให้กัน จากบัญชีหนึ่งสู่อีกบัญชีหนึ่ง ซึ่งสะดวก ง่ายดาย รวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูง ค่าธรรมเนียมการให้บริการหรือค่า Fee ก็มีราคาถูกหรือฟรี แถมมีหลักฐานยืนยันการทำธุรกรรมที่เชื่อถือได้อีกด้วย
สกุลเงินดิจิตอลจึงจะก้าวเข้ามาแทนที่สกุลเงิน Fiat อย่างค่อนข้างสมบูรณ์จนหลายฝ่ายมองว่า เงิน Fiat จะไม่ได้รับความนิยมและหายไป เสมือนการเปลี่ยนผ่านยุคของสกุลเงินที่มักเกิดขึ้นในทุกๆ 50 ปี ของประวัติศาสตร์ทางการเงินโลก
หากเราสังเกตให้ดีถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ก็จะเห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมการใช้จ่ายเปลี่ยนแปลงสอดคล้องกับความเปลี่ยนไปของโลก ดังจะเห็นได้จากผู้คนนิยมใช้จ่ายผ่านการสแกนบาร์โค้ดหรือโอนเงินเข้าบัญชีด้วยมือถือแทนการจ่ายด้วยเงินสด รวมถึงการเติบโตของร้านค้าออนไลน์ หรือการค้าขายในตลาด E-Commerce ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคนิยมเลือกการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงิน E-Wallet มากขึ้น ด้วยทั้งเหตุผลด้านราคาและโปรโมชั่นที่ดีกว่า รวมถึงการสะสมแต้มในบัญชีเพื่อแลกรับสินค้าและบริการอื่นๆ ต่อเนื่องไป ซึ่งมีความคุ้มค่ากว่าการจ่ายด้วยเงินสด
เกมการเงินในสังคมไร้เงินสดจะมีการแข่งขันอย่างดุเดือดกว่าในอดีต เพราะสกุลเงินดิจิตอลนั้น สามารถพัฒนาได้โดยเอกชน ซึ่งต่างจากในอดีตที่มักมาจากสถาบันการเงินธนาคารเพียงเท่านั้น นั่นจึงเป็นโอกาสในการแข่งขันอย่างอิสระ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้สกุลเงินดิจิตอลในตัวเลือกที่ดีและคุ้มค่าที่สุด
ดังนั้น SME จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือพฤติกรรมตามค่านิยมของผู้บริโภค เพื่อปรับรูปแบบการชำระเงินให้สอดคล้องและสะดวกต่อการใช้ชีวิตของผู้บริโภคเป็นหลัก ก็จะสามารถสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะหากปฏิเสธการปรับตัวแล้ว อาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย ดังจะเห็นได้จากกรณีการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มต่างชาติที่เลือกใช้บริการเฉพาะร้านค้าที่ให้บริการชำระเงินออนไลน์เพียงเท่านั้น
สำคัญที่สุดก็คือ การเป็นปลาไวของ SME ที่ต้องเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพราะด้วยเกมการแข่งขันทางการตลาดที่สูงจากภาคเอกชน กลยุทธ์และโปรโมชั่นต่างๆ จะถูกโปรโมตออกมาอย่างต่อเนื่อง และเปลี่ยนแปลงไวขึ้น ใช้ระยะเวลาสั้นขึ้น SME ต้องพร้อมรองรับทุกเงื่อนไขกลยุทธ์และโปรโมชั่นอันหลากหลาย จากผู้พัฒนาสกุลเงินดิจิตอล ตามความต้องการของผู้บริโภค จึงจะไม่เป็นการเสียโอกาส และรักษาสถานะธุรกิจให้อยู่รอดและเติบโตต่อไป
หากในปี 2020 นี้ Libra สามารถก้าวขึ้นสู่การเป็น Global Currency หรือสกุลเงินดิจิตอลกลางของโลกได้ตามเป้าหมาย นั่นก็เท่ากับว่าสังคมไร้เงินสดจะครอบคลุมและได้รับความนิยมในการใช้งานไปทั่วโลกอย่างแน่นอน การปรับตัวของ SME ก็เป็นไปได้ง่าย เพราะสามารถผูกบัญชีเข้ากับ Facebook , Whatsapp , Calibra หรือบัญชีธนาคารต่างๆ ได้โดยสะดวกและใช้งานเป็นสากลทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับเงินและโอนจ่ายได้ทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็วแถมค่าธรรมเนียมยังต่ำอีกด้วย ที่สำคัญคือ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเงินที่แตกต่างออกไปในแต่ละสกุลเงินของแต่ละประเทศ เพราะ Libra จะเป็นฐานค่าเงินกลางรองรับอยู่ ซึ่งจะทำให้การซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในสังคมไร้เงินสดเป็นไปได้อย่างเสรีมากยิ่งขึ้น
นี่คือความเปลี่ยนแปลงไปแห่งสังคมไร้เงินสดในยุค 2020 ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับคนไทยและคนทั่วทั้งโลกในเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งจะต้องติดตามความเคลื่อนไหวและจับตามองความเปลี่ยนแปลงกันอย่างไม่คลาดสายตา