ขายก๋วยเตี๋ยวเรือ “I am เตี๋ยวเรือ” เสิร์ฟชามยักษ์ ไอเดียทำเงิน
ขายก๋วยเตี๋ยวเรือ ยังคงเป็นธุรกิจที่อยู่คู่สังคงไทยมาอย่างยาวนาน เพราะคนไทยชอบทานก๋วยเตี๋ยว ทำให้เมนูก๋วยเตี๋ยวถูกดัดแปลงสูตรต่างๆ และมีความหลากหลาย อย่างเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือก็เป็นอีกหนึ่งสูตรยอดนิยม และเป็นสูตรทำเงินมานาน ผู้ประกอบการหน้าเก่าใหม่จึงให้ความสนใจกับธุรกิจนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าการขายก๋วยเตี๋ยวเรือจะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะต้องใช้องค์ประกอบหลายอย่าง มากไปกว่าการปรุงรสชาติให้อร่อย แต่การบริหารจัดการก็มีส่วนเช่นกัน
ขายก๋วยเตี๋ยวเรือ ครั้งนี้มาพร้อมกับผู้ประกอบการหน้าใหม่หนึ่งราย แน่นอนการเริ่มต้นธุรกิจในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างการขายก๋วยเตี๋ยวเรือจะทำอย่างไรให้สู้กับผู้ประกอบการหน้าเก่าๆ ที่มีฐานลูกค้าประจำได้ มีชื่อเสียงยาวนานสั่งสมมากว่าหลายปี ทั้งนี้ต้องพลิกแพลงกันพอสมควร แต่สำหรับผู้ประกอบการที่เรานำมาเสมอในครั้งนี้ มีวิธีการขายก๋วยเตี๋ยวเรือที่แตกต่างออกไป โดยการเสิร์ฟในไอเดีย “ชามยักษ์” สร้างกระแสให้กลายเป็นที่รู้จักและน่าสนใจ ทำให้เกิดการสร้างรายได้ที่สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง
ธุรกิจขายก๋วยเตี๋ยวเรือวันนี้มาพร้อมกับร้านที่มีชื่อว่า “I am เตี๋ยวเรือ” ก่อตั้งขึ้นจากพนักงานประจำที่ทำงานมากว่า 3 ปี แต่รายได้ไม่เพียงพอต่อชีวิตประจำวัน เจ้าของร้านมีสองท่านด้วยกันเป็นการร่วมทุนกันระหว่างพี่น้อง ได้แก่ “คุณธนกฤต กาญจนหฤทัย” และ “คุณปุณณภา กาญจนหฤทัย” โดยในส่วนของคุณปุณณภาซึ่งเรียนจบมาทางด้านการค้าขายผ่านอินเทอร์เน็ต ครั้นเมื่อมีเวลาว่างสองพี่น้องก็ร่วมกันระดมความคิดว่าจะทำอะไรดีให้เป็นธุรกิจส่วนตัว แต่เพราะคุณแม่มีสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือเด็ดๆ จึงคิดอยากขายก๋วยเตี๋ยวเรือขึ้นมา บวกกับแนวคิดที่อยากสร้างความแตกต่างจากร้านก๋วยเตี๋ยวเรือทั่วไปในท้องตลาด จึงคิดขายเป็นชุด แยกเส้น แยกน้ำ และแยกผัก ซึ่งเป็นจุดเด่นของร้านที่ไม่เหมือนใคร
แต่ถึงแม้ร้านจะคิดจุดเด่นในการเสิร์ฟที่แตกต่างออกไปแล้วก็ตาม ก็ยังพบว่าเสียงตอบรับยังไม่ดีเท่าที่ควร โชคดีที่มีนักชิมจากเว็บไซต์หนึ่งที่เห็นความแปลกและเกิดความสนใจเข้ามาชิม ก่อนจะนำเรื่องราวของร้านไปเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์และมีผู้ตามมาชิมจากเว็บไซต์ดังกล่าว ทำให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการสร้างกำไรได้มากขึ้น จากยอดขายวันละ 2,000 บาทก็เพิ่มเป็นหลักหมื่นบาท ทั้งยังสามารถคืนทุนได้ภายใน 3-4 เดือน นับเป็นความสำเร็จของธุรกิจตอนนั้น
สำหรับรูปแบบการขายก๋วยเตี๋ยวเรือที่ว่าแตกต่างนั้นก็คือการขายแบบเป็นชุด แบ่งเป็นชุดใหญ่กับชุดเล็ก ชุดเล็กราคา 169 บาท ได้เส้นก๋วยเตี๋ยว 5 ก้อน แยกเส้น แยกน้ำและแยกผักออกจากกัน ในจำนวนเส้น 5 ก้อนนั้นลูกค้าสามารถเลือกชนิดเส้นปนกันได้ตามใจชอบ ชุดนี้หากเปรียบเทียบกับปริมาณแบ่งออกเป็นชามเล็ก จะสามารถแบ่งได้เป็น 10 ชาม ส่วนชุดใหญ่ขายในราคา 299 บาท มีเส้นก๋วยเตี๋ยวทั้งหมด 10 ก้อน สามารถแบ่งเป็นชามเล็กได้ 20 ชาม นอกจากการขายแบบชุดแล้วก็จะมีขายเป็นชามด้วยเช่นกัน ซึ่งมีทั้งหมด 2 ขนาด ได้แก่ ชามเล็กราคา 19 บาท (ปริมาณเท่ากับ 1/10 ของชุดเล็ก และ 1/20 ของชุดใหญ่) ส่วนชามใหญ่ขายราคาชามละ 39 บาท
ผลตอบรับของธุรกิจ I am เตี๋ยวเรือ ค่อยๆ ดีขึ้นเป็นลำดับ มีการบอกต่อกันปากต่อปากและแชร์ผ่าน Facebook ถึงรสชาติที่อร่อยซึ่งเป็นสูตรของคุณแม่เจ้าของร้าน บวกกับการไอเดียการเสิร์ฟที่ไม่เหมือนใครช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไรให้มากขึ้น สำหรับการขายเป็นชุดส่วนมากคนที่มากันหลายคนหรือมากันเป็นกลุ่มมักจะสั่งแบบเป็นชุดไปทาน แต่ถ้ามาแค่คนสองคนก็จะสั่งเป็นชามๆ เหมือนกับการทานก๋วยเตี๋ยวทั่วๆ ไป เมื่อเปรียบเทียบราคาแล้วการสั่งเป็นชุดจะคุ้มค่ากว่า โดยเฉพาะชุดใหญ่ที่ขายในราคา 299 บาทปริมาณเท่ากับชามเล็ก 20 ชาม หากสั่งเป็นชาม ชามละ 19 บาท 20 ชามจะเท่ากับ 380 บาท
ในส่วนของการบริหารจัดการร้านยังมีความน่าสนใจ เพราะเจ้าของร้านไม่จำเป็นต้องเข้ามาเฝ้าร้านด้วยตนเอง อาศัยระบบไอทีที่นำมาปรับใช้ในการเก็บเงิน มีการตรวจนับที่แม่นยำ ควบคู่ไปกับการควบคุมด้วยระบบกล้องวงจรปิด ทำให้ผู้ประกอบการบริหารเวลาได้ง่ายขึ้น มีความอิสระในการทำธุรกิจมากขึ้น ปัจจุบัน I am เตี๋ยวเรือ สามารถขยายสาขาได้ถึง 2 สาขาด้วยกัน ได้แก่ สาขาแฮปปี้แลนด์และสาขาอุดมสุข ทางผู้ประกอบการยังมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มอีก หากสาขาที่ 2 ลงตัวแต่ในแง่ของแฟรนไชส์นั้นยังไม่คิด เพราะกลัวว่าลูกแฟรนไชส์จะนำสูตรไปปรับทำให้เสียมาถึงสาขาต้นแบบ และหากกล่าวถึงรายได้ส่วนตัวนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับงานประจำ รายได้ของธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวก็สูงกว่าประมาณ 3-4 เท่าตัว
ข้อมูลติดต่อธุรกิจขายก๋วยเตี๋ยวเรือ I am เตี๋ยวเรือ
ที่อยู่ : สาขาแฮปปี้แลนด์ และสาขาอุดมสุข
โทรศัพท์ : 099 235 2905
Facebook : I-am-เตี๋ยวเรือ
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : I am เตี๋ยวเรือ