ขายขนมครก “แม่พลอย” ต่อยอดสูตรโบราณ สู่แป้งชาไทย ไมโล ชาโคล

ขายขนมครก เป็นอีกหนึ่งอาชีพขายดี เพราะขนมไทยเมนูนี้เป็นเมนูที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอ แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปสักแค่ไหน คนปัจจุบันยังคงทานขนมครกและเด็กรุ่นใหม่ยังรู้จักขนมชนิดนี้อยู่ เป็นขนมที่วางจำหน่ายทั่วไป และได้รับการตอบรับที่ดีเสมอมา ทำให้อาชีพขายขนมครกเป็นอีกหนึ่งอาชีพทำเงินที่น่าสนใจ วันนี้เราก็มาพร้อมกับธุรกิจขายขนมครกที่มีอายุยาวนาน เลี้ยงครอบครัวได้อย่างยั่งยืนด้วยขนมโบราณ และปัจจุบันมีการปรับปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยด้วย

รวมศูนย์ฝึกอาชีพ “เรียนทำขนมไทย” ล่าสุด คลิ๊ก>>

รวมแฟรนไชส์ทาโกะยากิ – ขนมครก ล่าสุด คลิ๊ก>>

20 เมนูขนมทานเล่นสุดฮิต ทำเงิน คลิ๊ก>>

รวมขายส่ง “ขนมไทย” ปังปี๊บ ขนมหวาน คลิ๊ก>>

ขายขนมครก “แม่พลอย” เป็นชื่อแบรนด์ขนมครกที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น เริ่มต้นธุรกิจโดย “คุณกัลยา สอนชัย” เจ้าของธุรกิจขายขนมครกแม่พลอยสูตรโบราณ มีความโดเด่นที่ตัวแป้ง เพราะใช้เป็น “แป้งสด” ในการทำขนมครก ซึ่งแตกต่างจากขนมครกทั่วไป ที่มักใช้เป็นแป้งสำเร็จรูปและแป้งข้าวเจ้า แต่แป้งสดของขนมครกแม่พลอยจะเป็น “ข้าวหอมมะลิ” ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่นิ่มนวลและมีรสชาติอร่อยกว่าขนมครกเจ้าอื่นๆ ซึ่งคุณกัลยาก็ได้ทำอาชีพขายขนมครกมากว่า 30 ปี เป็นอาชีพที่ยั่งยืนสามารถเลี้ยงครอบครัวได้จนส่งลูกเรียนจบปริญญาตรี

เดิมทีขนมครกแม่พลอยก็เหมือนกับทั่วๆ ไป มีหน้าผักชีเป็นตัวเลือกหนึ่งในร้านพร้อมกับแป้งข้าวหอมมะลิสูตรดั้งเดิมที่ทำมานาน เป็นขนมครกแบบเดียวไม่ได้มีให้เลือกมากมายอะไร กระทั่งลูกชาย “คุณณัฐพล ธำรงลีฬหา” เมื่อเรียนจบและมาหยิบจับธุรกิจดั้งเดิมของพ่อแม่ ต่อยอดเพิ่มความหลากหลายและยกระดับธุรกิจสู่การสร้างแบรนด์ด้วยรูปแบบขนมครกที่แตกต่างออกไป เดิมทีคุณกัลยาขายขนมครกแบบ “รถเข็น” แต่ลูกชายก็มาเปลี่ยนภาพลักษณ์ธุรกิจไปจากเดิม

คุณณัฐพลได้เข้ามาเพิ่มสูตรแป้งขนมครกจากแป้งสดข้าวหอมมะลิ ก็มีตัวเลือกเพิ่มในอีก 4 สูตรด้วยกัน ได้แก่ แป้งชาไทย แป้งชาโคล แป้งไมโล รวมถึงแป้งข้าวไรซ์เบอรี่เพื่อสุขภาพ ตอบรับกระแสคนรักสุขภาพในปัจจุบันได้อย่างลงตัวที่สุด ทำให้ที่ร้านขนมครกแม่พลอยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมและเพิ่มความทันสมัยมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นยังเพิ่มเติมในส่วนของหน้าขนมครกด้วย เมื่อเดิมทีมีเพียงอย่างเดียวคือหน้าผักชี แต่ตอนนี้ได้รังสรรค์เพิ่มถึง 8 หน้าด้วยกัน ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน เสมือนเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ได้อย่างน่าสนใจ

จากนั้นร้านขายขนมครกแม่พลอยก็เปลี่ยนจากการขายบนรถเข็นมาเป็นการเช่าหน้าร้านเป็นหลักแหล่ง สร้างแบรนด์ธุรกิจให้ดูมีกิจจะลักษณะกว่าเดิม อีกทั้งยังเพิ่มเติมในส่วนของการขยายแฟรนไชส์อีกด้วย ซึ่งตอนนี้สามารถขยายแฟรนไชส์ได้ 4 สาขาแล้วในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในส่วนของราคาก็มีการปรับให้เข้ากับต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เดิมทีขายอยู่ที่กล่องละ 20-25 บาท แต่ปัจจุบันวางจำหน่ายที่ราคากล่องละ 40 บาท บรรจุขนมครกจำนวน 9 คู่ แผนธุรกิจในการปรับเปลี่ยนการขายของคุณณัฐพลยังไม่ได้จบเพียงเท่านั้น เพราะได้มีการกำหนดเวลาการขายใหม่ แบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ 7:00–14:00 น. และ 17:00–21:00 น. เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคมากขึ้น

คุณณัฐพลตั้งเป้าว่าปีนี้จะขยายสาขาแฟรนไชส์เพิ่มเป็น 10 สาขาในราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 9,000 บาทไปจนถึง 30,000 บาท ในส่วนของผลตอบแทนจากการขายอยู่ที่ 40-50% มีรายได้จากการขาย 7,000-8,000 บาท สำหรับผู้ที่เข้าร่วมแฟรนไชส์ มีข้อแนะนำคือการสร้างกำไรขึ้นอยู่กับทำเลเป็นสำคัญ และสำหรับเงื่อนไขในการเข้าร่วมคือต้องสั่งซื้อแป้งจากทางแบรนด์เท่านั้น ส่วนการทำหน้าขนมครกทางแบรนด์จะสอนให้ หรือสามารถสั่งซื้อได้จากทางแบรนด์เช่นกัน