ขายขนมจีน บุฟเฟ่ต์ อาชีพสร้างรายได้ “ขนมจีนร้านชาวดิน”

ขนมจีน อาหารขึ้นชื่อของแต่ละภาคอยู่แล้วเพราะด้วยหากพูดเมนูนี้คนไทยทุกคนก็คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะขนมจีนนั้นมีมาจั้งแต่สมัยบรรพบุรุษเป็นอาหารจานเดียวที่ทานง่ายมากๆ แถมรสชาตินั้นยังอร่อย กลมกล่อม ทั้งกะทิ และเนื้อที่มีการใส่ลงไป ด้วยความนิยมของคนไทยจึงเป็นที่มาของธุรกิจขายขนมจีนบุฟเฟ่ต์ไม่อั้นในราคาถูก ของคุณกี้ที่ประสบความสำเร็จได้ในระดับนึงแล้วคะ ซึ่งเนื้อหาในวันนี้ก็จะเป็นสิ่งที่น่าสนใจเลยทีเดียวคะ เพราะผู้ประกอบการอย่างร้านขนมจีนบุฟเฟ่ต์ชาวดินได้เป้นผู้เล่าประสบการณ์เองเลยคะ

ธุรกิจขายขนมจีนบุฟเฟต์นี้เริ่มจาก “ คุณพีระณัฐ วังหอม “ หรือ คุณกี้ “ หนุ่มใหม่ไฟแรงชาวอีสานที่เรียนจบปริญญาตรีด้านการตลาด เมื่ออยากจะเรียนต่อปริญญาโท จึงอยากจะมาลงทุนทำธุรกิจก่อนแล้วเรียนไปทำไป ซึ่งช่วงนั้นได้มาฝึกงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และคุณกี้ก็ได้ไปทานขนมจีนบุฟเฟ่ต์ที่ร้านหนึ่งในห้างสรรพสินค้า จึงได้ไอเดียในการทำธุรกิจที่ว่า ที่ต่างจังหวัดนั้นไม่น่าจะมีจึงได้โทรไปเช็คความแน่ใจที่บ้านก่อน เมื่อที่บ้านบอกไม่มีทำแบบนี้เลยจึงคิดได้ว่าน่าจะนำธุรกิจขายขนมจีนนี้ไม่ทำแถวมหาลัยที่ตนเรียนอยู่น่าจะดีเพราะทางอีสานชอบกินขนมจีนกันอยู่แล้ว แถวนั้นยังมีนักศึกษาอยู่มากน่าจะเรียกยออดขายได้ดี

หลังจากการที่คิดจะเปิดร้านขายขนมจีน คุณกี้ ก็ได้มีโอกาสจากผู้ประกอบการแบรนด์ดังอย่างร้าน “ ชาวดิน “ มาให้คำปรึกษาอีกด้วย ถึงแม้ทางภาคอีสานจะมีร้านขายขนมจีนเยอะอยู่แล้วแต่แบบบุฟเฟ่ต์ทานไม่อั้นนั้นยังไม่มีใครเข้าไปทำการตลาดนี้เลย จึงเป็นช่องว่างที่น่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ซึ่งคุณกี้ก็ได้ความรู้จากการฟังที่ว่า ทำเลที่จะทำนั้นหากจะนำขนมจีนอย่างบุฟเฟ่ต์ลงไปขายนั้นหากมองว่าเป็นตลาดหรือริมทางก็ทองว่าคงไม่น่าจะดีเพราะอากาศก็ร้อนควันรถก็เยอะ หากจะไปโรงแรมลูกค้านั้นก็คงไม่เยอะเท่าที่ควร จึงมองไปตลาดกลางๆอย่างการขายในห้าง

การเลือกใช้น้ำยามาขายนั้นตอนแรกก็มีการนำมาทดลองหลายๆก่อนเมื่ออันไหนขายไม่ได้ก็นำออกไป ส่วนเส้นนั้นก็มีโรงงานผลิตเองเลย พริกแกง น้ำยาก็มีการทำเองทั้งหมด ส่วนการควบคุมนั้นก็ควรลงไปดูร้านเองบ่อยๆเพราะจะทำให้รู้ระบบร้านมากขึ้น ส่วนราคานั้นทางร้านก็จะขายต่อหัว หัวละ 55 บาทซึ่งก็จะมีทั้งขนมจีนไม่อั้น ขนมหวานในร้านก็ยังไม่อั้นอีกด้วย ซึ่งที่มาขายราคานี้คุณกี้ก็ได้มีการลงไปสำรวจบวกลบต้นทุนแล้วไม่ขาดทุนแน่นอน คนนึงก็กินได้ประมาณ 2-3 จานก็อื่มแล้วจะมีบางคนเท่านั้นที่จะกินถึง 4-5 จาน นอกจากจะให้กินไม่อั้นแล้วเวลาก็ยังไม่จำกัดอีกด้วย

ส่วนปัญหาก็มีอยู่บ้างก็คือลูกค้านั้นตักมาแล้วทานไม่หมด ซึ่งถ้าเหลือไม่เยอะมาก็ไม่เป็นไรแต่หากเหลือเยอะเกินเหตุทางร้านก็จะมีการปรับ โดยก่อนจะปรับนั้นก็จะมีการถามก่อนว่ามีปัญหาอะไรเกี่ยวกับขนมจีนไหมถ้าหากมีทางร้านก็จะขอโทษแทน ปัจจุบันนั้นขนมจีนชาวดินสามารถขยายสาขาไปได้อย่างมากซึ่งการบริหารจัดการก็คือ ในแต่ละสาขาจะเพียงแค่ล้างกับหั่นผัก ส่วนขนมจีนกับน้ำยาทางส่วนกลางจะมีการทำส่งให้เวลาเช้าและบ่าย ส่วนผักในร้านนั้นมีถึง 12 แบบ โดยจะไม่มีการให้ขาดสิ่งใดเลยแม้จะแพงก็ตาม ส่วนเรื่องการบริหารจัดการในส่วนของเงินนั้นคุณกี้ก็ได้เลือกใช้ระบบไอทีซึ่งช่วยได้มาก หากมีอะไรผิดพลาดก็สามารถเข้าไปดูได้เลยเพราะจะเป็นโปรแกรมที่จ้างเขียนมา

หลังจากที่ได้ข้อมูลแล้วคุณกี้ ก็ได้นำไปต่อยอดธุรกิจร้านขนมจีนของตนจนสามารถประสบความสำเร็จได้ ซึ่งหากใครสนใจอยากทำธุรกิจขายขนมจีนละก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าเข้าไปลงทุนอย่างมากคะเพราะถึงแม้จะลงทุนมากแต่กำไรนั้นก็ได้มากเหมือนกันคะ เพียงแค่วัตถุดิบผู้ลงทุนต้องสรรหาเองในราคาถูกแต่คุณภาพต้องดีก็น่าจะเรียกลูกค้าได้ดีมากทีเดียวคะ