ขายขนมเปี๊ยะ สูตรแต้จิ๋ว 100 ปี “เล่าฮ่อเจี๊ยะ” ต้นตำรับความอร่อยแท้ดั้งเดิม!
ขนมเปี๊ยะ ขนมมงคลที่มักจะนิยมกันในช่วงเทศกาลสำคัญๆของชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งปัจจุบันนี้ร้านขายขนมเปี๊ยะนั้นดูเหมือนจะหาได้น้อยลงมาก เนื่องจากร้านเก่าแก่หลายเจ้าต่างก็พากันปิดกิจการ ไม่ก็หันไปทำอย่างอื่นกันเสียมากกว่า ก็ว่าด้วยเรื่องของค่านิยมที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่จริงๆแล้ว ใครเลยจะรู้ว่ายิ่งสังคมเปลี่ยนไปยุคสมัยเปลี่ยนไป ถึงอย่างไรเสียขนบธรรมเนียมก็ยังคงอยู่ชั่วลูกหลาน ดังนั้นเมื่อถึงกาลพิธีสำคัญๆต่างๆ เครื่องไหว้และขนมในพิธีจึงเป็นที่ต้องการยิ่งนัก และเมื่อมีร้านขายน้อยลงๆ หาซื้อได้ยาก ร้านที่ยังคงดำเนินกิจการสืบทอดมาแน่นอนว่าก็จะได้รับอานิงสงค์จากส่วนนี้ไป แต่หลายคนอาจเข้าใจว่าขายขนมเปี๊ยะเห็นทีคงจะขายดีเฉพาะในช่วงเทศกาลเท่านั้น แต่เปล่าเลยหากท่านรู้จักต่อยอดประยุกต์สินค้าไม่ว่าคุณจะขายอะไร หากสินค้าของคุณดีจริง ถูกใจลูกค้า คุณก็จะขายสินค้าประกอบอาชีพนั้นไปได้เรื่อยๆ เฉกเช่นเดียวกับร้านขายขนมเปี๊ยะที่กล่าวถึงต่อไปนี้
ร้านขายขนมเปี๊ยะที่ว่านี้ทำขนมเปี๊ยะขายมาแล้วกว่าสามชั่วอายุคน เริ่มต้นเป็นร้านเล็กๆ โดยมีเจ้าของสูตรผู้ที่ลงมือทำขนมเองคือ “นายไล้ แซ่เล้า” ชาวจีนแต้จิ๋วที่อพยพมาจากแผ่นดินใหญ่ มาลงหลักปักฐานอยู่ที่เมืองไทย ใช้ฝีมือการทำขนมที่ได้ร่ำเรียนมาจากบรรพบุรุษ ทำขนมเปี๊ยะขายเลี้ยงชีพ “สูตรแต้จิ๋ว” ในเวลานั้นขนมเปี๊ยะของนายไล้เป็นที่กล่าวขวัญถึงกันอย่างมากเรื่องรสชาติความอร่อย สร้างชื่อให้ท้องถิ่นที่และกลายเป็นขนมเจ้าดังขึ้นชื่ออันดับต้นๆของบ้านเรา
ผ่านมาแล้วกว่า 100 ปี ร้านขายขนมเปี๊ยะของนายไล้ ก็ยังคงถูกสานต่อโดยทายาทรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ได้เข้ามาสานต่อกิจการของบรรพบุรุษ โดยยึดหลักเดิมคือสูตรดั้งเดิม “สูตรแต้จิ๋ว” ที่คงความอร่อยไว้เหมือนครั้งที่ยังเป็นรุ่นของนายไล้ ผู้เป็นทายาทรุ่นที่ 3 นี้คือ “คุณกานต์ ริ้วเลิศพันธ์” ดูแลกิจการต่อจากรุ่นของคุณพ่อ ด้วยความที่ตนเองนั้นคลุกคลีมากับขนมเปี๊ยะตั้งแต่เด็ก รวมทั้งเครือญาติทั้งหลายก็ประกอบอาชีพขายขนมเปี๊ยะเรียกว่าตลอดชีวิตนั้นอยู่กับขนมเปี๊ยะเลยก็ว่าได้ ทำให้ซึมซับทุกด้านเกี่ยวกับขนมเปี๊ยะสูตรของครอบครัว
เมื่อยุคสมัยที่เปลี่ยนไปการก้าวให้ทันการวิวัฒนาการจึงจำเป็นสำหรับหลายกิจการ เมื่อถึงคราวที่ต้องแยกตัวออกมาสร้างกิจการเอง จึงได้ทำการสร้างแบรนด์ขึ้นมาใหม่ แต่ทว่ายังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และรสชาติดั้งเดิมแท้ๆ เพียงแค่ต้องการให้เกิดความแปลกใหม่สร้างความตื่นตาด้วยบรรจุภัณฑ์ทันสมัย ภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า “เล่าฮ่อเจี๊ยะ” การพัฒนาในครั้งนี้ เป็นการปรับมาตรฐานกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ โดยเปลี่ยนมาบรรจุภัณฑืภายใต้ถุงพลาสติกสุญญากาศ พร้อมกับใส่ที่กันชื้นเข้าไปด้วยเพื่อช่วยขยายอายุการเก็บรักษาได้ยาวนานขึ้นกว่า 1.5 เดือน
แน่นอนว่าการพัฒนาในส่วนนี้จะช่วยให้การสต็อกสินค้าเป็นไปได้อย่างง่ายดาย สามารถจัดการให้มีสินค้าขายได้ทั้งปี ไม่จำเป็นต้องมีขายแค่ช่วงเทศกาล และในช่วงเทศกาลก็จะได้ทันต่อความต้องการของลูกค้าอีกด้วย ทั้งนี้บรรจุภัณฑ์ยังมีการดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกให้ออกมาดูสวยสดงดงาม ด้วยสีแดงสีมงคลของชาวจีน พร้อมทั้งลวดลายสไตล์จีนโบราณสื่อถึงรสชาติดั้งเดิม พร้อมกันนี้ยังมีการมลายด้วยทองเค เพื่อเสริมหรูหรา มีระดับ เหมาะแก่การซื้อเป็นของขวัญของฝากให้ญาติผู้ใหญ่ รสชาติของขนมเปี๊ยะ คงสูตรต้นตำรับของขนมเปี๊ยะอินทร์บุรีแท้ๆ มีจุดเด่นที่ “ไส้” จะค่อนข้างหยาบ เวลาเคี้ยวจะรู้สึกถึงความสดกรอบของเนื้อไส้ ปรับความหวานให้มีรสหวานกำลัง โดยขนมเปี๊ยะมีให้เลือก 5 ไส้ คือ “ไส้ถั่วฟักไข่ ไส้ฟักล้วน ไส้ถั่วล้วน ไส้งาดำ และไส้ทุเรียน”
ขนมเปี๊ยะมีด้วยกัน 3 ขนาด คือ
1. ขนาดเล็ก ขายปลีก 35 บาท/ส่ง 29 บาท
2. ขนาดกลาง ขายปลีก 60 บาท/ส่ง 50 บาท
3. ขนาดใหญ่ ขายปลีก 120 บาท/ส่ง 100 บาท
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการออกแบรนด์น้องใหม่เสริมเข้าไปนั่นก็คือ “ธัญทิพย์” ขนมเปี๊ยะพระจันทร์ ซึ่งจะเป็นขนมเปี๊ยะชิ้นเล็กพอดีคำ บรรจุภัณฑ์ออกแบบมาให้สวยงามเทรนด์สมัยใหม่ ตั้งใจจะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ มั่นในได้ในเรื่องของคุณภาพเพราะขนมทุกชิ้นผลิตจากวัตถุดิบที่คัดสรรมาแล้วอย่างดี แป้งที่ใช้ทำขนมจะเลือกเกรดเอ ไข่เค็มสำหรับทำไส้ขนมก็หมักไข่เป็ดเอง ไม่มีการใส่กันเสียใดๆทั้งสิ้น ขั้นตอนการผลิตได้มาตรฐาน อย. แถมยังได้รับคัดเลือกเป็นสินค้าโอทอปประจำจังหวัดด้วย
ปัจจุบันได้มีการนำเอานวัตกรรมเครื่องจักรมาใช้ในกระบวนการผลิตขนมเปี๊ยะ เพื่อย่นระยะเวลาในการผลิตให้สั้นลง อย่างเช่น การกวนไส้ การหั่นส่วนผสม เป็นต้น แต่ทั้งนี้ขั้นตอนส่วนใหญ่ยังต้องใช้แรงงานคนเพราะเน้นเรื่องของความเป็นสูตรดั้งเดิมดังนั้นหลายขั้นตอนจึงจำเป็นต้องใช้วิธีแบบโบราณ เช่น การห่อไส้ การปั้นขนม เป็นต้น กำลังการผลิตจะอยู่ที่พันชิ้นต่อวัน โดยขณะมีจำนวนพนักงาน 10 คนคอยดูแล สำหรับรายได้เฉลี่ยของยอดขายจะอยู่ที่ 1-2 แสนบาทต่อเดือน มีตัวแทนจำหน่ายกว่า 50 รายทั่วประเทศ ในกรงเทพฯจะขายตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ สินค้าขายดีจะเป็นช่วง เทศกาลไหว้พระจันทร์ เทศกาลปีใหม่ เทศกาลวันสงกรานต์ เป็นต้น กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มลูกค้าประจำที่เคยซื้อไปแล้วติดใจในรสชาติแล้วกลับมาซื้อใหม่ รวมทั้งมีการบอกต่อกันปากต่อปากเลยมีให้ได้ฐานลุกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ข้อมูลติดต่อขายขนมเปี๊ยะ
ที่ตั้ง : ตำบลอินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
โทร.036-581-110 , 08-1907-8320 และ 08-9676-7711
หมายเหตุ : รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น