วิเคราะห์โดย 4p การตลาดพื้นฐาน
Product เราขายอะไร สินค้าอะไร มันเป็นสินค้าที่ดี มีคุณภาพ ขายตัวมันเอง หรือขายตามกระแสฮิต เราต้องชูคุณสมบัติของสินค้า ถ้าเป็นสินค้าวูบวาบตามกระแส มาไวไปไว เราต้องตามให้ทัน ปล่อยให้เร็ว กระแสหมดก็ตกขายไม่ออก สินค้ากระแสมันขายกันเยอะ ลูกค้ามีทางเลือกเยอะ เขาอาจจะมียี่ห้อประจำ แล้วยี่ห้อเราเชื่อถือได้ไหม ดีกว่าของเดิมที่ลูกค้ากินอยู่หรือเปล่า ถ้าดีกว่าต้องบอกให้ได้ว่าดีกว่ายังไง เหนือกว่ายี่ห้ออื่นยังไง ลูกค้าถึงจะต้องทิ้งยี่ห้อเก่าที่เขาเคยกินมาซื้อของเรา ต้องจูงใจลูกค้าให้ได้ ถ้าคุณสมบัติไม่มีอะไรเหนือกว่าเขาคงไม่ลองยี่ห้อใหม่
Price ราคาสินค้าสำคัญมากนะ ยิ่งออนไลน์ ลูกค้าคลิกๆก็เห็นแล้วว่ามีกี่ร้านที่ขายของเหมือนเรา ราคาถูกกว่าเราหรือเปล่า เราต้องสืบราคาว่าคู่แข่งร้านอื่นเขาขายกันเท่าไหร่ ตั้งราคาอย่าแพงกว่ามาก ไม่งั้นใครจะซื้อของแพง ใครๆก็ต้องเข้าร้านที่ราคาถูกกว่าทั้งนั้น ราคาก็ดูในระดับเหมาะสม แบบธุรกิจอยู่ได้ ลูกค้าซื้อไหว อย่าตัดราคาจนกำไรไม่เหลือ ไม่งั้นนอนอยู่บ้านดีกว่า ขายทำไมให้เหนื่อยเนอะ
Promotion เพิ่มเติมเช่น ซื้อ5กล่องแถม1กล่อง หรือ3กล่องส่งฟรี 4กล่องลด10% อะไรพวกนี้ ดึงดูดความสนใจลูกค้า เพราะดูแล้วมันราคาถูกกว่าเยอะ
Place สถานที่ขาย นี่ก็สำคัญ ลูกค้าอยู่ตรงไหน เราต้องไปขายที่ตรงนั้นให้ได้ เราต้องดูกลุ่มเป้าหมายให้ออก อาหารเสริมผิวขาว เหมาะกับคนที่รักสวยรักงาม อยากขาว งี้ต้องคิดล่ะว่าคนพวกนี้เขาไปอยู่ตรงไหน แล้วเราไปเสนอสินค้าให้พวกนี้เห็นให้ได้ ถ้าเราไปเสนอขายให้คนไม่สนใจความงามเขาก็ไม่ซื้อหรอก ต้องเสนอให้กลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มว่าจะซื้อจริง เช่นอาจไปสิงอยู่ในเพจเกี่ยวกับความงาม หรือเว็บบอร์ดอะไรที่เกี่ยวกับความสวยงาม แล้วค่อยๆเสนอสินค้าให้กลุ่มนั้นดู อาจจะมีคนสนใจเพิ่ม
ส่วนตัวเราว่าการซื้อโฆษณาเฟสบุ๊ค กดไลค์ ฟอลไอจี ไม่ช่วยอะไร เพราะเขาไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของสินค้านี้ คิดดูสิ ถ้าเราเป็นคนขาวอยู่แล้ว หรือไม่ชอบอาหารเสริม เราคงไม่กดเข้าไปดู ไม่สนใจคลิกด้วยซ้ำ
ควรจะทบทวนกลยุทธ์ใหม่ วิธีที่ใช้อยู่นี้ไม่ได้ผลแล้ว ปัญหาอยู่ที่ไหนต้องคิดให้ได้ เช่น ตัวสินค้ามันไม่ดีหรือเปล่า ยี่ห้อโนเนม คนไม่รู้จัก เลยไม่กล้าซื้อ หรือว่าราคาแพงเกินไปจนลูกค้าคิดว่าไม่คุ้ม หรือ ยังเสนอขายไม่ตรงกับคนที่อยากซื้อ ง่ายๆคือยังหาลูกค้าไม่เจอนั่นแหละ เพราะตอนนี้ไปเสนอให้ใครไม่รู้ หว่านแหไปหมด เขาเลยไม่สนใจหรือเปล่า เราต้องหากลุ่มที่เขาสนใจให้เจอซะก่อนถึงจะมีโอกาสขายได้บ้าง แล้วถ้าเจอลูกค้าที่สนใจจริง ก็จัดโปรโมชั่นให้เขาหน่อย ลด แถม อะไรก็ว่าไป ดึงความสนใจให้ได้ว่าของเราดีกว่าเจ้าอื่นนะต้องซื้อเราสิ สุดท้ายอะไรไม่ยากเท่าการซื้อซ้ำ ทำไงให้ลูกที่เคยซื้อไปแล้วกลับมาซื้ออีก ให้ติดร้านเราไม่ไปร้านอื่นอันนี้ต้องใช้ประสบการณ์ช่วยแล้วละ
ความคิดเห็นจาก pantip id : กินข้าวบ้านหนุกดี
เทคนิคการเพิ่มกำไร
– ราคาถูกไม่ใช่ชนะทุกอย่าง ลูกค้าบางกลุ่มไม่ได้ตัดสินซื้อเพราะราคาอย่างเดียว มันต้องดูส่วนผสมด้วย สินค้าของคุณมีจุดเด่นตรงไหน ทำไมต้องซื้อแบรนด์คุณ
– เพิ่มความน่าเชื่อถือของสินค้า การรับรองต่างๆ ตรงนี้เราต้องพรีเซนต์แบรนด์ของเราให้ดีค่ะ เช่น ส่วนผสมในวิตามินอาหารเสริมของเรา ให้ออกมาลูกค้าดูแล้วเขาใจได้ กินแล้วดียังไง ทำไมถึงดี ? ดีเพราะอะไร ? เห็นผลได้จริงหรือ เราใส่ส่วนผสมอะไร ไม่ใช่แค่รีวิว เอาคนสวยๆมารีวิวแล้วจบ….ถือกล่อง ถ่ายรูป โพสท์เล่าว่ากินแล้วดี
– เปลี่ยนแพ็คเก็จจิ้ง รีแบรนด์ใหม่ทั้งหมด ภาพลักษณ์ของแบรนด์คือ สิ่งที่ลูกค้าจะตัดสินใจ เปิดใจให้เรา ต้องน่าเชื่อถือ ดีไซน์ดูเรียบง่ายมินิมอลแต่หรูหราดูแพง ประมาณนี้กำลังมา หน้าเพจ หรือ IG ต้องปรับเปลี่ยนใหม่ ให้ดูน่าเชื่อถือเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ ทำให้ดูมีคลาสกว่านี้ ไม่เอาที่ดูเชยๆ มันดูแล้วทำให้สินค้าเราขาดความน่าเชื่อถือไปด้วย
– เปิดรับตัวแทนจำหน่าย สำคัญมากเลยค่ะ คุณควรมีตรงนี้ให้มากๆ เพราะเป็นการกระจายสินค้าของต่างจังหวัดและกระจายพื้นที่ลูกค้า มีตัวแทนช่วยโปรโมท ตัวแทนเขาก็รับสินค้าหลายอย่างมาขาย ทั้งอาหารเสริม ครีม สกินแคร์ เมคอัพ เขาก็จะโพสท์ลง FB IG ขาย และมียอดฟอลโลว์เยอะอยู่น่าจะทำให้สินค้าคุณกระจายตัวได้มากขึ้นกว่านี้ แต่ต้องตกลงเรื่องผลประโยชน์ กำไรเปอร์เซนต์การขายกับตัวแทนให้ดี จะได้ไม่มีดราม่าค่ะ
– รีวิวสินค้า ที่น่าดึงดูดและเป็นมืออาชีพมากขึ้นคิดว่าน่าจะช่วยตรงนี้ได้ เทคนิคการรีวิวก็สำคัญ สคริปต้องน่าสนใจค่ะ ต้องดูจริงใจน่าเชื่อถือ ไม่พูดเวอร์เกินจริง ไม่ใช่ดูแล้วรู้สึกเลยว่ามาหลอกขายของมาก
ความคิดเห็นจาก pantip id : สมาชิกหมายเลข 4382671
เทคนิคขายของ/บริการประทับใจ
1. ตั้งราคาสินค้าต่ำกว่าท้องตลาดประมาณ 20-40% เช่น ต้นทุน 100.- ราคาขาย 300.- จัดโปรโมชั่นลดเหลือ 250.- แน่นอนว่าต้องสำรวจคู่แข่ง ที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันด้วย เรทราคาไม่ควรแพงกว่าราคาขายทั่วไปมากค่ะ เพราะจะทำให้สินค้าขายยากสมมุติ เราเป็นลูกค้า เจอร้านที่ขายของแบบเดียวกัน แต่อีกร้านถูกกว่า เราก็อยากจะซื้อของร้านนั้นจริงมั้ยคะ
2. รูปภาพสินค้าไม่ควรถ่ายออกมาเวอร์จนเกินไป ไม่ใส่ข้อมูลสินค้าเกินกว่าคุณภาพ ลูกค้าสั่งครั้งแรกอาจจะผิดหวัง แทนที่จะเป็นลูกค้าประจำกลับหายไปเลย
3. การจัดส่งสินค้า ควรส่งให้เร็วไม่เกินวันถัด หรือ อาจจะกำหนดเงื่อนไขต่างๆขึ้นมา เพื่อทำงานให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น เช่น ร้านของเรา โอนเงินภายในวันที่ ก่อน 17.00 จัดส่งสินค้าวันถัดไป หลังเวลาจัดส่งวันมะรืน
4. กำหนดราคาจัดส่งสินค้า ไม่ควรแพงมากจนเกินไป บางร้านอาจจะบวกกำไรจากค่าจัดส่ง คิดซะแพงเวอร์ ลูกค้าก็ไม่อยากซื้อนะคะ
5. การพูดคุย/ตอบคำถามลูกค้า แน่นอนว่าทุกร้านต้องเคยพบเจอลูกค้าที่ทำให้ปวดหัวไม่ใช่น้อย สั่งของไม่โอนเงินบ้างล่ะ เรื่องมากบ้างล่ะ ถามเยอะแยะแต่สุดท้ายไม่ซื้อ พ่อค้าแม่ค้าคนอื่นเราไม่รู้นะคะว่ามีวิธัจัดการปัญหานี้ยังไง แต่สำหรับเรา ไม่เคยด่าลูกค้าค่ะ ลูกค้าจัดเต็มแค่ไหน ก็ไม่เคยต่อปากต่อคำ สั่งของมาแต่ไม่โอน ก็ไม่ตามค่ะ มีเงื่อนไข 1 วันไม่โอน ยกเลิกออเดอร์ ก็ยกเลิกไป แต่ไม่ใช่ว่าเราแคร์ลูกค้าหรืออะไรนะคะ ถ้ามีลูกค้าบอกว่า แพงจัง ลดราคาอีกได้มั้ย โอนตอนเช้าส่งของเลยได้มั้ย ถ้าเราไม่ทำตามก็จะไม่ซื้อ เราจะตอบไปเลยว่า “ถ้าลูกค้าไม่สะดวกสั่งซื้อสินค้า ก็ไม่เป็นค่ะ” จบแบบสวยๆค่ะ
6. ความประทับใจสำหรับลูกค้า เราคิดว่ามีปัจจัยหลายๆอย่างรวมกัน เช่น พูดจาดี ส่งของไว สินค้าตรงตามต้องการ คุณภาพตามที่ลงไว้ และราคาไม่ได้แพงเวอร์ ยิ่งลูกค้าประทับใจบริการเท่าไร ก็มีโอกาสที่จะกลับมาซื้อสินค้ากับเราอีกครั้ง
7. รีวิวสินค้า ถ้ามีลูกค้าส่งรีวิวมา เราจะแคปหน้าจออัพลงเพจร้านตลอดเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือค่ะ
ความคิดเห็นจาก pantip id : สมาชิกหมายเลข 2812285