ขายข้าวไข่เจียว อาชีพเงินจากเมนูไข่ ทำง่ายแต่ขายดี

ขายข้าวไข่เจียว อาชีพเงินจากเมนูไข่ ทำง่ายแต่ขายดี

ข้าวไข่เจียวเมนูที่แสนธรรมดา แต่ทำเงินได้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว! เมนูคู่ใจยามยาก นึกไม่ออกบอกไม่ถูก ไม่รู้จะกินอะไรดี ช่วงประหยัดเงิน ข่าวไข่เจียวคือทางออกของทุกปัญหาเหล่านี้ แต่จะขายข้าวไข่เจียวอย่างไรให้ขายดี? ซึ่งหากพูดจริงๆแล้วแม้จะเป็นแค่การทอดไข่ธรรมดาๆแต่จะทอดให้ออกมาสีสันสวยงาม สุขกำลังดี ก็ใช่ว่าจะทำกันได้ทุกคนต้องใช้ประสบการณ์ล้วนๆ ดังนั้นเราไปทำความรู้จักกับอาชีพทำเงินที่ว่านี้กันดีกว่ากับ “การขายข้าวไข่เจียว”

การลงทุนขายข้าวไข่เจียว

สำหรับผู้ที่อยากจะทำขายเป็นอาชีพ งบ 2,000 บาท ก็ขายได้แล้ว การเริ่มลงทุนก็ไม่ยุ่งยากอะไรนักหากท่านไม่อยากจะซื้อแฟรนไชส์ อยากทำเองขายเองมากกว่า สิ่งที่ต้องลงทุนก็คืออุปกรณ์ในการขาย เช่น กระทะ ตะหลิว หม้อหุงข้าว โต๊ะ ผ้าปูโต๊ะ เตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้า ถ้วยสำหรับใส่เครื่องปรุง /เครื่องเคียง กล่องโฟม ช้อนพลาสติก ข้าวสาร เครื่องปรุง ไข่ไก่ เนื้อสัตว์ น้ำมันและซอสต่างๆ ถุงพลาสติก

ซึ่งหากพิจารณาแล้วข้าวของเครื่องใช้ที่กล่าวมาก็ล้วนแล้วแต่หาได้จากในบ้านของเราเอง ไม่ว่าจะเป็น กระทะ ตะหลิว ถ้วยชาม เป็นต้น ก็หยิบมาใช้เสียให้เป็นประโยชน์ อย่างโต๊ะ ก็ใช้โต๊ะที่มีอยู่ในบ้าน เป็นโต๊ะทรงสูงสี่เหลี่ยมธรรมดาๆก็เพียงพอแล้ว หรือจะทำขึ้นเองก็ได้ไม่น่าจะยากลองให้คนที่บ้านช่วยทำดูได้ ผ้าปูโต๊ะก็เอาจากที่มีอยู่มาใช้ก็ได้เช่นกัน ประหยัดต้นทุนไปได้เยอะ แต่ก็อย่าลืมว่าข้าวของที่เลือกมาใช้ต้องอยู่ในสภาพดี ไม่ชำรุดผุพัง เพราะแทนที่จะได้ประหยัดอาจทำให้ขายไม่ออกเพราะดูไม่น่ากินแทน สำหรับที่จำเป็นต้องซื้อใหม่จริงๆก็คงเป็น กล่องโฟมกับช้อนพลาสติก เครื่องปรุง ซอส ข้าวสาร ไข่ไก่ เนื้อสัตว์และผักต่างๆ แต่หากท่านมีต้นทุนพอที่จะซื้อของใหม่ทั้งหมดก็เป็นเรื่องที่ดี

การเลือกทำเลขาย

ข้าวไข่เจียวจริงๆแล้วไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ขายได้ เพราะทานได้ทุกเพศ ทุกวัย แต่ต้องเป็นสถานที่มีผู้คนหนาแน่นก็จะยิ่งดี เช่น ใกล้โรงเรียน ชุมชน หอพักนักศึกษา อพาร์ทเม้นต์ ตลาดนัด เป็นต้น เมื่อได้ทำเลขายที่เหมาะสมแล้วก็ลงมือขายได้เลย

ช่วงเวลาขายที่เหมาะสม

ข้าวไข่เจียวสามารถขายได้ทั้งวัน ทั้งเช้า เที่ยง เย็น เพราะบางคนนึกอยากกินตอนไหนก็กิน แต่ช่วงเวลาที่แนะนำให้ขายคือช่วงตอนเย็นไปจนถึงตอนค่ำ ช่วงที่เด็กกำลังกลับจากโรงเรียน นักศึกกลับจากมหาลัย พนักงานบริษัทเลิกงาน เพราะช่วงเวลาเหล่านี้จะเป็นช่วงที่กลุ่มลูกค้ากำลังหาซื้อของกลับไปกินเป็นมื้อเย็นนั่นเอง หากเลือกช่วงเวลาอื่นท่านก็อาจขายได้บ้าง ขายได้เรื่อยๆ แต่อาจเสียเวลาท่านอาจใช้ช่วงเวลาเหล่านั้นในการเตรียมของมาขายจะดีกว่าและจะได้มีเวลาพักผ่อนได้บ้าง

ราคาขายที่เหมาะสม

สำหรับข้าวไข่เจียวที่เราเจอโดยทั่วไป เราจะสามารถเลือกใส่เครื่องได้ตามใจชอบ ส่วนใหญ่จะก็จะเป็นผักหั่นซอยเล็กๆเอาไว้ให้เลือก เช่น แครอท หอมใหญ่ มะเขือเทศ ใบชะอม เป็นต้น พิเศษขึ้นมาหน่อยก็จะเป็น ไข่เจียวหมูสับ

ราคาขาย ข้าว + ไข่เจียว ธรรมดา ไข่ฟองเดียว 20 บาท
ข้าวไข่เจียว ไข่ 2 ฟอง 25 บาท
ข้าวไข่เจียวหมูสับ 30 บาท

ส่วนใครจะเพิ่มพิเศษไข่หรืออะไรก็แล้วแต่จะตกลงกัน สำหรับราคาขายนี้ถือว่ากำลังดี

หัวใจสำคัญของข้าวไข่เจียว

ข้าว และไข่เจียว คือหัวใจสำคัญ ข้าวจะต้องไปแข็งเกินไปและไม่นิ่มจนเละ หุงข้าวกำลังดี ใช้ข้าวมีคุณภาพ ส่วนไข่เจียวก็ต้องควบคุมอุณหภูมิความร้อนของน้ำมันให้ดี ให้มีความคงที่ ร้อนกำลังดี เวลาเจียวไข่จะได้สุกพร้อมกันทั่วทั้งแผ่น ไม่ติดกระทะหรือไข่ไหม้

**ส่วนสูตรนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละท่านว่าจะคิดสูตรไข่เจียวออกมาอย่างไร ทดลองทำหลายๆรอบและลองให้คนอื่นๆชิมดูก่อนจนได้สูตรที่คนที่ลองชิมแล้วชอบ จึงนำมาฝึกจนชำนาญ จนคล่องกะน้ำหนักมือได้แม่นยำแล้วจึงค่อยทำขาย

จะมัดใจลูกค้าได้อย่างไร?

1.เลือกใช้ของมีคุณภาพ คิดจะขายแล้วก็ต้องหวังผลระยะยาว อย่าคิดแต่จะได้แค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ เลือกซื้อไข่ใบใหญ่หน่อย ซอสและเครื่องปรุงก็ใช้ที่มีเครื่องหมายการค้าผ่านการตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัย มี อย.รับรอง

2. ข้าว สำคัญไม่แพ้รสชาติของไข่เจียวเลยก็คือข้าว ข้าวสารที่ใช้ในการหุงนำมาขายควรเลือกขายไม่แข็งจนลูกค้ากลืนไม่ลง เพราะต่อให้ไข่เจียวคุณจะอร่อยแค่ไหนแต่ถ้าหากข้าวคุณแข็งเสียจนทานไม่ได้ ครั้งต่อไปลูกค้าก็คงไม่กลับมาซื้ออีก เพราะลูกค้าบางรายก็พิจารณาจากข้าวด้วยเป็นหลักบางคนอาจไม่ชอบข้าวที่แข็งหรือเละ ดังนั้นอ้างอิงตามข้อที่ 1 คือเลือกใช้ของดีๆหน่อย

3. ใจเขาใจเรา ให้คิดอยู่เสมอว่าถ้าเราเป็นลูกค้าเราอยากได้ข้าวไข่เจียวแบบไหน หลายคนอาจมองว่าแค่ข้าวไข่เจียวจะใช้ของดีไปทำไมไม่คุ้มทุน แต่ถ้าว่ากันตามความจริงแล้ว แม้จะได้กำไรไม่มาก แต่การที่ท่านซื้อสัตย์กับตัวเองและลูกค้านั้น จะทำให้ท่านมีลูกค้าประจำและลูกค้าก็จะซื่อสัตย์กับท่านเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าจะขายไม่ได้

4. รู้จักประยุกต์ เมื่อถึงจุดอิ่มแล้วจะรู้สึกว่าร้านคงที่นิ่งๆ ก็ให้รู้จักประยุกต์ดัดแปลงเอาเมนูอื่นๆเข้ามาเสริมบ้าง เช่น ข้าวไข่เจียวทรงเครื่อง ข้าวไข่เจียวทูน่า ข้าวไข่เจียวหมูยอ เป็นต้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า เพิ่มความหลายหลายไม่ซ้ำซาจำเจ

5. มีใจรักบริการ งานขายทุกประเภท ทุกชนิด ใจรักบริการนั้นสำคัญ เป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ยิ้มแย้มแจ่มใส ใส่ใจทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการบริการอย่างเต็มที่ พูดจาไพเราะ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รวมไปถึง ดูแลความสะอาดทั้งบริเวณรอบๆร้าน และความสะอาดของตัวเอง

รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงรูปประกอบบทความเท่านั้น