ขายข้าว เพื่อสุขภาพธุรกิจต่อยอดข้าวไทย “ข้าวคำฉันท์“

ขายข้าว เพื่อสุขภาพธุรกิจต่อยอดข้าวไทย “ ข้าวคำฉันท์ “

ข้าวนั้นถือได้ว่าเป็นอาหารหลักของเกือบทุกประเทศ เพราะหากกินข้าวแล้วจะสามารถอยู่ได้เกือบทั้งวันเลย ซึ่งคนในเกือบทุกประเทศจึงเลือกที่จะกินข้าวเป็นอาหารหลัก อย่างประเทศไทยนั้นข้าวก็มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะกว่าชาวนานั้นจะปลูกได้นั้นก็ต้องใช้เวลาปลูกนานมาก คนไทยนั้นจึงให้ความสำคัญอย่างมากและ ด้วยข้าวเป็นอาหารหลัก ยอดขายข้าวนั้นจึงถือได้ว่าเป็นสินค้ายอดนิยมเลยแต่ละผู้ประกอบการที่มาทำนั้นจึงถือว่าไปได้ด้วยดีมากอย่างธุรกิจขายข้าวเพื่อสุขภาพแบรนด์คำฉันท์ข้าวสายพันธุ์ไทยคุณภาพดี ธุรกิจต่อยอดกำไรดี

ธุรกิจขายข้าวนี้เริ่มมาจาก “ คุณศศินันท์ ล้วนวรวัฒน์ “ จากเดิมเป็นธุรกิจเล็กๆของครอบครัวตนมีชื่อร้านว่าเป๋งง่วนฮง ซึ่งร้านนี้ก็เปิดมาตั้งแต่สมัยอากงเลย สำหรับสินค้าภายในร้านนั้นก็จะขายข้าวสารแบบปลีก โดยใช้พื้นที่ตึกแถวสองห้องด้านหน้าองค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม จากร้านเล็กๆนี้ เมื่อเริ่มมีกำไรมากขึ้นก็จึงขยายโกดังเป็นของตัวเองและรับซื้อข้าวสารจากโรงสีโดยตรง จากคุณพ่อคุณแม่ของคุณศศินันท์นั้นรับช่วงต่อนานแล้ว เมื่อคุณศศินันท์เรียนจบจึงเข้ามารับช่วงต่อ เมื่อคุณศศินันท์ได้รับช่วงต่อทำอาชีพขายข้าวแล้ว จึงต่อยอดธุรกิจของตนด้วยการคัดสรร และขายข้าวสารคุณภาพ ซึ่งจะเลือกใช้ข้าวแบบไม่ขัดสีเลย และสร้างแบรนด์ขายภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อว่า “คำฉันท์”

ถึงแม้จะมีธุรกิจขายข้าวที่ดีอยู่แล้ว แต่ด้วยคุณศศินันท์นั้นอยากจะมีสินค้าที่เป็นของตนเอง จึงได้สร้างแบรนด์ “ข้าวคำฉันท์” ขึ้นมาซึ่งชื่อแบรนด์นั้นก็มาจากความต้องการของคุณศศินันท์ที่ต้องการสร้างชื่อแบรนด์ที่ไม่ง่ายและจดจำได้ง่าย สำหรับสโลแกนของขายข้าวคำฉันท์นั้นก็คือ คือ “เฮลตี้ วิท อัส” หรือ “มีข้าวเพื่อสุขภาพมาขาย” และเหตุผลที่คุณศศินันท์เข้ามาทำตลาดขายข้าวไม่ขัดสีนั้นก็มาจาก คนไทยนั้นหันมาใสใจสุขภาพกันมากขึ้น ถึงแม้ราคาขายข้าวชนิดนี้จะขายสูงกว่าเดิมแต่ลูกค้านั้นก็ยอมจ่ายหากเพื่อสุขภาพที่ดีของตนเองและคนในครอบครัว ส่วนสินค้านั้นก็จะเป็นเช่น ข้าวสีนิล ข้าวกล้องงอก เป็นต้น

ในเรื่องของคุณค่าทางโภชนาการนั้นก็มีมากกว่าข้าวขัดขาวอย่างมาก ในบางส่วนที่คนไม่เลือกกินนั้นก็มาจากข้าวไม่ขัดสีนั้นจะแข็งหน่อย ส่วนข้าวขัดขาวก็จะนิ่มกว่าหน่อยเพราะได้ผสมข้าวหอมมะลิ สำหรับช่องทางการขายนั้นคุณศศินันท์ ก็จะเลือกการเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง ขายผ่านลูกค้ากลุ่มเดิมๆ กลุ่มคู่ค้าเก่า การบอกปากต่อปาก เลือกกระจายสินค้าในหลายช่องทาง นอกจากนี้ยังมีการไปออกบูธต่างๆ และนอกจากนี้ก็ยังมีการขายข้าวผ่านช่องทางออนไลน์อีกด้วยซึ่งลูกค้าที่ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์นั้นก็มียอดสั่งซื้อเป็นอย่างมาก สำหรับรายได้นั้นก็ถือว่าไปได้ด้วยดีเลยทีเดียว