ขายถุงเท้า “Old school“ ธุรกิจคนไทยรายหลักแสนต่อเดือน!!

ขายถุงเท้า “Old school” ธุรกิจคนไทยรายหลักแสนต่อเดือน!!

ทุกวันนี้ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จได้ก็เพราะทำในสิ่งที่ชอบ ซึ่งการทำในสิ่งที่ชอบนั้นจะทำให้คนเราสามารถทำได้เต็มที่กับงาน ทำแล้วไม่รู้สึกเบื่อ ธุรกิจก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยากอีกด้วย อย่างเช่นกับเจ้าของธุรกิจขายถุงเท้าแบรนด์ “Still Socks” แบรนด์นี้เริ่มต้นจากความชอบและอยากมีรายได้เสริมจึงได้สั่งถุงเท้า Old school เข้ามาขายปรากฏว่าผลตอบรับดีมากจนปัจจุบันนั้นเจ้าของแบรนด์นี้สามารถผลิตถุงเท้าด้วยตัวเองขายจนรายได้อยู่ที่หลักแสนต่อเดือนเลย

ถุงเท้า “Old school” เป็นถุงเท้าที่มีความหนาและยาวเหมาะกับการใส่เล่นสเก็ตบอร์ด อีกทั้งยังมีความเป็นแฟชั่นในแนวของสตรีทแวร์อีกด้วย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ถุงเท้าในแนวนี้ในประเทศไทยได้รับความนิยมแค่เฉพาะกลุ่มเท่านั้น ต่างจากในเมืองนอกที่ได้รับความนิยมเป็นกลุ่มใหญ่

ดังนั้นหากใครที่อยากได้ถุงเท้า Old school ก็จึงต้องสั่งเข้ามาจากต่างประเทศ ทำให้ราคาต่อคู่บางแบรนด์นั้นอยู่ที่ 700-800 บาท และด้วย “คุณธารินทร์ มีมงคล” นั้นเป็นคนชอบถุงเท้าชนิดนี้จึงได้สั่งมาใส่ดู เมื่อคุณธารินทร์ เอามาใส่ เพื่อนๆน้องๆทั้งในกลุ่มที่เป็นนักดนตรีและกลุ่มที่เล่นสเก็ตบอร์ดก็สนใจอยากได้ เมื่อเกิดช่องว่างธุรกิจตรงนี้ทำให้ คุณธารินทร์ มองเห็นช่องว่างทางธุรกิจ

จากนั้นก็ลองถ่ายรูปถุงเท้าที่ซื้อมาโพสขายถุงเท้าในเว็บไซต์ Overclockzone ในตอนนั้นแค่ลองทำเล่นดูๆ แต่ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับที่ดีมาก มีคนติดต่อซื้อของทั้งๆที่ตอนนั้นเองคุณธารินทร์ก็ไม่ได้สต็อกสินค้าไว้เลยแต่คนก็ยังโอนเงินเข้ามา จังหวะนั้นคุณธารินทร์จึงต้องบอกลูกค้าไปว่าสินค้าหมดต้องรอประมาณ 3 วัน แต่ที่จริงแล้วคุณธารินทร์ไม่ได้มีเงินทุนที่จะซื้อของมาสต็อกไว้ก่อน ก็เลยต้องใช้วิธีพรีออร์เดอร์แล้วสั่งของมาให้ลูกค้า

จากที่ทำแค่ใน เว็บไซต์ Overclockzone ก็ขยายไปขายถุงเท้าที่ Facebook ผลตอบรับก็ดีเช่นกัน จากนั้นมีเพื่อนเช่าล็อคเปิดร้านขายของอยู่ที่ตลาดนัดรถไฟเก่าตรงสวนจตุจักร คุณธารินทร์ก็ขอเข้าไปแจมโดยไปปูผ้าวางขายถุงเท้า ซึ่งมันก็ขายได้ ด้วยความที่ทำงานประจำเป็นหลัก ช่วงเวลาที่จะขายถุงเท้าได้จึงมีเวลาแค่ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยจะเริ่มขายตอน 5 โมงเย็นไปจนถึง ตี 1 จากนั้นคุณธารินทร์ก็เริ่มหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆเพื่อลดต้นทุนก็ได้พบกับเทรดเดอร์ชาวจีนที่อยู่ในเมืองไทย ชาวจีนคนนี้มีสต็อกถุงเท้า Old school เยอะมาก การนำเข้าถุงเท้าของคุณธารินทร์จึงนำเข้าจากคนจีนรายนี้

ต่อมาก็เพิ่มถุงเท้าแฟชั่นสำหรับผู้หญิง ส่วนจุดเริ่มต้นในการสร้างแบรนด์ถุงเท้านั้นก็เริ่มต้นจากการที่ได้ขยายร้านไปขายถุงเท้าที่ยูเนี่ยนมอลล์ซึ่งตอนนั้นคุณธารินทร์ได้โบนัสมาจึงได้เอามาลงทุนเป็นค่าพื้นที่ จากนั้นตลาดนัดสวนรถไฟก็ย้ายไปเปิดศรีนครินทร์ คุณธารินทร์จึงขายแต่ที่ยูเนี่ยนมอลล์แต่เมื่อมีตลาดเจ เจกรีนมาเปิดใกล้ๆคุณธารินทร์ก็ขยายไปขายถุงเท้าที่นั่นด้วย ซึ่งในตอนแรกตลาดก็เงียบๆแต่มาหลังๆตนเดินเยอะขึ้น ยอดขายถุงเท้าก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

ยอดขายถุงเท้าของทั้ง 2 สาขานั้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจเลยเพราะที่ยูเนี่ยนมอลล์อยู่ที่เดือนละประมาณ 300,000 บาท ส่วนสาขาเจเจ กรีน อยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท ซึ่งต้องบอกเลยว่าสาขาเจเจกรีนได้กำไรมากกว่าเพราะค่าที่ต่อวันอยู่ที่ 250 บาทเท่านั้นต่างจากที่สาขายูเนี่ยนมอลล์ที่ค่าพื้นที่อยู่ที่วันละ 1,500 บาท แถมต้องจ่ายค่าจ้างพนักงานอีก ถึงแม้จะมีการนำเข้าถุงเท้าจากแถบประเทศเอเชียเป็นหลัก

แต่คุณธารินทร์ก็ยังไม่ทิ้งความตั้งใจเดิมที่อยากจะสร้างแบรนด์ถุงเท้าเป็นของตัวเอง หลังจากอยู่วงการขายถุงเท้ามา 4 ปีจึงทำให้สามารถจับจุดได้ว่า คนไทยนั้นชอบใส่ถุงเท้าแบบไหน ลวดลายอย่างไรที่ได้รับความนิยม รวมถึงราคาขายที่เหมาะสม ช่วงนั้นจึงเริ่มติดต่อโรงงานผลิตในประเทศไทย ให้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ Still Sock Excusive ที่คุณธารินทร์ออกแบบและควบคุมการผลิตเองทั้งหมดให้และสุดท้ายก็สามารถวางจำหน่ายได้แล้ว

ทั้งนี้คุณธารินทร์ก็ยังได้จับเป้าหมายขายถุงเท้าอยู่เหมือนเดิมนั้นก็คือ นักดนตรีและกลุ่มที่เล่นสเก็ตบอร์ดและคนที่แต่งตัวสไตล์สตรีทแวร์ โดยตั้งราคาขายถุงเท้าทุกแบบ 180 บาท เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายระดับบนและกลุ่มคนที่เป็นเป้าหมายหลักของสินค้าอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมายังไม่มีใครลงมาสร้างแบรนด์ถุงเท้าในตลาดกลุ่มนี้เลย และสำหรับเป้าหมายในการธุรกิจระยะสั้นของคุณธารินทร์ก็คือ การเพิ่มไลน์สินค้าไปยังกลุ่มถุงเท้าแฟชั่นสำหรับสตรี ส่วนเป้าหมายระยะไกลคือคุณธารินทร์ต้องการให้ถุงเท้า แบรนด์ Still Sock Excusive นั้นสามารถส่งออกไปได้ เห็นไหมครับว่าหากใครตั้งใจที่จะทำในสิ่งที่ชอบจริงๆก็สามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ยากครับ

ข้อมูลติดต่อ ขายถุงเท้า
โทร. 083-199-0982
Facebook :Still Socks

http://www.youtube.com/watch?v=mAT4izQ8r20

หมายเหตุ รูปภาพและวิดีโอที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น