การปูพรมนั้นไม่ได้ให้แค่ความสวยงามและทำให้บ้านดูมีสไตล์เพิ่มขึ้น แต่ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ ซึ่งการปูพรมนั้นจะดีกว่าปล่อยให้พื้นบ้านโล่งๆ พรมจึงกลายเป็นไอเทมขายดีและนับเป็นสินค้าทำเงินที่ผู้ระกอบการให้ความสนใจลงทุนซื้อมาขาย
ข้อดีของการปูพรม ?
- การปูพรมสามารถช่วยเปลี่ยนห้องธรรมดา ให้ดูหรูหรา มีรสนิยมขึ้นมาได้ทันตาเห็น
- ด้วยลักษณะของพรมที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่ม ตัดกับพื้นผิวที่ดูแข็งของพื้นและผนัง ทำให้บรรยากาศในห้องนั้นดูผ่อนคลาย
- เลือกสีให้ดี ดีไซน์ให้โดน รับรองว่าช่วยเพิ่มความสดใส มีชีวิตชีวิตได้แน่นอน
- เหมาะสุด ๆ สำหรับห้องที่เปิดโฮมเทียร์เตอร์เป็นประจำ เพราะการปูพรมนั้นช่วยดูดซับเสียงได้
- ช่วยรักษาอุณหภูมิของ ทำให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนัก ประหยัดค่าไฟมากขึ้น
- เพิ่มสัมผัสที่อ่อนนุ่มให้กับเท้าและป้องกันการลื่นล้มได้ในระดับหนึ่ง
ซื้อพรมปูพื้นอย่างไรให้เหมาะกับห้อง ?
พรมปูพื้นห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก
การปูพรมที่บริเวณห้องนั่งเล่นนั้น เหมือนเป็นการช่วยจำกัดพื้นที่ให้ทุกคนอยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้นไปในตัว ซึ่งการเลือกขนาดของพรมนั้น สามารถดูได้จากพื้นที่ของชุดโซฟาเป็นหลัก ถ้าหากไม่สามารถหาขนาดที่พอดีได้ ก็สามารถเลือกขนาดที่เลยออกมาจากชุดโซฟาเล็กน้อย หรือให้ขนาดของชุดโซฟาเลยออกมาเล็กน้อยได้ค่ะ โดยพรมที่ใช้ควรเป็นพรมที่มีขนสั้นหรือผิวเรียบ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีการใช้งานและโดนกดทับค่อนข้างมาก แถมพรมลักษณะนี้ยังทำความสะอาดได้ง่ายด้วย
พรมปูพื้นห้องรับประทานอาหาร
เช่นเดียวกันกับห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ที่ต้องดูพื้นที่ของโต๊ะและเก้าอี้รับประทานอาหาร ว่ามีความกว้างขนาดไหน ซึ่งเวลานั่งรับประทานอาหารนั้น เก้าอี้ทั้งหมดจะต้องไม่เลยพื้นที่ที่ปูพรมออกมา จึงสามารถเลือกได้ทั้งพรมที่มีขนาดพอดีหรือมีขนาดกว้างกว่าเล็กน้อยนั่นเองค่ะ ไม่ควรเลือกแบบที่มีขนาดเล็กกว่านะคะ ส่วนพื้นผิวของพรมที่ใช้ก็ควรจะเป็นแบบขนสั้นหรือผิวเรียบ เช่นเดียวกับห้องรับแขก ที่สามารถทำความสะอาดและดูดฝุ่นได้ง่ายเหมือนกัน
พรมปูพื้นห้องนอน
มาถึงห้องนอนที่ต้องการบรรยากาศผ่อนคลาย เพื่อให้เหมาะกับการพักผ่อนมากที่สุด จึงควรเลือกใช้พรมที่มีลักษณะนุ่มฟู ขนหนาแน่น ส่วนการเลือกขนาดพรมสำหรับปูบริเวณเตียงนอนนั้นก็ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ให้ด้านข้างเตียงทั้งสองฝั่งมีพรมมารองรับอย่างเต็มพื้นที่ตลอดแนว เพราะเป็นส่วนที่เท้าเราจะสัมผัสเสมอเวลาขึ้นหรือลงจากเตียง บริเวณท้ายเตียงและหัวเตียงนั้นอาจจะสั้นหรือเลยออกมาเล็กน้อยก็ไม่ใช่ปัญหา
พรมทำมาจากวัสดุอะไรบ้าง ?
ข้อควรรู้สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่จะนำพรมมาขายคือรู้ว่าทำมาจากวัสดุอะไร คุณสมบัติเป็นอย่างไร จะได้แนะนำลูกค้าได้เวลาที่ลูกค้าขอคำแนะนำ
พรมไนลอน (Nylon)
ถ้าพูดถึงเรื่องความทนทานและได้รับความนิยมมากที่สุด ก็ต้องยกให้พรมไนลอนเลยค่ะ นั่นเพราะคุณสมบัติที่ทั้งป้องกันน้ำ รอยขีดข่วน เชื้อราและสารเคมี แถมยังมีหลายสี หลากดีไซน์ รวมทั้งถ้าเทียบกับคุณภาพแล้วก็ถือว่าราคาไม่สูงเกินไปด้วย
พรมโพลีโพรไพลีน (Polypropylene)
พรมที่ได้รับความนิยมรองลงมาจากพรมไนลอน ที่มีคุณสมบัติเด่นในการป้องกันคราบสกปรกต่าง ๆ มากที่สุด จึงเหมาะกับบริเวณที่ได้รับการกดทับและใช้งานค่อนข้างหนักอย่างการใช้ในห้องนั่งเล่น แถมยังทำความสะอาดง่ายและราคาย่อมเยากว่าพรมชนิดอื่น ๆ
พรมโพลีเอสเตอร์ (Polyester)
ถ้าหากอยากได้พรมสำหรับปูในห้องนอนก็ขอแนะนำพรมชนิดนี้เลยค่ะ เพราะด้วยสัมผัสที่นุ่มฟู ดูหรูหราและมีคุณสมบัติในการกันน้ำพร้อมทั้งดักจับฝุ่นเป็นเลิศ แต่ก็ทำความสะอาดได้ยากและไม่เหมาะกับการใช้งานหนัก
พรมโพลีเอทิลีน (Polyethylene)
พรมรักษ์โลกที่ได้ชื่อว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมีการใช้พลาสติกรีไซเคิลมาเป็นวัสดุในการผลิต ซึ่งข้อดีก็คือสามารถป้องกันคราบสกปรกต่าง ๆ รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ราคาไม่สูง ซึ่งแน่นอนว่าจะมีสัมผัสที่ไม่นุ่มเท่าพรมชนิดอื่น ๆ นะคะ
พรมขนสัตว์ (Wool)
สำหรับบ้านที่งบถึงและต้องการพรมที่ดูหรูหรา หนานุ่ม และแข็งแรงทนทาน ครบครันในผืนเดียว ก็สามารถเลือกพรมขนสัตว์ที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ 100% ได้เลยค่ะ ถึงราคาจะสูงแต่คุณภาพก็เหมาะสมกับราคา และแน่นอนว่าการใช้วัสดุจากธรรมชาตินั้นทำให้ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษที่ยากกว่าพรมชนิดอื่น ซึ่งต้องระวังเรื่องของแมลงและการก่อให้เกิดภูมิแพ้ด้วย
พรมอะคริลิก (Acrylic)
หากอยากได้พรมขนสัตว์ในงบประมาณที่ประหยัดกว่า ก็สามารถใช้พรมอะคริลิกแทนได้ค่ะ เพราะเป็นพรมที่มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งความทนทานอาจสู้ไม่ได้ แต่โดดเด่นในเรื่องของความสวยงามและป้องกันคราบรวมทั้งความชื้นได้ดีเลยทีเดียว
การเลือกสีหรือดีไซน์ให้เหมาะสม
- การเลือกสีของพรมจะช่วยทำให้ห้องมีบรรกาศที่ต่างกันไป ซึ่งนอกจากความพอใจแล้วก็ยังมีเรื่องของภาพรวมที่เหมาะสมด้วย
- พรมสีอ่อน จะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น รวมทั้งยังดูสว่างและสบายตา ทำให้รู้ผ่อนคลาย แต่ก็ไม่เหมาะกับห้องที่ต้องเจอกับฝุ่นหรือคราบเยอะ
- พรมสีปานกลาง สามารถกลมกลืนเข้ากับเฟอร์นิเจอร์รวมทั้งส่วนอื่น ๆ ในห้องได้ง่าย ไม่โดดเด่นเกินไป
- พรมสีเข้ม อาจทำให้ห้องดูมืด แต่จะเพิ่มความหรูหรา เป็นทางการ และยังทำให้ไม่ค่อยเห็นรอบคราบสกปรกที่อาจเกิดขึ้นได้
เทคนิคการขายออนไลน์
- รูปภาพต้องชัดเจน หัวใจสำคัญของการขายของออนไลน์คือรูปภาพ เปรียนเสมือนพรีเซนต์เตอร์หลักของร้าน ดังนั้นภาพถ่ายจะต้องชัดเจน
- แสดงรายละเอียดให้ครบถ้วน เพราะการขายสินค้าออนไลน์นั้นลูกค้าไม่สามารถเห็นสินค้าจริง ดังนั้นพ่อค้าแม่ค้าต้องลงรายละเอียดของสินค้าให้ครบถ้วน
- รีวิวสินค้า เก็บรีวิวจากลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าได้เห็นว่ามีการซื้อขายจริง มีสินค้าขายจริง สร้างความน่าเชื่อถือ
- ตอบลูกค้าทันที การขายของออนไลน์ลูกค้าจึงจำเป็นจะต้องซักถามเพื่อให้ใจว่าจะได้สินค้าตามที่ต้องการ เพราะลูกค้าไม่สามารถเห็นสินค้าจริงได้ก่อน เมื่อลูกค้าสอบถามต้องพยายามรีบตอบลูกค้าให้เร็วที่สุด เพราะลูกค้าอาจจะตัดสินใจซื้อทันทีหลังจากที่แน่ใจว่าร้านค้าของคุณมีตัวตนจริง
แหล่งขายส่งพรม
ตลาดสำเพ็ง
ตั้งอยู่ที่ ถนนมังกรติดกับถนนผลิตผล ใกล้เยาวราชและถนนวานิช
ตลาดกลางวัน เปิดทุกวัน ตั้งแต่ จันทร์ – อาทิตย์ เวลาเปิด 8.00 – 17.00น.
ตลาดเช้าสำเพ็ง เปิดทำการคืนวันจันทร์ – คืนวันเสาร์ ตั้งแต่ประมาณ ตีสอง – เจ็ดโมงเช้า (คืนวันอาทิตย์ ต่อเนื่องเช้าวันจันทร์ หยุด)
ร้านขายส่งออนไลน์ ท่านสามารถค้นหาร้านขายส่งได้ทั้งจากเว็บไซต์ และเพจเฟซบุ้ค หรือกลุ่มขายขนมออนไลน์ในเฟซบุ้ค โดยจะมีร้านขายส่งเจ้าใหญ่มาลงสินค้าให้ตัวแทนหรือพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยเลือกซื้อสินค้า ทั้งนี้การซื้อสินค้าจำนวมากๆจากร้านออนไลน์จะต้องดูร้านที่น่าเชื่อถือ เช็คเครดิตร้านก่อนทุกครั้ง รวมถึงสอบถามรีวิวเพิ่มเติมจากสมาชิกคนอื่นในกลุ่มหรือเพจ
ราคาขายส่ง
- สำหรับราคาขายส่งจะอยู่ที่เฉลี่ย 40-80 บาท แล้วแต่แบบและความสวยงามของกระเป๋า
หมายเหตุ : ราคาอาจแตกต่างกันโปรดติดต่อสอบถามราคาปัจจุบัน