ขายมือถือ ข้อแนะนำเบื้องต้นเพื่อคนอยากทำธุรกิจ

ขายมือถือ ข้อแนะนำเบื้องต้นเพื่อคนอยากทำธุรกิจ

เมื่อโทรศัพท์มือถือกลายเป็นของใช้จำเป็นสำหรับคนในปัจจุบัน ทำให้อาชีพขายมือถือมีคนสนใจมากตามไปด้วย แล้วถ้าอยากขายมือถือต้องทำยังไงบ้างล่ะ เชื่อว่าหลายคนคงกำลังต้องการคำตอบเป็นแน่ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้องการขายมือถือเป็นอาชีพ บทความนี้จึงถือโอกาสนำข้อมูลเบื้องต้นมาฝาก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเปิดร้านขายมือถือกันค่ะ ว่าด้วยช่องทางในการหาสินค้า และสิ่งจำเป็นทางกฏหมายที่ทุกร้านขายมือถือต้องมี รวมไปถึงข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ

 

รวมศูนย์ฝึกอาชีพ “เรียนซ่อมมือถือ” คลิ๊ก>>

ขายมือถือ รับสินค้าได้จากที่ไหน? หลายคนที่อยากขายมือถือมีคำถามนี้ เพราะไม่รู้แหล่งรับซื้อที่แน่ชัด บทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางการหาสินค้าเอาไว้ หลักๆ เลยก็จะมีอยู่ 3 ช่องทาง ดังนี้

1. รับมาจากร้านขายส่ง

ช่องทางแรกสำหรับการนำเข้าสินค้าเพื่อเปิดร้านขายมือถือ ก็คือรับมาจากแหล่งขายมือถือราคาส่ง โดยหลักแหล่งขายส่งมือถือที่สำคัญก็คือมาบุญครองที่ทุกคนคงรู้จักกันดีนี่เอง เพราะที่นั่นเขาขึ้นชื่อเรื่องมือถือราคาถูก แถมยังเป็นแหล่งขายขนาดใหญ่ที่มีให้เลือกมากอีกด้วย นอกจากนั้นก็อาจมีร้านค้าอื่นๆ ที่สามารถค้นหาได้จากอินเตอร์เน็ต

2. สมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย

อีกหนึ่งช่องทางสำหรับการขายมือถือก็คือการสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับร้านค้าต่างๆ ที่รับสมัคร สำหรับรายละเอียดหรือเงื่อนไขแต่ละร้านก็อาจแตกต่างกันออกไป ซึ่งต้องศึกษาข้อมูลจากร้านค้านั้นๆ โดยตรง

3. ซื้อแฟรนไชส์

ในปัจจุบันเราอาจเคยเห็นร้านขายมือถือบางเจ้าเป็นในลักษณะธุรกิจเครือข่าย ที่มีสาขาไปทั่วประเทศและเป็นแบรนด์ซึ่งเป็นที่รู้จักสำหรับคนทั่วไป ส่วนหนึ่งของธุรกิจเหล่านั้นอาจขยายสาขาด้วยตัวเอง แต่อีกส่วนหนึ่งก็มีการเปิดขายในรูปแบบแฟรนไชส์ด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะมีความน่าเชื่อถือรวมทั้งมีการตลาดปูทางไว้ให้แล้วสำหรับผู้ค้ารายย่อย

ขายมือถือ สิ่งที่จำเป็นต้องมีคืออะไรบ้าง?

ในการเปิดร้านขายมือถือจะมีรายละเอียดที่ซับซ้อนกว่าการเปิดร้านค้าอื่นๆ อยู่นิดนึง ไม่สามารถเปิดได้สุ่มสี่สุ่มห้า แต่ต้องได้รับการอนุญาตก่อน เพราะมีผลทางกฎหมาย ซึ่งสิ่งที่จำเป็นต้องมีสำหรับอาชีพขายมือถือมีดังนี้

1. ใบทะเบียนการค้า
2. ใบค้าของเก่า
3. ใบขายเครื่องใหม่และซ่อมอุปกรณ์สื่อสารจากกรมไปรษณีย์โทรเลข (ถ้าขายเครื่องมือสองไม่จำเป็นต้องใช้ แต่ถ้าหากเปิดร้านซ่อมอย่างเดียวไม่ได้ขายเครื่องใหม่ เอกสารที่ต้องใช้จะมีเฉพาะใบซ่อมอุปกรณ์สื่อสารเท่านั้น)
4. หลังจากครบปีแล้วต้องทำการแจ้งเสียภาษี ภงด.90

สำหรับการลงทุนเพื่อการเปิดร้านนั้นอาจหาคำตอบที่ตายตัวไม่ได้ แล้วแต่ขนาดของร้านและสินค้าที่ต้องการรับมาด้วย เนื่องจากมือถือที่มีวางขายอยู่ในตลาดก็มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อและหลากหลายรุ่น ราคาขายก็แตกต่างกันออกไป ทำให้ต้นทุนแต่ละร้านแตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน บางร้านอาจขายทุกยี่ห้อ แต่บางร้านอาจรับมาขายเฉพาะยี่ห้อหรือรุ่นนั้นๆ ก็ทำให้ในเรื่องของต้นทุนไม่ตายตัว

ต้นทุนหลักๆ ของการเปิดร้านขายมือถือก็จะมีต้นทุนในเรื่องของตู้กระจกที่ใช้เพื่อวางโชว์สินค้าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 8,000- 10,000 บาท ต่อมาก็จะเป็นในเรื่องของค่าเช่าที่ซึ่งแตกต่างกันออกไปอีกเช่นกันในแต่ละที่ขึ้นอยู่กับทำเล แต่ส่วนมากมักมีการจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าหลายๆ เดือน ในส่วนนี้ก็ถือเป็นต้นทุนที่ต้องรับผิดชอบมากพอสมควรเลยทีเดียว ตามมาด้วยอุปกรณ์สำหรับซ่อมมือถือ คอมพิวเตอร์ ซอฟแวร์มือถือ และอื่นๆ ค่าจดทะเบียน/ขอใบอนุญาตต่างๆ ปิดท้ายด้วยต้นทุนเรื่องสินค้าเช่นมือถือนั่นเอง

รวมศูนย์ฝึกอาชีพ “เรียนซ่อมมือถือ” คลิ๊ก>>