ขายมือถือ “Jaymart” แฟรนไชส์คุณภาพ ประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี

ขายมือถือ “Jaymart” แฟรนไชส์คุณภาพ ประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี

ใครก็ตามที่คิดจะขายมือถือเป็นอาชีพ น่าจะลองให้ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นคำตอบได้อย่างลงตัว เพราะการขายมือถือด้วยแฟรนไชส์น่าจะมีความง่ายกว่าการก่อตั้งร้านเองอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งแฟรนไชส์ขายมือถือที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกันดีอยู่แล้วในนาม “Jaymart” แฟรนไชส์ขายมือถือยอดนิยมที่มีจำนวนสาขากว่า 220 สาขาด้วยกัน ซึ่งนับได้ว่ามีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

สำหรับแฟรนไชส์ขายมือถือ Jaymart เกริ่นนำกันสักนิดถึงที่มาของบริษัท ที่เริ่มต้น Jaymart ได้ดำเนินธุรกิจในรูปแบบของการเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกยี่ห้อในระบบเงินผ่อน จากนั้นจึงมีการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดขายส่ง ด้วยสินค้าหลักอย่างโทรทัศน์ เครื่องเล่นวิดีโอ และเครื่องปรับอากาศ กระทั่งมาถึงปี พ.ศ.2535 ก็ได้ดำเนินธุรกิจในรูปแบบขายมือถือผ่านระบบเงินสด ระบบเงินผ่อนชำระ และระบบขายส่ง ทั้งยังมีการขยับขยายธุรกิจเรื่อยมา และได้ผลิตอุปกรณ์เสริมมือถือภายใต้แบรนด์ Jaymart อีกด้วยในภายหลัง โดยในปี พ.ศ.2545 บริษัท เจ มาร์ท จำกัด ก็ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน ด้วยทุนจดทะเบียน 225 ล้านบาท

สำหรับจุดเด่นของแฟรนไชส์ยี่ห้อนี้นั้นแทบไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะเชื่อว่าหลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว เนื่องจากมีสาขาอยู่ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปในแหล่งขายมือถือ ซึ่งมีลักษณะเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับประเทศ และมีการตลาดที่แข็งแกร่งบวกกับความน่าเชื่อถือขององค์กรเข้าไปก็นับเป็นข้อดีที่ลูกแฟรนไชส์ผู้สนใจเข้าร่วมแทบไม่ต้องวิตกกังวลเลยในเรื่องของการตลาด รวมไปถึงการดำเนินงานอย่างเป็นระบบและมืออาชีพที่ทางบริษัทปูทางไว้ให้แล้ว

แต่อาจมีข้อด้อยบางประการเกี่ยวกับการดำเนินการที่ซับซ้อน หรือเงื่อนไขข้อแม้ต่างๆ ซึ่งต้องศึกษาในรายละเอียดเชิงลึกอีกที รวมถึงต้นทุนที่ใช้ค่อนข้างสูงถึงหลักล้าน และอาจไม่อำนวยสำหรับคนในวงกว้างนัก

ทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมเพื่อแฟรนไชส์ Jaymart สมควรที่จะเป็นในศูนย์การค้า หรือทางบริษัทจะมีเงื่อนไขกำหนดหรือไม่นั้นผู้สนใจเข้าร่วมต้องศึกษาดูอีกทีให้แน่ชัด แต่ในความเป็นแบรนด์ซึ่งเต็มไปด้วยภาพลักษณ์ที่บ่งบอกถึงคุณภาพและมาตรฐาน ทำเลที่ตั้งก็ควรเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะสมกับแบรนด์ด้วย

รูปแบบแฟรนไชส์ Jaymart

1. แบบคีออส (Kiosk)
2. ร้านค้าแบบห้อง (Shop)

รายละเอียดแฟรนไชส์ขายมือถือ Jaymart

1. ระยะเวลาของสัญญาแฟรนไชส์ 3 ปี
2. ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้า 100,000- 300,000 บาท (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่)
3. ค่าใช้จ่ายในการตกแต่งพื้นที่ โดยประมาณ 250,000- 1,000,000 บาท (ทั้งนี้คิดตามจริงของขนาดพื้นที่)
4. ค่า Bank Guarantee ใช้เป็นค่ามัดจำในการสั่งซื้อสินค้า โดยขึ้นอยู่กับยอดสั่งสินค้า ให้เครดิตวงเงิน 2 เท่า (ประมาณ 200,000- 500,000 บาท)
5. จำหน่ายสินค้าที่ได้รับอนุญาตจากบริษัทเท่านั้น
6. ทางบริษัทจะมีการฝึกอบรมการบริหารร้านค้าให้ฟรีในครั้งแรก (รวมค่าที่พัก, อาหาร, ค่าฝึกอบรม)
7. ระยะเวลาคืนทุน ขึ้นอยู่กับยอดขายสินค้า
8. ทางบริษัทจะคอยช่วยสนับสนุนด้านต่างๆ เช่น เทคนิคการขาย การฝึกอบรมการบริการ JQS (Jaymart Quality Service) ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญและมีคุณภาพสูง
9. บริษัทจะทำการส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ และทำการส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง
   โดยสรุปงบระมาณในการลงทุนเบื้องต้นประมาณ 500,000-1,500,000 บาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น ขนาดของพื้นที่ ทำเลของพื้นที่ และอื่นๆ โดยงบประมาณเบื้องต้นนี้ยังไม่รวมเงินทุนหมุนเวียน

เอกสารที่ใช้ในการสมัครของแฟรนไชส์ขายมือถือ Jaymart

1. ใบสมัคร พร้อมรูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (ต้องถ่ายไม่เกิน 30 วัน)
2. สำเนาบัตรประชาชน
3. สำเนาทะเบียนบ้าน
4. แผนที่ตั้งร้านในการดำเนินธุรกิจ
5. ภาพถ่ายจริงที่ตั้งร้าน
6. บัญชีเดินสะพัด (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน
7. หนังสือรับรองการจดทะเบียนกรณีเป็นนิติบุคคล

ข้อมูลติดต่อธุรกิจแฟรนไชส์ Jaymart
ที่อยู่ : บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน)325/7-8 อาคารเจมาร์ท ถนนรามคำแหง
แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทรศัพท์ : 02-308-9000, 02-308-8000
Email : webmaster@jaymart.co.th
Website: http://www.jaymart.co.th
Facbook : https://www.facebook.com/jaymartthailand

รวมศูนย์ฝึกอาชีพ “เรียนซ่อมมือถือ” คลิ๊ก>>