ขายสเต็ก รสชาติไทยๆ ระดับ5 ดาว ราคาย่อมเยา เปิดโอกาสให้เป็นเจ้าของแฟรนไชส์พร้อมกัน กับ “ชาลี สเต็ก”

ขายสเต็ก รสชาติไทยๆ ระดับ5 ดาว ราคาย่อมเยา
เปิดโอกาสให้เป็นเจ้าของแฟรนไชส์พร้อมกัน กับ “ชาลี สเต็ก”

นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถ้านึกถึงเมืองไทย ต้องคิดถึงอาหารการกิน เป็นอันดับแรกๆ จัดเป็นประเทศที่มีของกินหลากหลายทั้งคาว-หวาน อร่อยติดอันดับต้นๆของโลกเลย นอกจากจะมีอาหารไทยที่ขึ้นชื่อ เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติแล้ว ยังมีการเปิดรับวัฒนธรรมของชาติอื่นๆเข้ามาด้วย ทั้งพิซซ่า ,ซูชิ ,ชาบู รวมถึงเมนูที่คนไทยคุ้นชินมานาน “สเต็ก” ที่ปัจจุบันมีร้านขายสเต็กเกิดขึ้นมากทั้ง ราคาถูก ราคาแพง ปะปนกันไป แต่ถ้านึกถึงสเต็ก ที่ผสมผสานความเป็นไทยลงไป หลายคนต้องยกให้ที่นี่เป็นตัวเลือกต้นๆ กับ “ชาลี สเต็ก” ธุรกิจขายสเต็กที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 10 ปี แนวคิดของธุรกิจขายสเต็ก “ชาลี เสต็ก” เริ่มที่ต้องการให้คนไทย สามารถทานสเต็กได้ในราคาถูก คุณภาพดี เพราะเมื่อหลายสิบปีก่อน ที่สเต็กเข้ามาในเมืองไทยใหม่ๆ หลายคนมีความเชื่อว่า สเต็กต้องราคาแพงเท่านั้น ทั้งๆที่ต้นทุนก็เท่ากับเมนูอื่นๆปกติ จนต่อมาเริ่มมีผู้ประกอบการนำเมนูนี้มาขายในตลาดล่างมากขึ้น มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก แต่คุณภาพวัตถุดิบไม่สะอาด ไม่ได้คุณภาพ จึงต้องการเปิดร้านขายสเต็กที่มีมาตรฐาน ในราคาย่อมเยา

วัตถุดิบสำคัญในการทำคือ “เนื้อหมัก” ซึ่งในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเนื้อวัวประเภทเดียว ยังรวมถึงเนื้อหมู ,เนื้อไก่,เนื้อปลา อีกด้วย หรือเนื้อสัตว์อื่นๆที่มีรสชาติแปลกใหม่ ทั้งเนื้อแกะ ,เนื้อแพะ ,เนื้อนกกระจอกเทศ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่เป็นที่นิยมก็เท่านั้น เนื้อที่จะนำมาทำสเต็กนั้น ต้องผ่านขั้นตอนสำคัญด้วยการหมักเครื่องเทศตามสูตรเฉพาะของทางร้านก่อน โดยเป็นเครื่องเทศไทยผสมกับเครื่องเทศจากต่างประเทศ เพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปากคนไทย

เนื่องจากคนไทยจะชอบรับประทานอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน เข้มข้น “ชาลี สเต็ก” จึงต้องปรับปรุงคิดสูตรขึ้นมาใหม่ เพื่อตอบสนองอารมณ์ของคนกินได้เหมือนเดิม ซึ่งวิธีการหมักเนื้อ จะช่วยให้มีรสชาติที่อร่อย เนื้อมีความนุ่ม บางประเภทก็จะมีไขมันแทรกอยู่ พอมารวมกับ “น้ำเกรวี่” ก็ยิ่งช่วยส่งเสริมให้มีความโดดเด่นของรสาติ สร้างความเพลิดเพลินในการรับประทานได้เป็นอย่างดี ด้วยมาตรฐานที่ว่า “ต้องการทำสเต็กที่คุณภาพดีเหมือนในโรงแรมห้าดาว ในราคาที่ถูกกว่า”

 

ธุรกิจขายสเต็ก “ชาลี สเต็ก” ได้คัดสรรเนื้อชนิดต่างๆมาอย่างดี โดยผ่านกระบวนการเลี้ยงที่มีคุณภาพในระบบปิด ราคาอาจสูงกว่าเนื้อธรรมดาตามท้องตลาด แต่ได้รสชาติที่อร่อยมาก เนื้อที่นำมาใช้แต่ละส่วนก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ราคาขายก็แตกต่างกันด้วย

-ฟิเลต์มิยอง (Filet migon) หรือ เทนเดอร์ลอยน์ เป็นเนื้อที่ตัดจากส่วนกลางของวัว
-ที-โบน (T-bone) เนื้อที่ตัดมาจากส่วนกลางพร้อมกับกระดูกรูปตัวที
-เซอร์ลอยน์ (Sirloin) เนื้อที่ตัดมาจากสะโพก
-ริบอาย (Rib eye) เนื้อซี่โครง
-แฟลงค์ (Flank) เนื้อบริเวณส่วนใต้

นอกจากนี้ยังแบ่งแยกเนื้อทั้งหมดนี้ได้ง่ายๆ คือ เนื้อสันนอก ,เนื้อสันใน และสันกลาง ซึ่งเนื้อที่ราคาแพงที่สุดเป็นเนื้อสันใน(มีไขมันแทรกอยู่เยอะ) ราคาถูกที่สุดเป็นเนื้อสันนอก “ชาลี สเต็ก” ยังมีเคล็ดลับความอร่อยอีกอย่างหนึ่ง ในขั้นตอนการ ย่างเนื้อ เพื่อให้ตรงกับที่ลูกค้าต้องการ เรียกว่าชอบแบบสุกระดับไหน สั่งได้เลย

จำแนกระดับได้ดังนี้
-แรร์ (Rare) เนื้อด้านนอกสีน้ำตาลอมเทา ส่วนกลางเป็นสีแดงและชมพู (ข้างนอกสุกแต่ข้างในไม่สุกมาก)
-มีเดียมแรร์ (Medium Rare) เนื้อด้านนอกสีน้ำตาลอมเทา เนื้อส่วนกลางเป็นสีแดงอมเทา (เป็นระดับมาตรฐานของทางร้าน)
-มีเดียม (Medium) เนื้อด้านในสุกเป็นสีชมพู เนื้อด้านอื่นเป็นสีน้ำตาลอมเทา
-มีเดียมเวลล์ (Medium Well) เนื้อทั้งหมดจะเป็นสีน้ำตาลอมเทา จะเห็นเพียงสีชมมพูเรื่อๆ ความฉ่ำของเนื้อจะเริ่มลดลง
-เวลล์ดัน (Well Done) เนื้อทั้งหมดจะเป็นสีน้ำตาลอมเทา สุกเท่ากันทุกสัดส่วน แต่จะได้ความฉ่ำความนุ่มลดลง
-โอเวอร์คุ้ก (Overcook) เนื้อทั้งหมดจะไหม้เกรียมเป็นสีดำ จะแห้ง แข็ง กระด้าง มีรสขมเล็กน้อย

ร้านขายเสต็ก “ชาลี สเต็ก” ยังได้ขยายธุรกิจให้กับผู้ที่สนใจร่วมลงทุนด้วย โดยมีจุดประสงค์ ต้องการให้ลูกค้าเป็นเจ้าของธุรกิจร้านสเต็ก และเจ้าของแฟรนไชส์ ในเวลาเดียวกัน ซึ่งไม่มีการคิดค่าการตลาด ค่ารอยัลตี้ของยอดขาย รายเดือน รายปีด้วย

 

โดยมีสาขา 4 แบบ ดังนี้
1.ร้านสาขาของ “ชาลี สเต็ก”
2.ร้านสาขาของแฟรนไชส์ “ชาลี สเต็ก”
3.ร้านสาขาที่ร่วมทุน
4.เครือข่ายร้าน ที่มีความสนใจเข้าร่วมธุรกิจ กับ“ชาลี สเต็ก”

ด้านยอดขายนั้น เมนูสเต็กถือว่าได้กำไรในระดับที่ดี นอกจากนี้ทางร้าน “ชาลี สเต็ก” ยังมีเมนูอื่นๆ ที่ทำง่าย มาเพิ่มอีกด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า เช่น ซุป ,สลัด ,สปาเก็ตตี้ เป็นต้น ซึ่งเมนูเสริมเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับทำเลในการขายด้วย
ผู้ประกอบการที่ร่วมลงทุนกับ “ชาลี สเต็ก” จะได้ความพิเศษที่มากกว่าแบรนด์ท้องตลาดทั่วไป คือ

1.ลงทุนขายเองได้กำไรครึ่ง/ครึ่ง มากกว่าผลิตเอง ไม่มีขั้นต่ำการสั่งสินค้า ไม่มีค่ารายจ่ายรายเดือน และรายปี ก่อนเปิดร้านมีการจัดฝึกอบรมเทคนิคเกี่ยวกับการทำสเต็ก พร้อมทั้งยังได้ซื้อวัตถุดิบในราคาที่ถูก
2.ถ้าแนะนำแฟรนไชส์ให้เปิดร้านได้ จะได้ค่าแฟรนไชส์สาขา ยิ่งแนะนำมาก ยิ่งได้เงินมาก เช่น ถ้ามีญาติคนใกล้ชิดที่ต้องการเปิดร้าน แล้วลูกค้าเป็นคนแนะนำมมา ค่าแฟรนไชส์ที่สาขาเหล่านั้นต้องจ่าย จะเป็นค่าคอมมิชชั่นให้ผู้แนะนำทันที
3.ได้เปอร์เซ็นจากยอดการสั่งวัตถุดิบของแฟรนไชส์สาขาที่ลูกค้าแนะนำ สูงสุดถึง21%

ข้อมูลธุรกิจขายสเต็ก “ชาลี สเต็ก”
รูปแบบการลงทุน
-ร้านขนาดเล็ก
-ร้านขนาดใหญ่
-Food Center
-ริมฟุตบาท หรือ พื้นที่ว่าง

งบประมาณในการลงทุน
1.ค่าแฟรนไชส์19,000บาท
2.เงินลงทุน ประมาณ 30,000 –70,000 บาท
3.เงินหมุนเวียน ประมาณ3,000 – 5,000 บาท

ข้อมูลติดต่อธุรกิจขายสเต็ก “ชาลี สเต็ก”
ที่อยู่ : 2052/90-91 ปากซอยจันทร์7 ถ.จันทร์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
เบอร์โทร : 02-678-9055 ,087-073-7799
อีเมลล์: mail@charliesteaks.com