SMELeader : เริ่มต้นธุรกิจ, ธุรกิจ SMEs, แฟรนไชส์และอาชีพ SMELeader โอกาสทางธุรกิจ SMEs เริ่มต้นธุรกิจ แฟรนไชส์และอาชีพ
5 ข้อควรรู้เริ่มต้นธุรกิจขายส่งกระเป๋าเป้แฟชั่นอย่างไรให้ปังสุด ๆ
ธุรกิจกระเป๋าไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็เป็นธุรกิจที่สร้างกำไรที่ดีให้กับเจ้าของกิจการอยู่เสมอ เพราะแฟชั่นในแต่ละยุค แต่ละช่วงมีการเปลี่ยนแปล่งอยู่ตลอด กระเป๋าสวยงามถูกผลิตขึ้นมาเพื่อปรับให้เข้ากับยุคสมัยนั้น ๆ ทำให้กระเป๋าเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ขายดีและได้รับความนิยมอยู่ตลอดมา การเริ่มต้นขายกระเป๋าแฟชั่นและกระเป๋าเป้นั้น เรียกว่าไม่ได้เริ่มต้นยากอย่างที่คิด มีทั้งขายกระเป๋าใหม่และกระเป๋าแบบมือสองให้ขาย เจ้าของกิจการจะต้องมีการสำรวจ การวางแผนก่อนที่จะลงทุนว่าตัวเองต้องการจะเจาะกลุ่มลูกค้าประเภทไหน แล้วจึ่งค่อยไปตามหาสินค้าตามกลุ่มลูกค้าของตัวเอง ซึ่งแหล่ง ขายส่งกระเป๋าเป้ในบ้านเราก็มีอยู่หลายที่ ยิ่งซื้อมากราคาที่ได้ก็จะถูกลง โอกาสที่จะนำมาขายได้กำไรก็มีสูงขึ้น ก่อนที่จะเริ่มต้นขายเรามี 5 ข้อควรรู้สำหรับผู้ท่ากำลังจะลงทุนขายกระเป๋าเป้แฟชั่นว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี
1. สำรวจตลาดดูความต้องการของลูกค้า กระเป๋าเป้มีอยู่หลายแบบให้เลือกขาย ซึ่งก่อนที่จะลงทุน การสำรวจกลุ่มลูกค้ามีความสำคัญมาก เพราะลูกค้าแต่ละกลุ่มต่างกัน เช่น กลุ่มลูกค้าที่ชอบใช้สินค้ามือสองก็จะมีทั้งกระเป๋าเป้แบบมือสองที่มียี่ห้อและแบบแฟชั่น หรืออาจจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ชอบสินค้าใหม่ อาจจะเป็นกระเป๋าเป้แฟชั่นที่นำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะนิยมนำเข้าจากจีนและกลุ่มที่ชอบกระเป๋าเป้แบบมียี่ห้อ ข้อนี้หากรู้ความต้องการของลูกค้าแล้ว เจ้าของกิจการอย่างคุณก็จะสามารถหาแหล่งขายส่งกระเป๋าเป้ที่ได้ราคาเหมาะสม และเลือกสินค้าได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย
2. เลือกกระเป๋าที่ต้องการขายแน่นอนว่าเมื่อรู้จักกลุ่มลูกค้าแล้วการเลือกกระเป๋าให้ตรงใจลูกค้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสี ที่จะต้องเป็นไปตามแฟชั่น คุณจะต้องสำรวจอยู่เสมอว่าช่วงนี้สีอะไรกำลังเป็นที่นิยม กระเป๋ารูปทรงไหนที่กำลังขายดี นอกจากนี้จะต้องมาดูกันที่รายละเอียดของสินค้าว่าทำมาจากหนัง ทำจากผ้า หรือใช้วัตสดุไหนในการผลิตเพื่อที่จะสามารถบอกรายละเอียดให้กับลูกค้าได้
3. เลือกรูปแบบการขายในสมัยนี้รูปแบบการขายมีให้เลือกค่อนข้างมาก ไม่ใช่เฉพาะการจำหน่ายกระเป๋าหน้าร้านเพียงอย่างเดียว แต่มีการเปิดจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์อีกด้วยเพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายให้กับสินค้า โดยวิธีการเลือกรูปแบบการขายนั้นจะต้องดูก่อนว่าคุณถนัดที่จะขายแบบไหน เพราะพ่อค้าแม่ค้าบางคนเลือกที่จะขายกระเป๋าผ่านหน้าร้าน และขายผ่านช่องทางออนไลน์ไปด้วย แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา ก็อาจจะขายผ่านรูปแบบออนไลน์เพียงอย่างเดียวก็ได้ ซึ่งสมัยนี้การขายผ่านรูปแบบออนไลน์ถือว่ากำลังเป็นที่นิยม มีทั้งโพสขายผ่านโซเชียลมีเดีย การขายผ่านเว็บไซต์ และการขายแบบไลฟ์สดผ่านโซเชียลมีเดีย ให้ลูกค้ามาเลือกซื้อกระเป๋าได้ตามใจชอบ เปิดโอกาสทางธุรกิจได้มากขึ้น
4. ซื้อกระเป๋าตามในแหล่งขายส่งสินค้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากในบ้านเรานั้นมีแหล่ง ขายส่งกระเป๋าเป้เป็นจำนวนมากให้เลือกซื้อกระเป๋าสวยๆ เพื่อเอาไปจำหน่าย เช่น หากเลือกที่จะขายกระเป๋ามือสอง แหล่งซื้อขายกระเป๋ามือสอง ก็เช่น ตลาดโรงเกลือ เป็นแหล่งซื้อขายขนาดใหญ่ โดยคุณสามารถไปเลือกและคัดสินค้าได้เอง เปิดบริการทุกวัน มีทั้งแบบแบรนด์เนมและแบบแฟชั่น หรืออีกช่องทางที่หลายคนนิยมทำคือการเหมาตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่จะมาจากประเทศญี่ปุ่น ส่วนกระเป๋าใหม่นั้นแหล่งขายส่งก็จะมีประตูน้ำ สำเพ็ง ตลาดโบ๊เบ๊ ที่เปิดให้บริการทุกวัน ส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ค้าก็จะนิยมไปเลือกซื้อกันตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อให้ได้กระเป๋าใหม่ๆ สวยๆมาขาย อีกที่คือ ตลาดจตุจักร เปิดให้บริการ ทุกเสาร์ อาทิตย์ แต่สำหรับการซื้อสินค้าขายส่งนั้นสามารถซื้อได้ช่วงวันศุกร์กลางคืนก็ได้มีขายแบบยกแพ็ค ทั้งหมดนี้เป็นแหล่ง ขายส่งกระเป๋าเป้ยอดนิยม นอกจากนี้ยังมีอีกรูปแบบคือการสั่งสินค้าจากประเทศจีนนำเข้ามาขาย อีกด้วย
5. การตั้งราคาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการขายกระเป๋าเป้ กระเป๋าแฟชั่น ส่วนใหญ่แล้วการตั้งราคาขายจะต้องขึ้นอยู่กับต้นทุนของสินค้า ทำเล และกลุ่มลูกค้า โดยส่วนใหญ่การตั้งราคาจะคิดจากราคาต้นทุนไป 100% เป็นราคาขั้นต่ำ เช่น หากกระเป๋าที่เราซื้อมานั้นมีต้นทุนที่ 100 บาท การตั้งราคาก็จะต้องเป็น 200-300 บาท ซึ่งราคานี้หากขายดีเรียกว่าสามารถทำกำไรให้กับคุณพอสมควร นอกจากการใช้หลักตั้งราคาแบบนี้แล้ว อีกสิ่งที่สำคัญคือ การตั้งราคาที่เหมาะสมตามกลุ่มลูกค้าและทำเลที่ขายเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า และทำให้สินค้านั้นดูน่าสนใจมากขึ้น
นอกจากกระเป๋า ทำเล ราคาสินค้า ที่เหมาะสมแล้ว การขายกระเป๋าเป้ กระเป๋าแฟชั่นให้ได้กำไรดีและขายได้มาขึ้นนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการโฆษณาและเทคนิคการขาย หากเราเคยสังเกตร้านขายของ ทั้งแบบออนไลน์ และหน้าร้านทั่วไป ก็จะเห็นข้อเปรียบเทียบมากมาย จากเทคนิคการขาย เช่น การจัดโปรโมชั่นสินค้า การทำแพ็คเกจสินค้าเพื่อกระตุ้นยอดขายให้มากขึ้น หรือจะเป็นรูปแบบการขายที่น่าสนใจ ทำให้ลูกค้าชอบ และเข้ามาซื้อสินค้ากับร้านเรามากขึ้น ดังนั้นหากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังคิดที่จะลงทุนขายกระเป๋าเป้ กระเป๋าแฟชั่น การนำข้อควรรู้เหล่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจก็จะช่วยให้ร้านกระเป๋าของคุณเป็นที่รู้จักและเป็นร้านที่มีลูกค้าประจำมากอีกร้านหนึ่งอย่างแน่นอน
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : Paint with Stars, Pexels, PxHere, Pinterest, The Eco Edit