ขายหมี่กรอบ “พรหมสร”
สูตรโบราณสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สินค้า OTOP ทำเงิน
ขายหมี่กรอบ อาชีพทำเงินจากการขายอาหาร ในภาพลักษณ์ของสินค้า OTOP สินค้าคุณภาพประจำจังหวัดที่สร้างชื่อลือไกลด้วยฝีมือชาวบ้าน สร้างชุมชนให้แข็งแกร่งด้วยแรงงานของคนในท้องถิ่น ช่วยสร้างอาชีพให้กับผู้สูงวัยและได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพิ่มรายได้ให้ครัวเรือนอีกด้วย นอกจากจะเป็นการเพิ่มประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังเพิ่มประโยชน์ให้สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่างหาก โดยในการขายหมี่กรอบสินค้า OTOP ที่ว่านี้ยังมีช่องทางการขายที่เป็นจุดเด่นช่วยเพิ่มยอดขายได้ในปริมาณที่น่าสนใจ ทำให้ธุรกิจขายหมี่กรอบทำเงินให้กับคนในชุมชนได้อย่างแข็งแกร่ง
ขายหมี่กรอบ ภายใต้แบรนด์ “พรหมสร” มีจุดเริ่มต้นที่ “คุณจตุพร อินทรโสภา” ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรมะขามทอง ตำบลตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี คิดหาอาชีพให้คนในชุมชน ที่ร่วมกันก่อตั้งกลุ่มสร้างอาชีพในปี พ.ศ. 2541 จากนั้นก็ได้เลือกนำสูตรหมี่กรอบโบราณสมัยสงครามโลกครั้ง 2 มาทำเป็นอาชีพในที่สุด ซึ่งเป็นสูตรของแม่สามีเธอเอง
ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 แม่สามีของคุณจตุพรมีอาชีพทำขนมจีนน้ำยาขาย และเมื่อเส้นขนมจีนเหลือ ก็จะนำไปหมักกับน้ำจิ้มที่ทำจากมะขามเปียก น้ำตาลโตนดและเกลือเม็ด ขายให้กับทหารญี่ปุ่นที่มาประจำอยู่ในกาญจนบุรีตอนนั้น หลังจากนั้นสูตรโบราณที่ว่าก็ไม่มีใครสานต่อเลย กระทั่งที่คุณจตุพรคิดสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนครั้งนี้ จึงนำสูตรนั้นมาสร้างเป็นอาชีพ โดยปรับจากเส้นขนมจีนเป็นเส้นหมี่ขาวข้าวกรอบ เพราะเก็บรักษาได้นานกว่า พร้อมกับมีการเพิ่มน้ำสมุนไพรตะไคร้และส้มซ่าลงไปด้วย สอดคล้องกับความนิยมของคนในปัจจุบัน
ในตอนนั้นสมาชิกของคนในกลุ่มมีอยู่ 20 คน อายุ 60- 75 ปี ลงหุ้นกันคนละ 100 บาท เพื่อสร้างผลผลิตหมี่กรอบสูตรโบราณไปขายตามตลาดนัด ระยะแรกแทบจะไม่มีใครซื้อเลย กระทั่งมีคนได้ลองชิมและเกิดการบอกต่อ ก็ทำให้เกิดรายได้จากการขายหมี่กรอบในที่สุด ประกอบกับเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจ ก็ทำให้ทางกลุ่มมีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง กระทั่งสินค้าได้รับคัดเลือกเป็นสินค้า OTOP 5 ดาว ต่อเนื่อง 5 ปีซ้อนตั้งแต่ปี 2554 ถึง 2559
อาชีพขายหมี่กรอบพรหมสรทำเงินมากขึ้นเรื่อยๆ จากความนิยมที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้รับการติดต่อจาก “ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต” ที่มีโครงการช่วยเกษตรกร ให้หมี่กรอบพรหมสรได้ไปวางขายในซุปเปอร์ฯ ซึ่งต้องมีการพัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐานก่อน ตอนแรกทางกลุ่มก็ยังลังเลที่รับข้อเสนอนั้น เพราะแรงงานก็มีแต่ผู้สูงอายุ ที่ดูเป็นเรื่องยากสำหรับการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน อีกทั้งคนในกลุ่มยังกลัวถูกหลอกด้วย แต่ทางท็อปส์ก็ได้มีการส่งคนเข้ามาช่วยในเรื่องของการพัฒนาสินค้า ปรับปรุงกระบวนการผลิต และในด้านต่างๆ พร้อมสนับสนุนงบประมาณกว่า 1 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงโรงงานผลิตให้ตรงตามมาตรฐาน GMP ใช้เวลาในการพัฒนาสินค้ากว่า 1 ปีก็ได้วางขายในท็อปส์ได้ในที่สุด ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
รายได้จากการขายหมี่กรอบเดิมทีอยู่ที่ 5 แสนกว่าบาทต่อปี แต่ภายหลังที่ได้เข้าไปวางจำหน่ายในท็อปส์ ก็สามารถทำรายได้สูงถึง 1.8 ล้านบาทในปี 2558 สัดส่วนของรายได้กว่า 80% มาจากการขายในท็อปส์ และที่เหลือมาจากการขายผ่านงาน OTOP และร้านค้าของฝากชุมชน คาดว่าในปี 2559 จะทำรายได้ให้ถึง 2 ล้านบาท โดยมีสินค้าเพิ่มเติมเป็น “หมี่กรอบสแน็ค” จำหน่ายร่วมด้วย
ข้อมูลติดต่อธุรกิจขายหมี่กรอบพรหมสร
ที่อยู่ : กลุ่มแม่บ้านเกษตรมะขามทอง ตำบลตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี
โทรศัพท์ : 087-033-7922
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณแห่งข้อมูลและรูปภาพจาก : ผู้จัดการออนไลน์