ขายเครื่องหนัง เสริมกลิ่มหอมจากสมุนไพรเจ้าเดียวในเมืองไทย
ยกระดับโรงงานมาตรฐานสีเขียว
เทรนด์รักษ์โลก เป็นสิ่งที่ทั่วโลกรณรงค์ ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ด้วยสภาวะโลกที่เปลี่ยนไปมาก อากาศที่สลับกันไปมา ไม่เป็นตามฤดูกาล มีภัยธรรมชาติที่รุนแรงเกิดขึ้นหลายประเทศ รวมถึงเมืองไทยด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าบอกว่าควรหันมาใส่ใจดูแลธรรมชาติให้มากขึ้น และถ้าเปรียบกับธุรกิจที่เป็นสีเขียว อนุรักษ์ทรัพยากร ต้องยกให้กับหนึ่งในผู้ผลิต “ธุรกิจขายเครื่องหนัง” โรงงานฟอกหนังไทยรุ่งเรือง จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ ที่ประสบความสำเร็จมากว่า 50 ปี
“คุณสุภาพร ศรีตั้งศิริกุล” เจ้าของ บริษัท ฟอกหนังไทยรุ่งเรือง จำกัด เล่าว่า ตนเองอยู่ในธุรกิจขายเครื่องหนังมานานกว่า 50 ปี เป็นกิจการของครอบครัวที่ส่งรุ่นต่อรุ่น ตั้งแต่รุ่นคุณปู่ เดิมตั้งโรงงานอยู่ที่บริเวณคลองเตย ต่อมามีคำสั่งจากราชการให้ย้ายออก ด้วยเงื่อนไขเกี่ยวกับด้านสิ่งแวดล้อม จึงมาตั้งโรงงานใหม่ที่ย่านบางปู จังหวัดสมุทรปราการจนถึงปัจจุบัน
ตลอดเวลาที่บริหารงานธุรกิจขายเครื่องหนัง จะได้ยินชาวบ้านต่างๆ สื่อมวลชนหลายแขนง กล่าวหาว่า โรงงานฟอกหนังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ ทางน้ำ และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งมีกฎหมายต่อต้านคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและชุมชน ออกมาเรื่อยๆ ตนเองในฐานะที่ทำธุรกิจประเภทนี้ จึงอยู่เฉยไม่ได้ เกิดความอึดอัด ไม่สบายใจ ต้องพยายามพัฒนาปรับตัวในด้านการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ นอกจากนี้ตนเองยังได้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรต่างๆ ของภาครัฐในหลายโครงการ ประกอบกับประสบการณ์ที่สะสมยาวนาน จึงได้ลองนำสมุนไพรไทยมาใช้ย้อมสี เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้หนังผืนมากว่า 20 ปี
กรรมวิธีการย้อมสีหนังด้วยสมุนไพร เริ่มจากอบแห้งสมุนไพร แล้วนำไปบดเป็นผลให้ละเอียด จากนั้นใส่ลงบ่อหมักย้อมสี ทิ้งไว้ประมาณ 3 เดือน จะได้สีที่ซึมทะลุทั่วกันทั้งผืน ส่วนที่ตนเองคิดว่ายากที่สุด อยู่ที่การหาส่วนผสมที่พอเหมาะใช้ย้อมสีได้ ที่ผ่านมาเคยนำสมุนไพรหลายชนิดมาทดลองแต่ไม่ได้ผลเท่าที่ควร เช่น ขนุน ,ต้นไพร ,กาแฟ ,ฟ้าทลายโจร ฯลฯ เป็นต้น
หลังจากที่ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดก็ลงตัวที่สมุนไพรไทย 2 ชนิด คือ เปลือกมังคุด ที่ย้อมออกมาเป็นสีเบจ กับ ขมิ้น ที่ย้อมได้สีเหลือง ซึ่งเป็นสีที่สวยงาม และที่สำคัญสมันไพรทั้ง 2 ชนิดมีวัตถุดิบที่เหลือทิ้งจำนวนมาก เหมาะที่จะนำมาแปรรูปได้ ตรงกับจุดประสงค์ของโรงงาน ที่อยากพัฒนาสินค้าโดยใช้วัตถุดิบเหลือทิ้งถึงอย่างไรสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ในการผลิต ยังต้องพึ่งพาสารเคมีบางชนิดที่ช่วยทำใหเกิดการยึดเกาะของสีอย่างทั่วถึง เพราปกติสีย้อมจากสมุนไพรจะมีสีที่ไม่สวยงามเท่ากับสีย้อมเคมี รวมถึง สีซีดเร็วกว่าด้วย
นอกจากขายเครื่องหนังย้อมสีแล้ว ตนเองยังได้พัฒนาต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยนำเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นเอง เป็นภูมิปัญญาแต่โบราณ “หนังมีกลิ่น”เป็นการฝังกลิ่นหอมลงไปในตัวหนังเลย ซึ่งเป็นการอาศัยตามหลักธรรมชาติที่หนังแท้จะดูดกลิ่นรอบๆตัวมาไว้ในตัวเอง เปรียบเทียบง่ายๆ คนที่มีกลิ่นเท้าแรง รองเท้าของเขาก็จะมีกลิ่นที่แรงตามไปด้วย หรือเวลาเอาของสดใส่กระเป๋า กลิ่นคาวก็จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ กลิ่นหอมของเครื่องหนัง จะเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ จะระเหยออกตามอุณห ภูมิความร้อนภายนอก ยิ่งถ้าอากาศร้อนมาก กลิ่นหอมจะหมดไปอย่างรวดเร็ว หรือถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้งานสม่ำเสมอ อย่าง รองเท้า กลิ่นหอมก็จะหมดไวเช่นกัน โดยเฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 1-3เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งานแต่ละบุคคล ปัจจุบันมีขายเครื่องหนังกลิ่นหอมให้ลูกค้าได้เลือก 5 กลิ่น ได้แก่ ดอกลาเวนเดอร์,ดอกมะลิ ,ดอกกุหลาบ ,ตะไคร้หอม และขมิ้น
ด้านงบประมาณที่ใช้ทดลอง สำหรับต้นทุนการผลิตหนังย้อมสมุนไพรจะสูงกว่าหนังย้อมเคมีธรรมดา ประมาณ30% และหากทำให้มีกลิ่นหอมด้วย ต้นทุนจะสูงขึ้นเป็น 40%
นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์หนังผืนด้านดีไซน์ เช่น สร้างสรรค์หนังลายผ้าไหม หนังลายตุ๊กแก ฯลฯ โดยช่องทางตลาดหลักจะรับผลิต ขายเครื่องหนังให้แก่โรงงานแปรรูปเครื่องหนัง เพื่อนำไปทำเป็นช่องปืน เข็มขัด ป้ายหนังกางเกงยีนส์ ซึ่งส่วนใหญ่สินค้าในตลาดที่วางจำหน่าย จะเป็นหนังฟอกย้อมจากโรงงานของตน
ข้อมูลติดต่อธุรกิจขายเครื่องหนัง “โรงงานฟอกหนังไทยรุ่งเรือง จำกัด”
ที่อยู่ : หมู่ที่ 1 167/1 ถนน สุขุมวิท ตำบล ท้ายบ้าน อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัด สมุทรปราการ 10280
เบอร์โทร : 02-389-4403-4