ขายเฉาก๊วย “Jelly Bird”แฟรนไชส์เฉาก๊วยธัญพืช ชุจุดขายใส่เครื่องไม่อั้น!!

ขายเฉาก๊วย “Jelly Bird”แฟรนไชส์เฉาก๊วยธัญพืช ชุจุดขายใส่เครื่องไม่อั้น!! 

เมนูเครื่องดื่มไทยๆ ต้นตำรับแท้ เริ่มหาทานได้ยากขึ้นจากเมื่อก่อนอย่างมาก คนยุคใหม่แทบไม่รู้จักน้ำรสชาติไทยๆ ที่เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน จึงเป็นช่องทางอย่างหนึ่งที่ให้แบรนด์ “Jelly Bird” ธุรกิจขายเฉาก๊วย “เฉาก๊วยธัญพืช” เครื่องดื่ม เย็นๆ ทานแล้วสดชื่น ดับกระหายได้เป็นอย่างดี ผสมความทันสมัยไว้อย่างลงตัว จนได้รับความนิยมจากลูกค้าไม่น้อยที่เดียว จนสามารถขยายแฟรนไชส์ได้มากมายทั่วทั้งประเทศ

“คุณอรินทร์ ตรีช่อวิทยา” ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจลลี่ เบิร์ด จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ธุรกิจขายเฉาก๊วย “เฉาก๊วยธัญพืช” เคยทำงานเป็นวิศวกร แต่เมื่อเจอยุคฟองสบู่แตกปี 40 จึงต้องออกจากงานที่ทำอยู่ คิดว่าอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองแต่ก็ยังไม่มีเป้าหมายที่แน่ชัดว่าอยากทำธุรกิจแบบไหน จนกระทั่งปี 2544 คิดที่อยากจะเปิดร้านขายเฉาก๊วย เพราตนเองเป็นคนชอบทานเฉาก๊วยเป็นชีวิตจิตใจ ทานมาหลากหลายเจ้า แต่ยังไม่มีความรู้สึกที่ประทับใจในเรื่องรสชาติเท่าที่ควร ประกอบกับลองนำเฉาก๊วยไปใส่ในน้ำเต้าหู้เพื่อรับประทาน ซึ่งได้รสชาติที่ดีมาก ส่วนผสมเข้ากันได้อย่างลงตัว

จึงตัดสินใจรับเฉาก๊วยมาขาย ซึ่งเป็นแบบใส่น้ำตาลธรรมดา การตอบรับดีในระดับหนึ่ง ยังไม่เป็นที่พอใจของตน ต่อมาจึงปรับรูปแบบสูตรใหม่ โดยเพิ่มธัญพืชเข้ามาใส่ด้วย ทั้ง ข้าวบาเลย์ ถั่วแดง มันเชื่อม นอกจากนี้ยังมีรสชาติให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้ง นมสด ,กาแฟ ,โกโก้ ,ชาเขียว สตรอเบอรี่ แคนตาลูป ฯลฯ เป็นต้น ปรากฏว่าลูกค้าชื่นชอบเป็นอย่างมาก ขายได้ถึง 30,000 บาทต่อวันเลย

 

เมื่อสินค้าเป็นที่ถูกใจของลูกค้าจำนวนมาก ตนเองจึงคิดสร้างแบรนด์ให้เฉาก๊วย เพื่อให้เป็นที่รู้จักและจดจำชื่อได้ ด้วยเงินลงทุนแค่ 5,000 บาท โดยเริ่มจากการสั่งการสั่งผลิตเฉาก๊วยมาขาย พร้อมโรยธัญพืช ชื่อแบรนด์ “Jelly Bird” กิจการเติบโตเป็นอย่างดี มีคนเข้ามาขอซื้อแฟรนไชส์เป็นจำนวนมาก ทำให้สามารถขยายสาขาได้มากกว่า 100 สาขา เมื่อธุรกิจมีการเติบโตอยางรวดเร็วจึงมีปัญหาตามมา คือโรงงานผลิตไม่สามารถผลิตเฉาก๊วยได้ทันตามเวลาที่ต้องการ ตนเองจึงต้องลองผลิตเฉาก๊วยขึ้นมาเอง กว่าจะประสบความสำเร็จได้เฉาก๊วยที่มีความเหนียวนุ่ม ต้องใช้เวลาเป็นปี และต้องสูญเสียการขอเลิกสัญญาจากแฟรนไชส์ซี่ไปกว่า 100 ราย

เมื่อทุกอย่างมีความลงตัวในทุกๆด้าน ทั้งสูตรเฉาก๊วย ,คีออส,จำนวนแฟรนไชส์ ตนเองจึงกลับมาลุยในธุรกิจแฟรนไชส์ร้านขายเฉาก๊วย แบรนด์“Jelly Bird”อย่างเต็มตัว เต็มที่สุดกำลัง ส่งผลให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ประมาณ 1ตันต่อวัน ทั้งการส่งขายให้แฟรนไชส์ซี่ และบรรจุกล่องพร้อมจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ เช่น วิลล่ามาร์เก็ต,ท็อปซูเปอมาร์เก็ต,เลมอนฟาร์ม และจัสโก้

การลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์
– ค่าแฟรนไชส์ 19,900 บาท

เงื่อนไขแฟรนไชส์ดังนี้
-บูธพร้อมอุปกรณ์ครบครัน สามารถขายได้ทันที
-บริษัทไม่มีการเก็บเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย
-ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะต้องจัดหาทำเลเอง
-แฟรนไชส์ในกรุงเทพฯ สามารถสั่งซื้อวัตถุดิบได้ตั้งแต่วันจันทร์-วันเสาร์ สามารถสั่งล่วงหน้าได้ 1 วัน
-แฟรนไชส์ต่างจังหวัด สามารถสั่งวัตถุดิบได้วันอังคาร ศุกร์ ซึ่งทางบริษัทจะจัดส่งตามสินค้าตามทางรถ บขส.,ขสมก. โดยได้รับของในวันถัดไป

* บริษัทคิดค่าบริการขนส่งในกรุงเทพฯและปริมณฑล ราคา 1,000 บาท ,ต่างจังหวัดคิดตามระยะทาง

 

ข้อมูลติดต่อแฟรนไชส์ขายเฉาก๊วย แบรนด์ “Jelly Bird”
เบอร์ 02-719-5009 ,02-656-6965
แฟกซ์ 02-719-5501
เว็บไซด์ http://www.jellybird.com
อีเมลล์ jellybirdmait@yahoo.com