คอมมูนิตี้มอล์ “Ease Park” ทำเลสุดอลังการริมถนนรามอินทรา
ติดรถไฟฟ้าสายสีชมพู
คอมมูนิตี้มอล์ ทำเลทองหน้าตาทันสมัยที่กำลังแข่งขันกันผุดขึ้นจนหนาแน่นทั่วทุกพื้นที่ เปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าหรือผู้ประกอบการหน้าใหม่ๆ ได้มีพื้นที่ขายของเพิ่มเติมกันไปตามๆ ครั้งนี้เราก็มาพร้อมกับทำเลทองย่านหนึ่งมาฝาก ในรูปแบบของคอมมูนิตี้มอล์เช่นกัน ตั้งอยู่ย่านถนนรามอินทรา แหล่งสัญจรที่เต็มไปด้วยรถยนต์จำนวนมาก รายล้อมไปด้วยที่อยู่อาศัยมากมาย
คอมมูนิตี้มอล์ “Ease Park” (อีส พาร์ค) ตั้งตระหง่านอยู่บนริมถนนรามอินทรา สังเกตเห็นได้อย่างง่ายดายเพราะอยู่บริเวณริมถนนพอดิบพอดี ลักษณะพื้นที่ดังกล่าวมีจำนวนรถยนต์สัญจรผ่านไปมาอย่างมากมาย และพื้นที่รอบๆ ยังรายล้อมไปด้วยที่อยู่อาศัยที่หนาแน่น สู่การเป็นทำเลทองที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการทั้งหลาย โดยคอมมูนิตี้มอล์ Ease Park ดำเนินการอยู่ภายใต้การบริหารงานของ “บริษัท เคเอเอ็น พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด” ซึ่งได้ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์อย่าง “คุณธัชชัย ศีลพิพัฒน์” มานั่งบริหารงานในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ หลังจากที่ทำงานด้านการตลาดให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์มากว่า 6 ปีที่แสนสิริ โดยจะรับผิดชอบในส่วนของคอนโดมิเนียมเป็นหลัก กระทั่งเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาจนอิ่มตัว จึงผันตัวมาเปิดบริษัทเป็นของตัวเองเพื่อประกอบการเกี่ยวกับอสังหาฯ ต่อไป
เริ่มแรกของการก่อตั้งบริษัท เคเอเอ็น พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ตั้งใจที่จะพัฒนาโครงการหมู่บ้านจัดสรรทั้งทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว รวมไปถึงคอนโดมิเนียม แต่เพราะที่ดินของครอบครัวที่เคยเป็นปั๊มน้ำมันมาหมดสัญญาลงเสียก่อน จึงกลับมามองและคิดที่จะทำอะไรกับที่ดินผืนนี้ดี เพื่อที่จะไม่ต้องขายทิ้งไปเนื่องจากเป็นมรดกตกทอดของครอบครัว อีกทั้งยังเป็นทำเลที่สวยใช้ได้ เพราะอยู่ติดริมถนนพอดี และห่างจากแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ในอนาคต) เพียง 100 เมตรเท่านั้น กระทั่งท้ายที่สุดก็มาจบที่คอมมูนิตี้มอล์ แหล่งค้าขายที่ทันสมัยและกำลังเป็นที่นิยมอยู่ตอนนี้นี่เอง คือที่มาของการกำเนิด Ease Park ในที่สุด ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนของโครงการอยู่ที่ 200 ล้านบาท
ลักษณะโครงการ Ease Park คือการเปิดเป็นคอมมูนิตี้มอล์ มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 3.5 ไร่ ติดริมถนนรามอินทรา ช่วง ก.ม.ที่ 4-5 พื้นที่ตั้งโครงการมีหน้ากว้าง 60 เมตร โดยพื้นที่ก่อสร้างอยู่ที่ประมาณ 7,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยร้านค้าประมาณ 15 ร้าน ก่อสร้างขึ้นในแนวคิด Style industrial เน้นการตกแต่งที่โชว์ วัสดุที่เป็น ไม้ เหล็ก ปูน อิฐ การแบ่งพื้นที่แต่ละชั้น แบ่งดังนี้
- ชั้น 1 เป็น Supermarket ซึ่งเป็น Villa market และมี Starbucks Drive Thru
- ชั้น 2 เป็น โซนของร้านอาหาร ซึ่งมีอาหารหลากหลายชนิด เช่น King Kong (yakiniku), Neo suki, ร้านก๋วยเตี๋ยวไข่ย้อนยุค, ร้านตำยั่ว ครกยักษ์, Zuru (ร้านอาหารญี่ปุ่น)
- ชั้น 3 เป็นส่วนของ health/beauty and lifestyle ซึ่งประกอบไปด้วย fitness, clinic เสริมความงาม (Natacha Clinic), Clinic ทำฟัน, และเป็น zone ร้านนั่งชิล (The Stadium)
ในแง่ของความได้เปรียบของที่ตั้ง จากการสำรวจพบว่าบริเวณดังกล่าวโดยรอบประกอบไปด้วยที่อยู่อาศัยจำนวนมาก อีกทั้งยังเต็มไปด้วยผู้คนที่มีกำลังซื้อสูง ทำให้การกำเนิดของคอมมูนิตี้มอล์ Ease Park มีแนวโน้มของความสำเร็จให้เห็นอยู่แล้ว รวมทั้งการลงทุนของผู้ประกอบการรายย่อยที่จะเข้ามาจับจองพื้นที่ภายในคอมมูนิตี้มอล์แห่งนี้ ที่เชื่อว่าจะสามารถสร้างกำไรจากธุรกิจได้ในระดับที่เหมาะสม จัดเป็นทำเลทองอีกหนึ่งแห่งที่น่าจับตามอง และน่าจับจองเป็นเจ้าของสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่มีธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร ศูนย์ความงาม ศูนย์ฟิตเนส ฯลฯ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่
รายละเอียดในการเช่าพื้นที่โครงการ Ease Park
- ค่าเช่าโดยเฉลี่ย 800-1,200 บาทต่อเดือนต่อตารางเมตร
- ค่าไฟฟ้าหน่วยละ 6 บาท
- ค่าน้ำยูนิตละ 20 บาท
- ทั้งนี้อัตราค่าเช่าพื้นที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรติดต่อสอบถามจากเจ้าหน้าที่โดยตรง
ข้อมูลติดต่อโครงการ Ease Park
ที่อยู่ : เลขที่ 248 ถนนรามอินทรา กม.4
Facebook : @easeparkbkk
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : Ease Park