ตู้เสื้อผ้าพลาสติก “HAKO”ปรับโฉมใหม่สไตล์ญี่ปุ่น ขายความทันสมัย !!

ตู้เสื้อผ้าพลาสติก หลายคนอาจหลงลืมไปบ้างแล้ว เพราะสมัยนี้ใครๆก็หันมาใช้ตู้เสื้อผ้าจากวัสดุอื่นอย่าง “ไม้” เสียมากกว่า ด้วยรูปลักษณะของตู้เสื้อผ้าพลาสติกในขณะนั้น ไม่ทันสมัยสวยงาม เป็นแบบซิปรูดตรงกลางธรรมดาๆ การใช้งานแต่ละครั้งก็ยุ่งยาก ยิ่งเวลาเร่งรีบกว่าจะรูดซิบหาเสื้อผ้าได้ ก็ใช้เวลา หงุดหงิดเมื่อเสื้อผ้าที่ใช้นั้นอยู่ด้านในสุดของตู้ หยิบยาก ไม่ถนัด แถมไม่ทนทาน อายุการใช้งานน้อย ใช้ได้ไม่นานซิปแตกอีก ปัญหากับแมลงกัดเสื้อผ้าเสียหาย ข้อดีนั้นก็ยังพอมีอยู่บ้างตรงที่ราคาถูก เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะกับการใช้งานแบบชั่วคราวมากกว่าแบบถาวร

ปัญหาดังกล่าวเหล่านี้ลืมไปได้เลยคะ เมื่อ สองทายาทธุรกิจตู้เสื้อผ้าพลาสติก “คุณธนัญญา และธนาพร เหล่าศิลปเจริญ และ คุณมัณธนสร ตันติยาภินันท์” นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง พลิกโฉมตู้เสื้อผ้าแบบเก่าที่ธรรมดาๆ ให้กลายเป็นสินค้าทำเงิน ทันสมัย โมเดิร์น อินเทรนด์ ขึ้นมาทันที กับ “ตู้เสื้อผ้าพลาสติกสไตล์ญี่ปุ่น”

สานต่อธุรกิจครอบที่ทำตู้พลาสติกมากว่า 40 ปี ปรับปรุงสินค้าแต่พัฒนาต่อยอดธุรกิจมาเรื่อยๆ กว่าหลายสิบปีที่ผ่านมานั้น ทำการค้าแบบส่งออกไปยัง ประเทศญี่ปุ่น, สหรัฐฯ และโซนยุโรป โดยรับจ้างผลิตสินค้า OEM 100% เมื่อประสบปัญหาการเข้ามาแย่งชิงพื้นทางการตลาดของสินค้าจากประเทศจีน เลยทำให้ต้องหันมาแบ่งสัดส่วนการทำธุรกิจใหม่ จากเดิมที่เคยรับจ้างผลิตสินค้าเพียงอย่างเดียว จึงเป็นที่มาของการสร้างแบรนด์สินค้า ”HAKO” ดำเนินธุรกิจโดยบริษัท ฮาโกะสโตร์ จำกัด

เมื่อมีความพร้อมและความชำนาญอยู่แล้วในเรื่องตู้พลาสติก เมื่อมาทำสินค้าเป็นของตัวเองจึงจุดแข็งทางด้านนี้มาใช้ เสริมจุดแข็งในเรื่องของความแข็งแรง และความสวยงามทันสมัยขึ้นมา ทำให้สินค้ามีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่เป็นเพียงแค่ซิปรูดแบตรงกลางอย่างเดียว เปลี่ยนวัสดุจากเดิมจะเป็นพลาสติกพีวีซี เปลี่ยนมาใช้ผ้าซาตินแทน เพราะมีความเหนียวและทนทานกว่า โครงเหล็กและท่อพลาสติกก็ใช้วัสดุเกรดเอ ไม่โค้งงอได้ง่าย และในส่วนของแผ่นรองชั้นใช้ไม้อัด สามารถรับน้ำหนักได้ ประมาณ 20 กิโลฯ

ไฮไล้ท์ของตู้เสื้อผ้ารูปแบบใหม่นี้ คือ ในส่วนของการออกแบบดีไซน์ คำนึงถึงการใช้งาน สามารถถอดออกประกอบได้ตามใจชอบ น้ำหนักเบามีล้อเลื่อนทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก เน้นสไตล์ญี่ปุ่น เพราะใช้งานง่ายและสินค้าญี่ปุ่นนั้นเป็นสินค้าที่คนไทยนิยมอยู่แล้วด้วย สินค้าที่วางขายมีด้วยกัน 7 รูปแบบ อาทิ ตู้รองเท้า ตู้เสื้อผ้า เป็นต้น ราคาเริ่มต้นที่ชิ้นละประมาณ 1,000-2,000 บาท เน้นโทนสีพื้น อย่างสีน้ำตาล เทา เป็นหลัก เพราะสามารถเข้ากับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆและสีบ้านได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมต่างๆขายด้วย เช่น กล่องเก็บของ กระเป๋าล้อลาก ฯลฯ โดยทั้งหมดออกแบบมาให้ใส่เข้ากับตู้ได้อย่างพอดี สำหรับราคาขาย เริ่มต้นต่อชิ้นที่หลักร้อยบาท ทั้งนี้สินค้าจะเน้น D.I.Y ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง