ธุรกิจชุดราตรี “THESUNCHIC” สวนกระแสเศรษฐกิจด้วยเทคนิคชั้นครู!!
เป็นที่ทราบกันดีสำหรับในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองนี้ ทำให้หลายๆธุรกิจต้องซบเซาหรือปิดตัวลง โดยเฉพาะธุรกิจชุดราตรีสำหรับออกงานสังคมที่มีการแข่งขันสูงขึ้น ทว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาของ “THESUNCHIC” แบรนด์ธุรกิจชุดราตรีที่มียอดขายสูงลิบสวนกระแส จากการนำเทคนิคชั้นครูมาใช้ในงาน สร้างความแตกต่างและเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
คุณจิตรา ทองประดับ หรือคุณ “จ๋า” เป็นนักธุรกิจสาวที่จบการศึกษาทางด้านแฟชั่นโดยตรงจากญี่ปุ่น ด้วยความรู้ความสามารถที่สะสม ทำให้เธอไม่รีรอที่จะเปิดห้องเสื้อเป็นของตัวเองที่ประเทศไทย โดยเอกลักษณ์ที่คุณจ๋าใช้ในการสร้างความแตกต่างระหว่างแบรนด์ของเธอกับแบรนด์อื่นๆในท้องตลาด คือการออกแบบเสื้อผ้าแบบ Draping เทคนิคที่ต้องอาศัยความชำนาญ พบเห็นได้น้อยในธุรกิจชุดราตรีปัจจุบัน
โดยปกติแล้ว เวลาดีไซน์เนอร์จะออกแบบชุดราตรีจะมีการวาดแบบลงในกระดาษ ก่อนนำไปตัดเย็บให้ได้ตามที่วางแผนไว้ วิธีนี้เป็นวิธีทั่วๆไปที่มักเกิดปัญหาความผิดพลาดตามมา อาทิ ชุดที่ตัดออกมาไม่สวยเท่าสิ่งที่ออกแบบในกระดาษ หรือทรงของเสื้อผ้าที่ผิดเพี้ยนไปเมื่อต้องนำมาตัดเป็นชุดจริงๆ ในขณะเดียวกัน สำหรับเทคนิค Draping คือการนำขั้นตอนการออกแบบนั้นมาย้อนกลับ ดีไซน์เนอร์จะเริ่มต้นด้วยออกแบบทรงของผ้าบนหุ่นโชว์ จัดการสร้างรูปแบบและความพลิ้วไหวของผ้าที่ต้องการให้เกิดขึ้น ก่อนนำมาวาดลงในกระดาษและส่งตัดเย็บ วิธีนี้จะทำให้ดีไซน์เนอร์ได้มองเห็นถึงความเป็นไปได้ที่เกิดขึ้นจริงกับชุด ความเหมาะสมและรูปทรงต่างๆ ทำให้สามารถดึงความงามของการออกแบบได้เต็มที่ คุณจ๋าเผยจากประสบการณ์ว่า เสื้อผ้าชุดราตรีที่ใช้เทคนิค Draping ในการออกแบบจะสวยแน่นอนและมีความงามที่โดดเด่นออกมา
อย่างไรก็ตาม เทคนิค Draping ไม่ใช่เทคนิคง่ายๆ เพราะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สั่งสม ต้องมีความเข้าใจทั้งในด้านการออกแบบและการผลิตชุดราตรี ที่สำคัญยังเป็นงานที่ละเอียดละออในทุกๆขั้นตอน มีความสิ้นเปลืองสูงเพราะกว่าจะได้รูปแบบที่ดีไซน์เนอร์พึงพอใจ ก็จำเป็นต้องยอมสูญเสียผ้าจำนวนมาก ที่ใช้ในการ Draping อีกด้วย
ด้วยสาเหตุนี้ ทำให้ธุรกิจชุดราตรี Draping ของ “THESUNCHIC” จึงมีรูปแบบที่งดงาม ไม่ซ้ำใคร และยังเป็นสินค้าชูโรงของร้านมานานกว่า 4 ปี สาเหตุสำคัญที่ทำให้ ธุรกิจชุดราตรีแบรนด์นี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม คุณจ๋าเผยว่า เป็นเพราะความแตกต่างของการเลือกใช้เทคนิค ทำให้มีคู่แข่งจำนวนน้อยรายในตลาด ประกอบกับความต่อเนื่องที่ทำให้ลูกค้าไว้วางใจ ใช้บริการอยู่เสมอ ที่สำคัญคือราคาที่ย่อมเยา เพราะหากเทียบกับสินค้าจากแบรนด์อื่นที่ใช้เทคนิคระดับเดียวกัน ก็ต้องมีเงินติดกระเป๋าไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นบาทขึ้นไป แต่ชุดของธุรกิจชุดราตรี “THESUNCHIC” ราคาสุทธิ 8,000 – 10,000 ซึ่งต้องถือว่าราคาสมน้ำสมเนื้อมาก และไม่สูงนักสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่คุณจ๋าเล็งไว้ ซึ่งจะเน้นไปที่กลุ่มนักธุรกิจหญิงที่ต้องออกงานสังคมบ่อยๆ รักในความทันสมัย และความสมบูรณ์แบบ
สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น ธุรกิจชุดราตรีแบรนด์ “THESUNCHIC” มีอยู่หลายช่องทาง ทั้งร้านที่ตั้งอยู่ ชั้น 1 ของ Terminal 21, การจัดจำหน่ายผ่านเว็บไซต์โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คของทางร้าน และการนำสินค้าออกแสดงทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยนักธุรกิจหญิงไฟแรงเผยว่ายอดขายของ “THESUNCHIC” เป็นที่น่าพึงพอใจ ตัวเลขสูงถึง 400,000 – 500,000 บาทต่อเดือน หรือเฉลี่ยประมาณ 60 ตัว ทั้งนี้คุณจ๋าสมทบว่าความต้องการของลูกค้ายังมีมากกว่านี้ แต่เนื่องจากเทคนิคที่ใช้เป็นเรื่องของฝีมือขั้นสูง จึงขาดแคลนในทีมงานคนผลิต
ในเรื่องของแผนธุรกิจที่วางไว้ คุณจ๋าได้เล็งถึงตลาดนอกประเทศที่มีกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง โดยมุ่งเน้นไปที่แถบตะวันออกกลางอย่างนครดูไบ ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสม ทำให้นักธุรกิจไฟแรงจึงมั่นใจในการวางแผนการตลาดที่ดีขึ้น และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นนั่นเอง
ข้อมูลติดต่อธุรกิจชุดราตรี “THESUNCHIC”
โทรศัพท์: 08-6711-4116
เฟซบุ๊ค: The sun-chic
ไลน์: @thesunchic
ไอจี: thesunchic
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก Facebook The sun chic