ธุรกิจที่พัก “สุเนต์ตา โฮสเทล” สัญลักษณ์เชียงคาน ผลิกชีวิตจากนักธุรกิจที่เคยล้มเหลว

ธุรกิจที่พัก “สุเนต์ตา โฮสเทล” สัญลักษณ์เชียงคาน
ผลิกชีวิตจากนักธุรกิจที่เคยล้มเหลว

ธุรกิจที่พัก วันนี้เรามาพร้อมกับสถานที่หนึ่งที่หลายๆ คนรู้จัก โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เคยได้ไปสัมผัสกับอากาศหนาวที่ “เชียงคาน” หรืออาจจะเคยศึกษาข้อมูลมาบ้างเพื่อเตรียมการที่จะไป คงคุ้นเคยดีกับธุรกิจที่พักที่เรานำมาฝากในครั้งนี้ เพราะที่นี่เขาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเชียงคานไปแล้ว เมื่อไม่ว่าใครก็ตามที่เดินทางไปที่นั่นก็ต้องแวะถ่ายภาพกับป้ายชื่อของธุรกิจที่พักดังกล่าวและแชร์ภาพผ่านโลกออนไลน์ ทำให้ธุรกิจที่พักแห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักไปโดยปริยาย

ธุรกิจที่พัก ครั้งนี้มีชื่อว่า “สุเนต์ตา โฮสเทล” ก่อตั้งโดย “คุณนพดล สุเนต์ตา” ผู้ที่ผ่านประสบการณ์ในวงการธุรกิจมาก็มากพอสมควรแถมยังเคยล้มเหลวหลายต่อหลายครั้ง กระทั่งความผิดพลาดเหล่านั้นเป็นดั่งครูที่สอนให้เขาได้รู้จักกับหนทางแห่งความสำเร็จ รู้จักที่จะหลีกเลี่ยงเส้นทางสู่ความล้มเหลวที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งก่อน เริ่มต้นคุณนภดลเองก็เคยเป็นพนักงานประจำมาก่อน เขาเรียนจบมาจาก “สถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เคยทำงานในบริษัททำของเล่นจากกระดาษ แต่ด้วยความไม่มีวินัยของตนเอง ทำให้ไปทำงานสายบ้าง ขาดงานโดยไม่มีเหตุจำเป็นบ้าง กระทั่งเวลาผ่านไป 3 เดือนในการทำงานก็โดนเรียกคุย ตอนนั้นคุณนภดลรู้ตัวดีจึงชิงลาออกเสียก่อน และทำให้เขาเริ่มรู้ตัวว่าตนเองคงไม่เหมาะกับการทำงานประจำเท่าไร

เมื่อคิดได้แบบนั้นคุณนภดลจึงตั้งใจที่จะเป็นนายตัวเอง ด้วยการสร้างธุรกิจเป็นของตัวเองขึ้นมา จากแนวคิดที่ว่าเขาเองอายุยังน้อยเพียง 20 กว่า หากทำธุรกิจแล้วเจ๊งตอนนี้ก็ยังสามารถเจ๊งได้อีกหลายๆ ครั้ง เมื่ออายุยังไม่ได้มากนัก ไม่ได้มีภาระอะไรที่ต้องเป็นกังวล ผิดกันกับคนที่ทำงานไปนานๆ จนอายุมากขึ้น มีทั้งภาระมากมายรัดตัว ที่ไม่สามารถจะเสี่ยงอะไรได้อีก สุดท้ายก็ต้องเป็นลูกจ้างไปตลอด เมื่อคิดได้แบบนั้นคุณนพดลจึงไม่ลังเลที่จะเริ่มต้นธุรกิจและลงมือทำทันที

ในเวลานั้นคุณนพดลมีเงินทุนอยู่ 7,000 บาทเป็นเงินที่ทางบริษัทจ่ายชดเชยมาให้ตอนออก เขาเองก็ตัดสินใจเอาเงินก้อนนั้นมาลงทุนเปิดบริษัทของตัวเองด้วยเงินเพียง 7,000 บาทเท่านั้น เขาเริ่มต้นทำบริษัทเว็บไซต์กับเพื่อน โดยตัวเองเป็นผู้ออกแบบ ส่วนเพื่อนเป็นนักการตลาด ก็ช่วยกันสองแรงเพื่อหาลูกค้าเข้ามา โดยเริ่มต้นธุรกิจในเดือนแรกไม่มีลูกค้าเข้ามาเลยแม้แต่คนเดียว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาและเพื่อนหยุดอยู่แค่นั้น ยังคงใช้ความพยายามในการหาลูกค้าต่อไป

กระทั่งได้รายแรกเข้ามาก็เน้นคิดราคาถูกๆ เพื่อสร้างฐานลูกค้า สำหรับลูกค้ารายแรกทำเว็บไซต์ที่ 10 หน้าคิดราคาหมื่นกว่าบาท กระทั่งลูกค้าค่อยๆ เพิ่มขึ้น จากพนักงาน 2 คนคือเขาและเพื่อนของเขาก็ค่อยๆ เพิ่มเป็น 7 คนภายใน 1 ปี เมื่อเข้าสู่ปีที่ 2 พนักงานก็เพิ่มเป็น 12 คนกระทั่งเข้าปีที่ 3 พนักงานเพิ่มเป็น 30 คน จากใช้บ้านเพื่อนเป็นออฟฟิศ ก็เริ่มขยับขยายออกมาหาออฟฟิศข้างนอกพร้อมตกแต่งสวยงาม ตอนนั้นได้เงินจากการขายงานมา 3 ล้าน สุดท้ายทุ่มไปกับการตกแต่งออฟฟิศให้สวยหมดเลย กระทั่งปีที่ 4 บริษัทก็ปิดตัวลง จากความผิดพลาดหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นจากคุณนพดลเอง  

เขาทำธุรกิจล้มเหลวต่อมาเรื่อยๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งครั้งหนึ่งที่เขาและน้องชายได้ไปเยือนเมืองเชียงคานเพื่อพักผ่อน เขารู้สึกชอบบรรยากาศที่นั่น และการไปครั้งนั้นก็ทำให้เขามีความคิดที่อยากจะเป็นเจ้าของรีสอร์ท จึงเริ่มคุยกันกับน้องชายและสุดท้ายก็ร่วมกันทำด้วยกัน ขั้นตอนแรกของการเริ่มธุรกิจที่พักครั้งนั้นคือการหาบ้าน ซึ่งได้ตั้งเกณฑ์เอาไว้ว่าจะต้องเป็นบ้านที่อยู่ริมน้ำโขงเท่านั้น กระทั่งสุดท้ายก็มาได้บ้านหลังหนึ่งเป็นบ้านไม้เก่าๆ มีที่ตั้งอยู่ริมน้ำโขงพอดี ส่วนอีกด้านหนึ่งของบ้านก็เป็นถนนคนเดิน เปรียบเสมือนว่าบ้านหลังนี้มีหน้าบ้านสองด้าน

คุณนพดลเริ่มใช้ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบตกแต่งบ้านไม้เก่าๆ เพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้กลายเป็นที่พัก ซึ่งอย่างแรกที่เขาทำคือเลือกเอาตรงโถงกลางออก เพื่อให้สามารถมองทะลุผ่านตัวบ้านจากฝั่งถนนคนเดินแล้วเห็นแม่น้ำโขงพอดี ภายในยังประดับตกแต่งให้ออกแนววินเทจ มีการนำภาพโปสเตอร์ภาพยนตร์เก่าๆ มาติดตามข้างฝา โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ที่เชียงคานแห่งนี้เองเคยมียุครุ่งเรืองมาก่อน ซึ่งมีโรงหนังถึงสามโรงด้วยกัน จึงตั้งใจทำที่นี่ให้เป็นสถานที่ที่ปลุกตำนานของเชียงคานขึ้นมาอีกครั้ง

พร้อมกับป้ายหน้าที่พักที่เป็นสัญลักษณ์ของเชียงคานทุกวันนี้กับป้ายชื่อ “สุเนต์ตา” ที่ไม่ว่าใครมาที่นี่ก็ต้องมาแวะถ่ายภาพ ก่อนจะแชร์ผ่านโลกโซเชียลฯ กลายเป็นการบอกต่อไปในตัวทำให้ธุรกิจที่พักสุเนต์ตากลายเป็นที่รู้จักภายในเวลาอันรวดเร็ว กระทั่งสามารถคืนทุนได้ภายใน 1 ปีครึ่งเท่านั้น ซึ่งตอนนั้นคุณนภดลใช้เงินทุนไปทั้งหมดราวๆ 600,000 บาทในการปรับเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นที่พัก

จากนั้นเมื่อได้กำไรมาคุณนพดลก็จะนำมาต่อเติม ซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่ม ซื้อเครื่องปรับอากาศเพิ่มเข้าไป เพื่อให้ที่พักมีความสมบูรณ์มากขึ้น ใส่ใจในเรื่องของการตกแต่งเพื่อเพิ่มมูลค่า และภายหลังก็ได้มีการขยายสาขาเพิ่มเติมที่ย่านถนนข้าวสารอีกหนึ่งสาขา แก้โจทย์ธุรกิจที่พักเชียงคานที่มักจะขายได้เฉพาะช่วงหน้าหนาวเท่านั้น แต่ถ้าเป็นถนนข้าวสารก็จะสามารถขายได้ตลอดทั้งปี

ข้อมูลติดต่อธุรกิจที่พัก สุเนต์ตา
โทรศัพท์ : 086-999-9218
Website : http://www.sunetahostel.com
Facebook : @sunetahostel

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : สุเนต์ตา