หอการค้าไทยเผย 10 ธุรกิจดาวเด่น-ร่วง ชี้ธุรกิจทางการแพทย์และความงามยังแรงครองแชมป์ 3 ปีซ้อน พร้อมคาดเศรษฐกิจไทยปีหน้าขาขึ้น เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวไตรมาส2/58
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง 10 อันดับธุรกิจดาวเด่น-ร่วงในปี 2558 ว่า ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงามยังเป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่นเป็นอันดับหนึ่งในปีหน้า โดยมีคะแนนรวมสูงถึง 93.7 คะแนน โดยเป็นธุรกิจที่ครองแชมป์มานานติดต่อกัน 3 ปี รองลงมาคือ ธุรกิจเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิวมีคะแนนรวมอยู่ที่ 93.1 คะแนน ซึ่งทั้งสองธุรกิจนี้มีความโดดเด่นทั้งยอดขายและกำไร เนื่องจากพฤติกรรมในการดูแลเรื่องผิวพรรณมีมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสารอยู่อันดับสามมีคะแนนอยู่ที่ 92.9 คะแนน เพราะมีความต้องการใช้มากขึ้น อีกทั้งการเข้าสู่ยุค 4จี จึงทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีการแข่งขันด้านราคาสูง
ขณะที่อันดับ4 คือ ธุรกิจการศึกษา และธุรกิจท่องเที่ยว 92.6 คะแนน อันดับ5 คือ ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต 91.6 คะแนน อันดับ6 คือ ธุรกิจเครื่องดื่ม 90.2 คะแนน อันดับ 7 คือ ธุรกิจถุงมือยางถุงมือตรวจโรคและธุรกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง 89.9 คะแนน อันดับ 8 คือ ธุรกิจสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ 89.1 คะแนน อันดับ9 คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (แนวนิ่ง) และธุรกิจร้านกาแฟ 86.6 คะแนน และอันดับ10 คือ ธุรกิจประมงน้ำจืดและธุรกิจจำหน่ายบิ๊กไบค์ 88.1 คะแนน
“ธุรกิจที่โดดเด่นในปีหน้าส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวตามสิ่งที่เกิดตามธรรมชาติเช่น การรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การเปลี่ยนแปลงสู่สังคมเมืองมากขึ้น และมาจากนโยบายภาครัฐ เช่น การลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การผลักดันให้เข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและการมีเขตเศรษฐกิจพิเศษ จึงทำให้เกิดการลงทุนในธุรกิจเหล่านี้ตามมา” นายธนวรรธน์ กล่าว
สำหรับธุรกิจดาวร่วงในปีหน้าที่น่าสนใจพบว่าคือ ธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์ รองลงมาคือ ธุรกิจหัตถกรรมทั่วไป ผักผลไม้อบแห้ง สิ่งทอผ้าผืน (งานไม่เน้นฝีมือ) ร้านค้าดั้งเดิม (โชห่วย) ยางพารา โทรทัศน์สีรุ่นธรรมดา (จอตู้) ข้าว ส้วมนั่งยองและรถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์) โดยมอเตอร์ไซค์จะเห็นธุรกิจที่เห็นชัดถึงการเปลี่ยนของสังคมเมือง เพราะผู้บริโภคก็จะหันไปซื้อรถยนต์นั่ง (รถเก๋งขนาดเล็ก) หรือไม่ก็บิ๊กไบค์แทนมากขึ้น
ทั้งนี้ มองว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะเป็นช่วงขาขึ้น คาดว่าจะมีการขยายตัว 4% การส่งออกขยายตัวอยู่ในระดับ 4.1% การบริโภคภายในประเทศขยายตัว 2.7% การลงทุนขยายตัว 6.9% อุตสาหกรรมขยายตัว 4.5% ภาคเกษตรขยายตัว 1.6% และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.3%
“การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกจะเริ่มเห็นในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 โดยภาวะเศรษฐกิจในไทยจะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส2 ปีหน้า เพราะเงินอัดฉีดจากรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจะเริ่มเข้าระบบและเดินเครื่องในช่วงเดือนม.ค.2558 ซึ่งจะทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามมา” นายธนวรรธน์ กล่าวอย่างไรก็ดี ธุรกิจที่ยังขยายตัวอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่เป็นหลัก ขณะที่ธุรกิจรายเล็กยังขยายตัวได้ไม่ดีนัก เพราะกำลังซื้อฐานรากยังไม่ดี
นอกจากนี้ ยังคาดว่าอัตราแลกเปลี่ยนในปี2558 น่าจะอ่อนค่าเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 33-34 บาทต่อดอลลาร์ โดยในช่วงครึ่งปีแรกต้องยอมรับว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น และในช่วงครึ่งปีหลังค่าเงินบาทน่าจะกลับมาอยู่ที่ 32.5 บาทต่อดอลลาร์ได้ ส่วนราคาน้ำมันคาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ผลสำรวจ 10 อันดับธุรกิจดาวเด่นปี 2558
- ธุรกิจทางการแพทย์และความงาม
- ธุรกิจเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว
- ธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสารและอุปกรณ์
- ธุรกิจการศึกษาและธุรกิจท่องเที่ยว
- ธุรกิจประกันชีวิต
- ธุรกิจเครื่องดื่ม
- ธุรกิจถุงมือยาง ธุรกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง
- ธุรกิจสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ
- ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจร้านกาแฟ
- ธุรกิจประมงน้ำจืด และธุรกิจบิ๊กไบค์
ผลสำรวจ 10 ธุรกิจดาวร่วงปี 2558
- ธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์
- หัตถกรรมทั่วไป
- ผักและผลไม้อบแห้ง
- สิ่งทอผ้าผืน
- ร้านค้าดั้งเดิม
- ยางพารา
- โทรทัศน์สีรุ่นเก่า
- ข้าว
- ส้วมนั่งยอง
- รถจักรยานยนต์
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรุงเทพธุรกิจ