ธุรกิจร้านอาหาร “สไตล์ญี่ปุ่น”คอนเซ็ปต์กินข้าวใต้ต้นซากุระ MR.Sushi
หากพูดถึงอาหารญี่ปุ่นหลายๆคนก็คงรู้จักกันดี อย่าง ซูชิ ชาบูชาบู เป็นต้น ซึ่งในยุคนี้จะหาทานที่ไหนก็ง่ายเพราะตามตลาดนัดทั่วไปยังมี ขายก็ชิ้นเพียงละ 5 บาท แต่คุณภาพก็ไม่ได้ดี มีมาตรฐานนักหากจะขึ้นไปกินบนห้าง ตามร้านอาหารก็คงจะแพง แต่ในปัจจุบันนี้มีอยู่หนึ่งธุรกิจร้านอาหารที่ขายอาหารญี่ปุ่นไม่แพงเลยอย่าง ขายซูชิเพียงชิ้นละ 10 บาท แถมวัตถุดิบนั้นส่งตรงจากญี่ปุ่นเลยทีเดียว รูปแบบอาหารก็มีให้เลือกหลายหลายรูปแบบมากมาย ทั้งซูชิ ข้าวเป็นชุด หรือจะเป็นชาบูชาบู ก็มีทั้งนั้นราคาก็ไม่ได้แพงเลย
จุดเริ่มต้นของธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น “มิสเตอร์ ซูซิ”(MR.Sushi) นี้ก็คือ “ คุณสุริยัน ปะวะเสนะ “ หรือ เซฟไรอัน ผู้รักและหลงใหลในอาหารญี่ปุ่นกว่า 15 ปี และเชฟไรอันนั้นอยากให้คนไทยได้กินซูชิราคาถูก ที่มีคุณภาพดี และราคาไม่แพง ด้วยจุดนั้นเองจึงเป็นจุดเริ่มธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น คำละ 10 บาท ในชื่อ “มิสเตอร์ซูชิ” ในตอนแรกก่อนเริ่มธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นนั้น เชฟไรอันก็นำซูชิไปปั้นขายในตลาดก่อนซึ่งการไปเปิดนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และจากนั้นธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นก็เติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยเชฟไรอันนั้นก็กระจายทั้งแบบ ไปตั้งคีออสมิสเตอร์ซูชิตามอาคารสำนักงานชื่อดังต่างๆ ในกรุงเทพฯ เปิดสาขาในรูปแบบของเคาน์เตอร์ซูชิตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ นอกจากนั้นยังมี ยังมีแผงขายซูชิตามตลาดนัดต่างๆ อีกด้วย การขายซูชิราคาที่ถูกนั้นลูกค้าหลายๆคนก็คิดว่า มิสเตอร์ซูชินั้น นำสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพมาขาย แต่ที่จริงแล้วซูชิของเชฟไรอันนั้นวัตถุดิบของแท้ และมีคุณภาพ หลังจากนั้นเชฟไรอันก็ตัดสินใจขยายธุรกิจร้านอาหารเพิ่มอีกอย่าง ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นที่มีเมนูอาหารครบครัน และจากก็มีการขยายธุรกิจร้านอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จึงต้องก่อตั้งบริษัทขึ้นเพื่อควบคุมคุณภาพต่างๆโดยบริษัทมีชื่อว่า บริษัท มิสเตอร์ซูชิ จำกัด และตามด้วยสโลแกนบริษัทที่ว่า “มิสเตอร์ซูชิ มอบสิ่งดี แด่…ทุกคน”
การทำธุรกิจร้านอาหารอย่างภัตตาคารนั้นก็ เริ่มเปิด ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นที่จังหวัดพิษณุโลก เป็นสาขาแรก ผลตอบรับดีมาก ปัจจุบันภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นมิสเตอร์ซูชิ เปิดให้บริการแล้วประมาณ 10 สาขา โดยเมื่อเข้าไปในร้านจะมี 3 แบบ คือ 1. ซูชิ อาหารญี่ปุ่นปะเภทของดิบ 2. ครัวร้อน อาหารประเภทปิ้ง ต้ม ย่าง ทอด 3. ชาบูชาบู แบบจิ้มลวก น้ำจิ้มชาบูนั้นก็จะมีน้ำจิ้มถึง 3 อย่างเลยทีเดียว น้ำจิ้มเปรี้ยว น้ำจิ้มฮ่องกงและน้ำจิ้มงา โดยวัตถุดิบทางร้านนั้นก็เป็นวัตถุดิบของแท้ทั้งหมด
เอกลักษณ์ที่มีความโดดเด่นของร้านนี้อยู่ตรงที่ ภายในร้านตกแต่งด้วยต้นซากุระที่กำลังบาน ให้ความรู้สึกร่มรื่น แม้จะเป็นต้นไม้ที่ประดิษฐ์ขึ้นแต่บรรยากาศภายในร้านที่เย็นสบายทำให้รู้สึกเหมือนกับเป็นต้นซากุระจริงเลยทีเดียว นอกจากโซนที่มีลักษณะเป็นสวนซากุระแล้วทางร้านยังมีห้อง VIP สำหรับจัดการประชุมหรือสังสรรค์กันแบบกลุ่มใหญ่อีกด้วย โดยสามารถรองรับได้ถึง 40 ที่นั่ง
ข้อมูลการติดต่อแฟรนไชส์
เปิดเวลา 11.00 – 21.30
ที่อยู่ 288 ถ. เฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวง หนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
โทร 02-748-9842
เว็บไซต์ www.mr-sushi.com
อีเมลล์ mr_sushi_restaurant@hotmail.com
เฟสบุ๊ค Mr.Sushi