ธุรกิจร้านอาหาร “เอส แอนด์ พี (S&P)” แตกไลน์ธุรกิจเร่งขยายสาขาร้านอาหาร

ธุรกิจร้านอาหาร “เอส แอนด์ พี (S&P)”แตกไลน์ธุรกิจ
เร่งขยายสาขาร้านอาหาร

ธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยนั้นแม้ว่าจะมีการแข่งขันที่สูงแต่ยังคงมีพื้นที่สำหรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอาหารไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกว่าเป็นอาหารที่อร่อย เมื่อใครได้ทานจะต้องชื่นชอบ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากหลายๆประเทศจะมีร้านอาหารไทยเปิดสาขาอยู่เสมอ อีกทั้งหน่วยงานหรือองค์กรของรัฐบาลก็สนับสนุนธุรกิจร้านอาหารของไทยค่อนข้างมาก เพื่อใช้เป็นจุดเด่นในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้มาทำความรู้จักกับประเทศไทยมากขึ้น

สำหรับ “บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) “ หรือ “เอส แอนด์ พี(S&P)” นั้นได้สร้างชื่อเสียงในประเทศไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2516 ในฐานะร้านเบเกอรี่ชื่อดัง ที่มีการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพในการอบขนมแต่ละชิ้น และมีจุดเด่นที่แตกต่างจากเบเกอรี่ร้านอื่นๆ โดยจุดเริ่มต้นนั้นเป็นเพียงร้านเบเกอรี่และไอศกรีมขนาดเล็กในสุขุมวิทซอย 23 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าจนสามารถขยายสาขาไปยังโมเดิร์นเทรดหรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ต่อมาได้มีการเพิ่มบริการนอกจากขนมปังและเบเกอรี่แล้วยังมีการนำเข้าไอศกรีมจากต่างประเทศ และมีสินค้าแบบอาหารสำเร็จรูปจำหน่าย จนปัจจุบันได้หันมาจับธุรกิจร้านอาหารที่มีสาขานับร้อยทั้งในไทยและต่างประเทศ

ในปี 2559 นี้ เอส แอนด์ พีจะมีการวางแผนในการเปิดสาขาหรือผลักดันโมเดลธุรกิจร้านอาหารมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสภาวะการแข่งขันในประเภทเบเกอรี่นั้นมีสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่หรือรายเล็กต่างเข้ามาแข่งขันกันในตลาดด้วยเห็นว่าเป็นกระแสที่ผู้บริโภคกำลังนิยม แต่เนื่องจากเอส แอนด์ พีนั้นได้เปิดบริการมาอย่างยาวนานและได้มีการขยายธุรกิจของตนเองออกไปในรูปแบบของธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย จึงได้มีการวางแผนที่จะส่งแบรนด์ “ภัทรา” ในการบุกตลาดอาหารไทยในยุโรป โดยเปิดเป็นสาขาที่ 7

นอกจากนี้ยังมีการขยายสาขาธุรกิจร้านอาหารในไทยมากขึ้นถึง 13 สาขา โดยจะเป็นร้านอาหารขนาดกลาง ใช้พื้นที่ประมาณ 120 ตารางเมตรขึ้นไป งบประมาณลงทุนประมาณ 5 ล้านบาทต่อสาขา โดยภายในร้านนั้นจะมีการจำหน่ายอาหารเป็นหลักที่ประมาณ 60-65% และมีการนำเบเกอรี่แบรนด์ เอส แอนด์ พี มาจำหน่ายประมาณ 30-35%

 

จุดเด่นของร้านอาหารนั้นจะอยู่ที่การนำเมนูใหม่ๆมาเสิร์ฟให้แก่ลูกค้า เช่น เมนูปลานิล ที่ยังไม่ได้นำมาใช้ในรายการอาหารของเอส แอนด์ พีมากนัก พร้อมกันนี้ยังใช้จุดเด่นในเรื่องของความคุ้มค่า คุ้มราคา เพราะแม้ว่าสินค้าหรืออาหารของเอส แอนด์ พีจะมีราคาสูงกว่าตลาดทั่วไป แต่ล้วนมาจากการคัดสรรวัตถุดิบที่ดี มีกรรมวิธีการปรุงที่พิถีพิถัน โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือ กลุ่มลูกค้าที่เดินทางมาทานอาหารกันเป็นครอบครัว

ทั้งนี้ การปรับแผนธุรกิจโดยการรุกตลาดธุรกิจร้านอาหารมากขึ้นมีผลดีทำให้ยอดการใช้จ่ายต่อบิลของลูกค้านั้นมีมูลค่าสูงกว่ายอดค่าใช้จ่ายของเบเกอรี่ และเป็นการเพิ่มยอดขายให้แก่แบรนด์ โดยเลี่ยงสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงของร้านเบเกอรี่

สำหรับการสื่อสารการตาดนั้น เอส แอนด์ พียังคงต้องมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ร้านอาหารของเอส แอนด์ พีที่เน้นเรื่องความคุ้มค่าคุ้มราคาแก่ผู้บริโภคอยู่เสมอ อีกทั้งยังเป็นการสื่อสารจุดเด่นของร้านเพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจมาใช้บริการที่เอส แอนด์ พีมากกว่าการไปใช้บริการของคู่แข่งทางธุรกิจรายอื่น

ทั้งนี้ แม้ว่าผลประกอบการในไตรมาสแรกของบริษัทยังไม่เติบโตไปตามเป้าหมายสืบเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่ยังนับว่ามีการเติบโตอยู่ ซึ่งการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจแบรนด์และมาใช้บริการมากยิ่งขึ้นได้

ข้อมูลติดต่อธุรกิจร้านอาหาร เอส แอนด์ พี
ที่ตั้ง : สำนักงานใหญ่ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) 2034/100-107
ชั้น 23-24 อาคารอิตัลไทย ทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
โทรศัพท์ : 0-2785-4000
เว็ปไซต์ : www.sandp.co.th
Facebok : S&P
E-mail : callcenter@snpfood.com

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : S&P