SMELeader : เริ่มต้นธุรกิจ, ธุรกิจ SMEs, แฟรนไชส์และอาชีพ SMELeader โอกาสทางธุรกิจ SMEs เริ่มต้นธุรกิจ แฟรนไชส์และอาชีพ
ธุรกิจร้านอาหาร จานเดียว ZeeZ โดยพิธีกรชื่อดัง “ ปุ๊ย ตีสิบ “
ปัจจุบันนี้ ดารา พิธีกร นักแสดงต่างหันมาลงทุนทำธุรกิจของตัวเองกันมากขึ้น เพราะการลงทุนทำนั้นค่อนข้างจะได้เปรียบอย่างมากเพราะคนนั้นรู้จักเยอะหากจะลงทุนทำอะไรก็น่าจะสำเร็จได้ไม่ยาก อย่างพิธีกรชื่อดังคุณ “ ปุ๊ย ตีสิบ” ที่ปัจจุบันนั้นหันมาทำธุรกิจร้านอาหารเป็นของตนเองโดยร่วมหุ้นกับเพื่อนอีก 2 คน โดยได้ใช้ชื่อร้านนี้ว่า ZEEZ เมนูในร้านนั้นก็มีเมนูต่างๆให้เลือกมากมายและเมนูที่ได้รับความนิยมซึ่งหากใครไปแล้วไม่กินถือว่ามาไม่ถึงเลยทีเดียว เมนูนั้นก็คือ ข้าวหมูแดงและข้าวหมูกรอบ ซึ่งร้านนี้จะไม่เหมือนใครเลย
เจ้าของธุรกิจร้านอาหารนี้คือ “ คุณคืนสิทธิ์ สุวรรณวัฒกี หรือในนามพิธีกรชื่อดัง “ปุ๊ย ตีสิบ” จากการที่คุณปุ๊ยได้ลองชิมอาหารฝีมือเพื่อนสนิทอย่างคุณ ธนกฤต สิงหะอังกูร หรือคุณ โจ นั้นอยู่บ่อยครั้งจึงบอกให้ คุณปุ๊ยจึงได้บอกคุณธนกฤตให้ไปเปิดร้านอาหารดู เพราะคุณธนกฤตนั้นเคยเป็นเชฟทำงานเมืองนอกมาก่อนแต่ปัจจุบันได้กลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว หลังจากนั้นคุณปุ๊ยจึงตัดสินใจชวนคุณธนกฤตทำธุรกิจร้านอาหารร่วมกัน โดยตอนแรกนั้นจะเป็นการขายขายสเต็ก แบบบุฟเฟ่ต์ เน้นเนื้อหมู-วัว คุณภาพเกรดเอ ราดด้วยน้ำเกรวี่ที่สั่งตรงมาจากต่างประเทศ แต่เมื่อขายไปมาเนื้อสัตว์นั้นปรับตัวขึ้นสูงมากจึงต้องเลิกทำธุรกิจร้านอาหารนี้ไป
ต่อจากนั้นจึงเริ่มทำธุรกิจร้านอาหารใหม่ที่เมนูง่ายๆคนทานได้ทุกเพศทุกวัย สุดท้ายจึงได้เมนูอย่าง ข้าวหมูแดงหมูกรอบและบะหมี่เกี๊ยว ด้วยการทำธุรกิจร้านอาหารใหม่นั้นคุณปุ๊ยก็ได้ใช้การโปรโมทร้านด้วยตัวเองเพราะมีคนรู้จักอยู่แล้วและในส่วนของการปรุงอาหารและคิดเมนูนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของคุณโจ ส่วนการตกแต่งร้านนั้นก็ได้มี “ คุณนิตินาท สุขสุมิตร หรือคุณแจ็ค “ เป็นคนออกแบบตกแต่งร้านโดยร้านนั้นก็จะเป็นร้านรูปแบบโมเดิร์น ส่วนชื่อร้านนั้นทั้งสามก็ช่วยกันคิดและมาหยุดอยู่ร้านที่ชื่อว่า ZEEZ หรือ ซี๊ด ซึ่งชื่อนั้นง่ายๆลูกค้าน่าจะจำได้ไม่ยาก ซึ่งร้านนั้นจะตั้งอยู่ที่ บริเวณซอยรามคำแหง 150 โดยร้านนั้นถึงแม้จะเป็นพิธีกรชื่อดังทำร้านเองแต่รสชาตินั้นก็อร่อยไม่แพ้ชื่อเสียงเลยทีเดียว วัตถุดิบทางร้านนั้นก็ได้เลือกใช้วัตถุดิบดีมาก ซึ่งหากใครได้เข้าไปชิมแล้วรับรองเลยว่า เหมือนไปนั่งกินในภัตตาคารเลยทีเดียว
สูตรเด็ดของทางร้านจะอยู่ที่หมูกรอบนั้นจะย่างอย่างกรอบ รสชาติหมูกรอบย่างนั้นอร่อยกว่าการทอดแน่นอน ส่วนหมูแดงก็มีการไปย่างเช่นกัน ส่วนน้ำหมูแดงนั้นจะใช้กระดูกหมูนั้นมาเคี่ยวเป็นน้ำซุปกว่า 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งจะหาทานแบบนี้ได้ยากมากเลยทีเดียวเพราะวิธีนี้จะใช้เวลานาน สำหรับการทำในทุกขั้นตอนนั้นคุณโจจะตั้งใจทำอย่างที่ทำในโรงแรมเลย เครื่องเทศเครื่องแกงต่างๆก็จะมีการทำเองเกือบทั้งหมดเพราะจะได้คุณภาพที่ดีและเพื่อจะได้ถูกใจลูกค้า ราคาที่ขายนั้นก็จะเริ่มตั้งแต่ 40 บาทเท่านั้น ซึ่งการใช้วัตถุดิบอย่างนี้ก็ไม่ได้แพงจนเกินไปเลย นอกจากข้าวหมูแดงหมูกรอบและก๋วยเตี๋ยวแล้วทางร้านยังมีเมนูอื่นๆอีกมากมาย อาธิเช่น ส้มตำ ขนมจีนน้ำเงี้ยว เป็นต้น ในเรื่องของผลตอบรับการทำธุรกิจร้านอาหารนี้ก็ถือว่าไปได้ด้วยดีมาก เพราะยอดขายต่อเดือนนั้นค่อนข้างที่พอใจ ที่ธุรกิจร้านนี้เติบโตได้ดีนั้นก็มาจากการที่ใส่ใจในเรื่องของวัตถุดิบและรสชาติเป็นที่สำคัญ
ข้อมูลการติดต่อธุรกิจ
สนใจติดต่อ 08-9029-6998
เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น