ธุรกิจอาหาร “กล่องทิพย์” อาหารไทยชาววัง ตอบโจทย์คนรักอาหารไทย
อาหารไทยเป็นอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างจากชาติอื่นด้วยรสชาติที่เข้มข้น เผ็ด จัดจ้าน กลิ่นที่หอมเครื่องเทศ หรือขนมไทยที่มีกลิ่นหอม ตามแบบฉบับของอาหารไทย แต่ด้วยสังคมปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้อาหารไทยแบบดั้งเดิมหรืออาหารไทยแบบชาววังนั้นหารับประทานได้ยากขึ้น จะมีเพียงร้านอาหารใหญ่ๆเท่านั้นหรือต้อสั่งทำเท่านั้นถึงจะได้รับประทาน
แต่ “คุณฐนิวรณ์รณ กุลมงคล” ได้เห็นโอกาสถึงการประยุกต์ธุรกิจอาหารไทยขึ้นมา จึงเกิดไอเดียที่บรรเจิดคิดค้น ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อว่า “กล่องทิพย์” ที่เป็นอาหารไทยต้นตำรับสูตรโบราณ ที่ตกแต่งหน้าตาที่สวยงามพร้อมกับประดับด้วยผักผลไม้แกะสลักอย่างประณีตงดงาม และได้ประยุกต์ให้ทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบันมากขึ้นด้วยการนำอาหารสูตรชาววังใส่เข้าไปในกล่องข้าวสไตล์ญี่ปุ่น เป็นการผสมผสานทั้ง2อย่างเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน
การคิดไอเดียบรรเจิดนี้ คุณฐนิวรณ์รณ กุลมงคล เจ้าของธุรกิจอาหารแบรนด์ “กล่องทิพย์” ได้เล่าว่า ตนเองได้เห็นว่าช่องว่างในตลาดที่ยังไม่มีผู้เห็นบริการอาหารไทยแท้ๆสุดอลังการและอยากเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับอาหารไทยที่บริการแบบสากล ซึ่งเธอเคยเห็นในงานเลี้ยงของหน่วยงานข้าราชการไทย ที่แท้จริงแล้วต้องสั่งอาหารกล่องมาเลี้ยงผู้ร่วมงานกลับสั่งเป็นการสั่งอาหารญี่ปุ่นกล่องมาแทน ทำให้เธอได้ตั้งคำถามกับผู้จัดงานว่าทำไมไม่สั่งอาหารไทย ทั้งๆที่เป็นงานของข้าราชการไทย
คำตอบที่เธอได้มาก็คือ ผู้จักซื้อไม่สามารถหาข้าวกล่องแบบไทยแบบกล่องที่มีรูปร่างที่ดูดีได้เลยจริงๆ ส่วนใหญ่เมนูในอาหารไทยก็จะมีข้าวผัดกระเพรา หรืออาหารตามสั่งเหมือนร้านค้าทั่วไป ซึ่งไม่เหมาะสมกับการเสิร์ฟอาหารให้ผู้บริหารระดับสูงๆได้รับประทาน ด้วยเหตุนี้เองก็เป็นการจุดประกายไอเดียธุรกิจอาหารไทยโบราณของคุณฐนิวรณ์รณ ขึ้นมาพร้อมกับการต่อยอดธุรกิจนี้สำหรับการจัดเลี้ยงหรือส่งตรงถึงบ้าน
เพื่อขยายธุรกิจอาหารไทยแบบกล่องให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น คุณฐนิวรณ์รณได้ริเริ่มการทำอาหารไทยแบบชาววังแท้ๆ หาทานได้ยาก และที่น่าสนใจก็คือเธอนำแนวคิดกล่องข้าวแบบญี่ปุ่นหรือ “เบนโตะ” มาปรับใช้ ทำให้สะดวกและง่ายต่อการกิน และมีการแกะสลัดผลไม้ประดับตกแต่งพร้อมให้บนกระดาษคลุมกล่องจะมี ‘บทกลอน’ ที่แต่งคุณฐนิวรณ์รณได้แต่ขึ้นเองเพื่อเชิดชูอาหารไทย ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าอาหารไทย สามารถนำไปเสิร์ฟให้กับแขกระดับสูงได้ ช่วยในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่เจ้าของงานเลี้ยงหรือหน่วยงานที่จัดเลี้ยง
ธุรกิจอาหารไทยแบรนด์ “กล่องทิพย์” ออกสู่ตลาดเมื่อประมาณต้นปี พ.ศ.2559 ที่ผ่านมา มีอาหารชุดละประมาณ20-30รายการ มีทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน ซึ่งมีรายการแนะนำ ได้แก่ ชุดข้าวผัดน้ำพริกนครบาล ชุดข้าวผัดสองปลา ผัดไทยโบราณห่อไข่ เป็นต้น ราคาข้าวกล่องอยู่ที่ประมาณ 150-200บาท กลุ่มลุกค้าหลักจะบริการสำหรับจัดจานเลี้ยงในหน่วยงานราชการต่างๆรวมถึงมีการสั่งทางออนไลน์ส่งตรงถึงบ้าน ปัจจุบันมียอดการสั่งซื้อประมาณเดือนละ2000-3000ชุดกันเลยทีเดียว อีกทั้งการผลิตนั้นสามารถผลิตได้ถึง 12000 ชุดต่อเดือน
นอกจากประสบการณ์ในธุรกิจของอาหารแล้วนั้น คุณฐนิวรณ์รณยังดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมภัตตาคารแห่งประเทศไทยที่มีสมาชิกประกอบธุรกิจกว่า 30000 ราย เธอได้แนะนำแนวทางการทำธุรกิจอาหารให้ดำรงอยู่รอด หรือประสบความสำเร็จได้ในยุคปัจจุบัน ควรเลิกทำระบบเจ้าของดูแลธุรกิจทุกขั้นตอนการผลิต และให้ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาดูแลระบบค่าใช้จ่าย ต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ไม่ย่ำอยู่กับที่ และสามารถนำเปลี่ยนแปลงอาหารให้เป็นไปตามการเปลี่ยนของยุคสมัยและความต้องการของผู้บริโภค
ข้อมูลติดต่อ ธุรกิจอาหาร “กล่องทิพย์”
เบอร์โทรศัพท์ : 091-119-8875,080-599-4344,081-936-5829
Facebook : klongthipthai
เว็บไซต์ : www.klongthip.com
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : กล่องทิพย์