ธุรกิจเครื่องสำอาง นำเข้าจากญี่ปุ่น “Jill Mika” สร้างแบรนด์ดังโดนใจสาวไทย
ตลาดความสวยความงามยังคงมีกระแสแรงในประเทศอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากมีธุรกิจเครื่องสำอางหน้าใหม่ตบเท้าก้าวเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก แต่มีน้อยรายเท่านั้นที่สามารถปรับเปลี่ยนและวางกลยุทธ์ให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าได้จึงทำให้ประสบความสำเร็จอย่างมาก เช่นเดียวกับแบรนด์ “Jill Mika” เคาน์เตอร์เครื่องสำอางนำเข้าจากญี่ปุ่นที่สร้างรายได้ได้กว่า 80 ล้านบาทต่อปี
ผู้ขับเคลื่อนแบรนด์ Jill Mika คือหญิงสาวคนหนึ่งที่มีความสนใจในด้านความสวยความงามอย่างมาก โดยเฉพาะด้านเครื่องสำอาง คือ “คุณฟ้า-จิลมิกา เฉลิมสุข” ที่เรียกได้ว่าความสำเร็จขั้นแรกที่เธอสามารถสร้างได้ในวันนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากความชอบส่วนตัว หากได้ยินชื่อเสียงของเครื่องสำอางชนิดไหนที่ต่างบอกต่อกันมาว่าดีเธอจะหาผลิตภัณฑ์นั้นมาลองใช้ทุกตัว จนเกิดความชำนาญ และได้โอกาสได้ลองที่ปัดขนตาของ “Fairy drops” ซึ่งเป็นสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่สามารถหาซื้อได้ในประเทศไทย เธอถูกใจในคุณภาพของสินค้ามากและยังมองเห็นโอกาสในการเป็นผู้ขำเข้าในประเทศไทยรายแรก
แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นเธอยังเป็นหญิงสาวกลางยี่สิบที่ไม่มีความรู้และประสบการณ์ด้านการทำธุรกิจแม้แต่น้อย จึงต้องเริ่มศึกษาเองทุกอย่าง โดยเฉพาะการผ่านพิธีศุลกากรที่มีความสำคัญอย่างมาก อีกทั้งยังต้องเขียนแผนธุรกิจที่ชัดเจนเพื่อนำไปเสนอให้แก่บริษัทเจ้าของแบรนด์ในการนำเข้าที่ปัดขนตานี้ และแน่นอนว่าไม่ได้มีเฉพาะเธอเท่านั้นที่สนใจธุรกิจเครื่องสำอางนำเข้านี้ แต่ยังมีบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินกิจการมาก่อนเธอและมีประสบการณ์มากกว่า เธอจึงใช้ความชื่นชอบในการแต่งหน้าและความชำนาญด้านเครื่องสำอางในการนำเสนอให้แก่เจ้าของแบรนด์ จนในที่สุดเธอก็ได้สิทธิ์นำเข้าที่ปัดขนตา Fairy drops แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพราะนอกจากความตั้งใจจริงของเธอที่ทำให้ประสบความสำเร็จแล้ว อีกสองบริษัทที่แข่งขันกันนั้นยังเน้นแต่ด้านธุรกิจอย่างเดียว ไม่มีความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ได้มากเท่า
แน่นอนว่าสำหรับนักธุรกิจหน้าใหม่ในช่วงแรกนั้นย่อมต้องเกิดปัญหา ครั้งแรกที่สินค้ามาถึงประเทศและต้องผ่านด่านศุลกากรนั้น ด้วยความที่เธอยังไม่มีความรู้ ความชำนาญ ทำให้ไม่ทราบว่าสินค้าทั้งหมดต้องเสียภาษี 2 ล้านบาททันทีที่ด่าน ซึ่งเธอไม่ได้สำรองไว้ จนทำให้กระทบการเงินส่วนอื่นๆ นับเป็นอุทาหรณ์ที่ดีสำหรับนักธุรกิจใหม่ไม่ว่าจะเป็นกิจการประเภทใดก็ตามที่ต้องมีการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น และเมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้วต้องมีสติในการแก้ไขก็จะสามารถผ่านพ้นไปได้
การตลาดของ Jill Mika เองก็นับเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจนำเครื่องสำอางนำเข้าจากญี่ปุ่นรายนี้ประสบความสำเร็จ โดยการส่งสินค้าให้แก่บิวตี้ บล็อกเกอร์ (Beauty Blogger) รีวิวสินค้า โดนสินค้าทุกตัวที่ส่งไปรีวิวนั้นล้วนมาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่เธอเคยใช้มาแล้วทั้งสิ้น ดังนั้น ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางของแบรนด์จึงมีแต่เครื่องสำอางที่มีคุณภาพ แสดงถึงความซื่อสัตย์ละความรับผิดชอบที่เธอมีต่อผู้บริโภคได้อย่างดี
แม้ในตอนแรก ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าของเธอจะมีแค่ Tops supermarket เพียง 10 สาขา โดยที่เธอเป็นคนแพ็คสินค้าและเดินทางไปส่งเอง แต่ด้วยชื่อเสียงและการบอกต่อของลูกค้าที่ประทับใจทำให้ยอดขายสินค้าพุ่งสูงขึ้นจนกลายเป็นสินค้าขาดตลาดในเวลาไม่นาน หลังจากนั้นก็ได้มีการนำเข้าเรื่องสำอางประเภทอื่นตามมา และได้มีการเข้าเป็นหุ้นส่วนกับแบรนด์ “ฟราโครา(Fracora)” เพื่อเป็นผู้จำหน่ายเพียงรายเดียวในไทย จนปัจจุบันเรียกได้ว่า Jill Mika ได้กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจเครื่องสำอางนำเข้าจากญี่ปุ่นรายใหญ่ของไทย ทั้งแบรนด์ Bonavance, Avance, Usako, White Ichigo และ LB สามารถสร้างรายได้ได้กว่า 80 ล้านบาทต่อปี และคาดว่าในปี 2559 จะสามารถเพิ่มยอดขายได้ถึง 2 เท่าอีกด้วย
ข้อมูลติดต่อ ธุรกิจเครื่องสำอาง Jill Mika
เว็ปไซต์ : www.jillmika.net
Faceook : Jill Mika
ID Line: @jillmika
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล : ผู้จัดการออนไลน์