ธุรกิจเครื่องสําอาง แบรนด์ไทยขายไปทั่วโลก“IREAL”

ธุรกิจเครื่องสําอาง สมัยนี้ถือว่าในท้องตลาดนั้นมีการแข่งขันกันสูงมาก เพราะเนื่องจากจำนวนของเครื่องสำอางนั้น มีมากมายหลากยี่ห้อทั้งในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ การจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเครื่องสำอางนั้นจำเป็นจะต้องมีความอดทน เข้าใจตลาดและความต้องการของลูกค้าอย่างดีเยี่ยม ยิ่งถ้าพูดถึงเครื่องสำอางที่ส่งออกไปขายในต่างประเทศนั้น ในประเทศไทยนับว่ายังมีน้อยมาก

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนไทยที่สามารถสร้างแบรนด์และส่งออกเครื่องสำอางไปขายในต่างประเทศได้คะ หนึ่งในผู้ที่ประสบความความสำเร็จในการทำธุรกิจเครื่องสำอางและสามารถส่งออกไปขายยังทั่วโลกได้ และสร้างรายได้กว่า 100 ล้าน ด้วยวัยเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น นั่นคือ คุ “พัชรพล สุทธิธรรม” เจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางแบรนด์ “IREAL”

เริ่มต้นธุรกิจด้วยวัยเพียง 18 ปีจากที่เคยเกเร ไม่สนใจการเรียน สอบได้รองบ๊วย โดนคุณพ่อบังคับให้ไปศึกษาธรรมที่วัดปากน้ำภาษีเจริญกับหลวงปู่สด จากการฟังเทศน์ รวมถึงการปฏิบัติธรรมทุกวัน จนทำให้เกิดความคิดเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เลิกติดเกม เลิกทำตัวเกเร หันมาตั้งใจเรียนหนังสือ ต่อมาเกรดก็ขึ้นมาเป็น 3.75 ในช่วง ม.4 เพราะเรามีสมาธิในการเรียน จนเรียนจบปริญญาตรีสาขานิติศาสตร์ตอนอายุ 19 และจบปริญญาโทสาขา MBA ตอนอายุ 20 ปีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง

คุณ “พัชรพล สุทธิธรรม” เริ่มต้นทำทุกอย่างด้วยตนเองทั้งหมด ตั้งแต่ ตั้งชื่อแบรนด์ “IREAL” ที่สื่อถึงความสวยงาม ในแบบที่ฝันถึงจะกลายมาเป็นจริงได้ รวมทั้งออกแบบโลโก้รูปต้นไม้เอง เพราะตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะเลือกใช้แต่วัตถุดิบจากธรรมชาติชั้นดี

เนื่องจากเป้าหมายหลัก อยู่ที่การทำตลาดส่งออกที่มีกำลังซื้อสูง ต่อมาเลยเริ่มหาโรงงานผลิตซึ่งโชคดีที่มีคุณน้าเปิดโรงงานผลิตเครื่องสำอางอยู่ และยังมีความชำนาญในเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบจากทั่วโลก เพราะเคยทำงานอยู่ในแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังของญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้เภสัชกร คุณธีรวุฒิ เศรษฐไพศาล อดีตนายกสมาคมเภสัชกรรมชุมชน มาเป็นที่ปรึกษาผลิตภัณฑ์ธรรมชาติให้ จึงช่วยให้เครื่องสำอางของเรามีคุณภาพอย่างที่ตั้งใจไว้

วัตถุดิบหลักที่ใช้ คือ เห็ดยามาบูชิตาเกะ จากญี่ปุ่น ซึ่งได้การรับรองทางการแพทย์แล้วว่ามีโปรตีน Glucoxylan สูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้จริง ซึ่งเห็ดสด 100 กิโลกรัมเมื่อนำมาสกัดแล้วจะได้ปริมาณเพียงแค่ 1 ลิตรเท่านั้น โดยเลือกทำในรูปแบบของสบู่ล้างหน้า แล้วลองใช้เองก่อน ปรากฏว่าหน้าขาวใสและสิวหายหมด เพราะมีส่วนผสมของขมิ้นชันจากภาคใต้ที่ให้สารคูเคอร์มิน ช่วยลดการอักเสบ มากกว่าขมิ้นชันจากภาคอื่นถึง 10 เท่า

จุดเริ่มต้นการค้าส่งออก ซึ่งในตอนนั้นเป็นช่วงที่ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่าง กำลังเปิดรับสมัครผู้ประกอบการไทย 15 บริษัท ที่ภาครัฐจะผลักดันให้แจ้งเกิดในตลาดโลก เราก็เลยส่งสินค้าให้ทางคณะกรรมการตรวจสอบ และก็ผ่านการคัดเลือก เนื่องจากกำลังการผลิตที่ไม่เพียงพอ จึงเข้าไปปรึกษาทางกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อขยายโรงงานของน้าออกไป และปรับปรุงให้ได้รับมาตรฐาน GMP รองรับการส่งออก ซึ่งในตอนนั้นได้ควบรวมกิจการกันแล้ว

ส่วนเรื่องการทำตลาดนั้น ได้บินไปออกบูทร่วมกับทางกรมฯ โดยเริ่มต้นจากในประเทศอาเซียน เนื่องจากใช้ภาษาอังกฤษไม่เก่งเลยใช้วิธีแจกสบู่ให้คู่ค้าแทน แต่กลับได้รับผลตอบรับที่ดีมาก เราส่งออกไปแล้วหลายประเทศนอกเหนือจากอาเซียน ทั้งในเยอรมนี, ฝรั่งเศส, อเมริกา, รัสเซีย, ดูไบ โดยเฉพาะในญี่ปุ่น ที่กลายมาเป็นคู่ค้าหลักไปแล้วในปัจจุบัน

จนปัจจุบันนี้สามารถขยายธุรกิจออกไปเป็น 3 ไลน์
1 การรับจ้างผลิตภายใต้แบรนด์ลูกค้า หรือ OEM
2 การรับจ้างผลิตและสร้างแบรนด์ให้ลูกค้า หรือ ODM ซึ่งปัจจุบันนี้มีโปรดักต์ที่รับจ้างผลิตมากกว่า 1,000 ชิ้นทั่วโลก
3 การผลิตภายใต้แบรนด์ของตัวเอง หรือ OBM ซึ่งในปัจจุบันนี้มีทั้งสิ้น 3 แบรนด์ ได้แก่ IREAL เน้นการใช้วัตถุดิบชั้นดี, De’Maire เน้นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ และ Point ที่ย่อมาจาก Expert Point เน้นการดูแลผิวเฉพาะจุด”

สำหรับแบรนด์ IREAL และ De’Maire นั้น สร้างยอดขายมาแล้วทั่วโลกกว่า 100 ล้านบาทภายในปี 2555 และอยู่ในช่วงเปิดรับตัวแทนจำหน่ายภายในประเทศ เพราะอยากให้คนไทยได้มีโอกาสใช้สินค้าคุณภาพจากคนไทยดูบ้าง

ส่วนแบรนด์ POINT นั้นถูกวางตำแหน่งให้วางขายในประเทศไทยเป็นหลัก จะมีราคาไม่สูงมากนักเพื่อจับตลาดแมส ซึ่งจะมีวางจำหน่ายภายในร้าน 7-11 และโมเดิร์นเทรดทั้งหมด ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

ล่าสุดได้สร้างโรงงานแห่งใหม่บนพื้นที่ 12 ไร่ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงกลางปี 2557 ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญอีกก้าวหนึ่ง