ป้อมข้าวพันผัก ยกระดับอาหารพื้นบ้าน สู่ธุรกิจแฟรนไชส์ดาวรุ่ง

ป้อมข้าวพันผัก ยกระดับอาหารพื้นบ้าน สู่ธุรกิจแฟรนไชส์ดาวรุ่ง

จากอาหารพื้นบ้านของดีประจำเมืองลับแล สู่ธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยม สานต่อความสำเร็จด้วยระบบแฟรนไชส์ที่ได้มาตรฐาน ป้อมข้าวพันผัก เมนูใหม่ไร้ไขมันมาพร้อมรสชาติที่แสนอร่อย ซึ่งเกิดจากการคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันและสูตรของน้ำจิ้มที่พัฒนาจนลงตัว การันตีด้วยยอดขายหนึ่งหมื่นต่อวันในงานโอทอป บทพิสูจน์ความอร่อยที่มาพร้อมสุขภาพ

ป้อมข้าวพันผัก มีจุดเริ่มต้นมาจาก คุณแม่ของคุณชัชวาล วิชัยรัตน์ เจ้าของแฟรนไชส์ ป้อมข้าวพันผัก ที่ทำข้าวพันผักขายบริเวณหน้าบ้านซึ่งติดกับรั้วโรงเรียนเทศบาลศรีพนมมาศในอำเภอลับแลเมื่อเกือบยี่สิบกว่าปีที่แล้ว โดยในแต่ละวันจะมีเด็กๆ ปีนรั้วโรงเรียนมาซื้อทานประจำ จนกระทั่งคุณครูประกาศออกลำโพงห้ามนักเรียนซื้อของนอกโรงเรียน แต่ก็ห้ามเด็กในโรงเรียนไม่ได้จนในที่สุดคุณครูก็ให้มาเปิดร้านในโรงเรียน หลังจากนั้นได้ขยับขยายมาขายในโรงเรียนต่างๆ มากขึ้น โดยในตอนกลางวันจะผลิตแล้วส่งให้กับร้านค้าของทางโรงเรียน ส่วนตอนเย็นจะไปขายหน้าโรงเรียน ซึ่งผลตอบรับถือว่าเกินคาด จนกระทั่งปี 2546 ซึ่งเป็นปีแรกของการจัดงานโอทอป ซิตี้ ป้อมข้าวพันผักได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของจังหวัด มาออกบูธที่เมืองทองธานี ซึ่งสมัยนั้นจัดที่ลานจอดรถประมาณ 10 วัน หลังจบงานมียอดขายแสนกว่าบาท ซึ่งเป็นการการันตีความนิยม ในที่สุดสามารถเปิดร้านแบบสแตนอโลนได้เมื่อปี 2548 เพื่อรองรับกระแสตอบรับที่เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันมี 5 สาขา

ป้อมข้าวพันผัก มาพร้อมความแปลกใหม่ที่พ่วงกระแสสุขภาพ แม้ว่าจะเป็นอาหารดั้งเดิมที่มีมานานของอำเภอลับแล แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในภาคอื่น จึงถือเป็นเมนูแปลกใหม่ ที่สำคัญยังตอบโจทย์เรื่องของสุขภาพ ตั้งแต่กรรมวิธีการทำที่ไม่ใช้น้ำมันในการปรุง ไปจนถึงวัตถุดิบที่เลือกใช้ผักสดเป็นส่วนผสม ที่สำคัญมีรสชาติที่อร่อย จนกลายเป็นร้านดังประจำจังหวัด

“ข้าวพันผัก มีความพิเศษอยู่ที่กรรมวิธีการปรุง ที่เราจะใช้แป้งหมัก เกิดจากการนำข้าวสารมาแช่น้ำ 2-3 วันเมื่อข้าวสารเริ่มยุ่ยนำไปโม่ให้เป็นแป้งแล้วหมักล้างแป้งอีก 2 – 3 วัน  เมื่อนำมาปรุงจะใช้แป้งหมักมาวนบนปากหม้อให้เป็นแผ่นคล้ายๆ ข้าวเกรียบปากหม้อ อบให้สุก ทาไข่ลงไป 1 ชั้น จากนั้นใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงไป เช่น กระหล่ำปลี ฟักทอง แครอท ผักบุ้ง คะน้า หมูสับผัดสุกโดยไม่ใช้น้ำมัน แล้วห่อ ก่อนจะตักใส่จาน โดยความอร่อยจะอยู่ที่น้ำจิ้มที่ทานคู่กัน รสต้นตำรับทานคู่กับซอสพริกและซอสถั่วเหลือ ส่วนรสสุกี้จะราดด้วยซอสสุกี้สูตรเฉพาะของทางร้าน นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นที่ได้รับความนิยมอย่างไข่ม้วนและหมู่ตุ๋น เป็นทางเลือกให้กับลูกค้า”

ด้วยส่วนประกอบหลักที่เน้นผักสดผ่านกรรมวิธีที่ไม่ใช้น้ำมันในการปรุง กลายเป็นเมนูแคลอรี่ต่ำ อยู่ประมาณ 40-50 แคลอรี่ต่อจาน คาร์โบไฮเดรตไม่เกิน 60 มิลิกรัม จึงเหมาะกับผู้ที่ดูแลสุขภาพ ทำให้ร้านป้อมข้าวพันผัก ได้รับความนิยมอย่างสูง จากลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำ ในที่สุดได้รับการติดต่อขอซื้อสูตรและแฟรนไชส์เป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของการเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์

สำหรับผู้ที่สนใจต้องการเปิดร้านป้อมข้าวพันผัก เริ่มต้น 85,000 สำหรับห้องแถวสแตนอโลนได้รับอุปกรณ์ครบชุดพร้อมเปิดร้าน ตั้งแค่คีออสก์ถอดประกอบได้ อุปกรณ์การทำอาหาร ถ้วย จาน ชาม ช้อน แก้วน้ำ ฯลฯ ยกเว้นโต๊ะเก้าอี้แฟรนไชส์ซีหาซื้อในท้องถิ่นเพื่อประหยัดค่าขนส่ง โดยจะส่งรูปแบบไปให้ รวมถึงให้คำแนะนำการตกแต่งร้าน และการใช้ชื่อแบรนด์ ตลอดจนการทำตลาดอย่างต่อเนื่องในโซเชียลมีเดีย

“ก่อนเริ่มธุรกิจเราจะมีการเทรนด์ที่สาขาใหญ่ 2 วันหลังจากนั้นจะส่งทีมงานไปเซ็ตระบบร้านให้อีก 1 สัปดาห์ จนกว่าจะเปิดร้านได้สำเร็จ โดยการอบรมนอกเหนือจากกรรมวิธีการปรุงข้าวพันผักแล้ว ยังอบรมในเรื่องของการบริหารจัดการร้าน การบริการของพนักงาน รวมถึงการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ ที่สำคัญเรามีการตรวจสอบเป็นระยะ โดยมีทีมเข้าไปสุ่มตรวจสอบเพื่อรักษามาตรฐานของร้าน”

รายได้ที่จะได้รับขึ้นอยู่กับทำเลและชั่วโมงการขาย โดยต้นทุนหลักแบ่งเป็น แป้งหมัก (กึ่งสำเร็จรูป แช่น้ำ 1 คืน ใช้ได้ทันที) น้ำจิ้มต่างๆ หัวเชื้อน้ำซุป(สำหรับซุปกระดูกหมู) ซึ่งต้องซื้อจากสาขาใหญ่เท่านั้นเพื่อรักษามาตรฐานความอร่อย ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ สามารถหาซื้อได้ในพื้นที่ เพราะจะได้ความสดกว่า โดยมีต้นทุนอยู่ที่ 10-15 บาท ต่อจาน ราคาขายอยู่ที่ 35 – 40 บาทขึ้นไป

ข้อมูลติดต่อธุรกิจแฟรนไชส์ป้อมข้าวพันผัก
ที่อยู่ : 141/9 ถ.ศรีอุตรานอก อ.ทาอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
โทรศัพท์ : 091-850-1943
FB : ป้อมข้าวพันผัก
IG : @pomkaowpanpak
LINE : chatkung_15
EMAIL : pomkaowpanpak@gmail.com

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : ป้อมข้าวพันผัก