ธุรกิจแฟรนไชส์ หมี่ยำ “ครัวบ้านนอก” โตเหลือเชื่อ ขยาย 70 สาขาใน 1 ปี

ธุรกิจแฟรนไชส์ ในส่วนของอาหารยังคงเป็นช่องทางการสร้างรายได้สำหรับผู้ที่สนใจหรืออยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ส่วนธุรกิจแฟรนไชส์ก็เป็นธุรกิจที่มีต้นแบบสำเร็จรูป เอื้ออำนวยให้ผู้ร่วมลงทุนสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายกว่าการสร้างธุรกิจขึ้นด้วยตนเอง วันนี้เราก็มีอีกหนึ่งธุรกิจแฟรนไชส์มาฝากอีกเช่นเคย สำหรับผู้ที่กำลังมองหาช่องทางในการลงทุน โดยวันนี้เป็นเมนูพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ และสามารถทำกำไรได้อย่างเหมาะสม

ธุรกิจแฟรนไชส์ ครั้งนี้มีความพิเศษที่กำลังขยายหรืออัตราการเจริญเติบโตรวดเร็ว เพราะภายในหนึ่งปีสามารถขยายสาขาได้ถึง 70 สาขาด้วยกัน ที่สำคัญธุรกิจแฟรนไชส์นี้ยังเริ่มต้นมาจากต้นทุนที่ติดลบของเข้าของแฟรนไชส์ เนื่องจากเป็นหนี้พนัน แต่สามารถปลดหนี้นั้นได้ด้วยธุรกิจแฟรนไชส์ชิ้นนี้ ขายเมนูอาหารที่เรียกว่า “หมี่ยำ” เป็นเมนูพื้นบ้านที่ชาวล้านนาคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ปัจจุบันเมนูนี้ก็ได้กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศไปแล้ว

หมี่ยำที่ดำเนินอยู่ภายใต้ธุรกิจแฟรนไชส์ที่เรานำมาเสนอในครั้งนี้มีชื่อแบรนด์ว่า “ครัวบ้านนอก” ก่อตั้งโดย “คุณภาณุกร ศิริเทพ” ชายหนุ่มผู้ที่เคยประสบปัญหาชีวิตครั้งใหญ่และสามารถพลิกผันชีวิตตัวเองจนกลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัว ก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานประจำหลังเรียนจบ แต่ช่วงหนึ่งของชีวิตเกิดพลาดพลั้งเอาตัวไปพัวพันกับการพนันจนกลายเป็นหนี้สิน ครั้งนั้นทำให้เขาตัดสินใจลาออกและกลับบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงราย อำเภอเชียงของ เพราะคิดว่าถ้าหากยังทำงานประจำอยู่คงไม่มีทางที่จะหาเงินใช้หนี้สำเร็จ จึงคิดที่จะกลับบ้านไปหาอะไรทำเป็นของตัวเอง กระทั่งมาจุดประกายที่หมี่ยำ ซึ่งเป็นอาหารที่คนในครอบครัวทำขายหน้าบ้านมากว่า 60 ปี

คุณภาณุกรตัดสินใจหยิบเอาหมี่ยำอาชีพของครอบครัวมาต่อยอด เพราะคิดว่าเป็นอาชีพที่ทำอยู่แล้วภายในบ้าน อุปกรณ์การทำก็มีพร้อม ลงทุนแค่วัตถุดิบไม่มากนัก ก็สามารถเปิดร้านขายได้ จึงตัดสินใจซื้อวัตถุดิบมาทำหมี่ยำกว่า 2,000 บาท เอาไปขายที่ตลาดนัดใกล้บ้าน และสามารถขายได้จนหมดมีรายได้กว่า 4,000 บาท จึงยึดเป็นอาชีพหลักในที่สุด เวลามีงานอีเวนต์หรือตลาดนัดแถวบ้าน คุณภาณุกรก็จะนำเอาหมี่ยำไปขายตลอด กระทั่งเมนูดังกล่าวได้กลายเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนกว้างขึ้นเรื่อยๆ และมีผู้สนใจรายหนึ่งมาติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ แต่ตอนนั้นคุณภาณุกรยังไม่มีความรู้เรื่องแฟรนไชส์จึงปฏิเสธไป

หลังจากนั้นผู้สนใจรายเดิมยังคงวนเวียนกลับมาเรื่อยๆ เพื่อติดต่อกับคุณภาณุกรเรื่องแฟรนไชส์อย่างไม่ลดละ ทำให้คุณภาณุกรตัดสินใจไปศึกษาเรื่องแฟรนไชส์อย่างจริงจัง และเปลี่ยนใจขายให้ในที่สุด หลังจากมองว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร และตรงนั้นก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ เพราะภายในหนึ่งปีเท่านั้นคุณภาณุกรก็สามารถขยายสาขาได้มากถึง 70 สาขาอย่างคาดไม่ถึง

สำหรับสาเหตุที่สามารถขยายสาขาได้เร็วคือการใช้เทคนิคการตลาดออนไลน์ ซึ่งก่อนหน้านี้คุณภาณุกรเคยทำงานด้านคอมพิวเตอร์มาก่อน จึงนำความรู้มาปรับใช้ทำให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักภายในเวลาอันรวดเร็ว และสามารถสร้างรายได้จากการส่งน้ำยำให้แฟรนไชส์ซีกว่า 300,000- 400,000 บาทต่อเดือน โดยเงื่อนไขหลักๆ ในเรื่องของวัตถุดิบที่บังคับคือน้ำยำที่ต้องรับจากทางแบรนด์เท่านั้น