ธุรกิจแฟรนไชส์ ร้านอาหารญี่ปุ่นพันธุ์แท้จากสายเลือดซามูไร “KachaKacha”

ธุรกิจแฟรนไชส์ ร้านอาหารญี่ปุ่นพันธุ์แท้จากสายเลือดซามูไร
“KachaKacha”

อาหารที่เป็นนิยมสำหรับคนไทย นอกจากอาหารไทยแล้วอาหารญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามโดยเฉพาะในไทย เพราะความโดดเด่นของอาหารญี่ปุ่นอยู่ที่ความสดใหม่ของอาหาร ตลาดอาหารญี่ปุ่นในประเทศจึงมีมูลค่าสูงถึงปีละมากกว่า 19,000 ล้านบาทและมีอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยต่อเนื่อง สำหรับ “คุณวิเชียร อินทร์ไกรดี” ที่มีความคลุกคลีกับประเทศญี่ปุ่นอยู่มากได้มองเห็นโอกาสจากธุรกิจเช่นนี้และสร้างรายได้ได้นับร้อยล้านบาทต่อปี

ร้านอาหารญี่ปุ่น “Kachakacha” เป็นร้านที่เขาซื้อลิขสิทธิ์มาจากญี่ปุ่นที่มีอยู่มากกว่า 47 สาขา หลังจากนั้นเขาได้ทำให้เป็นแบรนด์ตนเองและขยายสาขาในรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ จุดเริ่มต้นนั้นมาจากความคลุกคลีกับประเทศญี่ปุ่น ทั้งธุรกิจทำเสื้อผ้าส่งออกทำให้เขาต้องเดินทางไปญี่ปุ่นบ่อยครั้ง และภรรยาที่เป็นชาวญี่ปุ่น ทำให้เขาตระหนักว่าธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยนั้นยังเป็นแค่การเลียนแบบ ไม่สามารถแสดงรสชาติหรือรูปแบบการบริการแบบชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริงได้ ประกอกกับโอกาสที่เขามองเห็นจากตลาดที่กำลังเติบโต จึงตัดสินใจเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นของตนเอง และเงื่อนไขสำคัญจากการซื้อลิขสิทธิ์ร้าน Kachakachaคือต้องมีการส่งทีมงานชาวญี่ปุ่นมาทำงานให้เขาด้วย เพื่อให้เป็นร้านต้นตำรับอย่างแท้จิรง

จุดเด่นของร้านอาหารญี่ปุ่น Kachakacha คือ เป็นร้านที่แสดงถึงแก่นแท้ของอาหารญี่ปุ่นในทุกๆด้าน ทั้งรสชาติความสดใหม่ วัตถุดิบนำที่เข้ามาจากญี่ปุ่น การบริการแบบชาวญี่ปุ่นที่มีใจรักโดยแท้ รวมถึงภาชนะทุกชิ้นภายในร้านก็นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน บรรยากาศการตกแต่งร้านก็ออกแบบโดยชาวญี่ปุ่น สามารถสร้างความแตกต่างจากร้านคู่แข่งอื่นๆได้ เพราะในธุรกิจประเภทนี้มีคู่แข่งอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะร้านที่เน้นคุณภาพซึ่งเขาเป็นคู่แข่งโดยตรง เอกลักษณ์เหล่านี้ได้ทำให้ร้านของเขาได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ เฉลี่ยแล้วหนึ่งเดือนมีลูกค้าประมาณ 4,000-5,000 คนต่อเดือน ค่าใช้จ่ายคนละประมาณ500 บาท

แผนการตลาดของทางร้านจะเน้นไปที่การสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าเพื่อให้เกิดการบอกต่อ เพราะที่ผ่านมาไม่มีการทำโฆษณาออกสู่สาธารณชนใดๆ แต่ร้านยังคงมีการเจริญเติบโตโดยมาจากบรรยากาศการตกแต่งร้านที่สะดุดตาและแรงสนับสนุนจากลูกค้า จนทำให้เขาขยายสาขาที่ 2 เพิ่มขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และสาขาที่ 3 ในรูปแบบของธุรกิจแฟรนไชส์ที่จังหวัดขอนแก่น ระบบการบริหารแฟรนไชส์ร้าน Kachakacha จะใช้โมเดลจากประเทศญี่ปุ่นทุกเรื่องทำให้มีรายละเอียดค่อนข้างมาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของเจ้าของกิจการ

เงินลงทุนสำหรับผู้ที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ประมาณ 3 ล้านบาท โดยมาจากค่าสัญญา 2 ล้านบาท อายุสัญญา 6 ปี ค่ารอยัลตีฟี6 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย และค่าการตลาด 15,000 บาทต่อเดือน ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ผู้ลงทุนเป็นผู้รับผิดชอบ จุดคุ้มทุนของแต่ละสาขานั้นจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและขนาดของร้าน เฉลี่ยที่ประมาณ 3 ปี

นอกจากธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่น Kachakacha แล้ว คุณวิเชียรยังมีการเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นร้านอื่นที่เน้นความเป็นต้นตำรับแต่แตกต่างในเรื่องเมนูอาหาร ได้แก่ร้าน Fujiyama Go-Go และร้าน Tsukemen Go-Go ซึ่งกิจการเหล่านี้สามารถสร้างรายได้ให้เขากว่าร้อยล้านบาทต่อปี และคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

ข้อมูลแฟรนไชส์

1. เงินลงทุนรวม 3 ล้านบาท
   • ค่าสัญญา 2 ล้านบาท
   • ค่ารอยัลตีฟี6 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย
   • ค่าการตลาด 15,000 บาทต่อเดือน
2. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ผู้ลงทุนเป็นผู้จัดการ เช่น ค่าจ้างทีมงานและเชฟชาวญี่ปุ่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าที่ ฯลฯ
3. อายุสัญญา 6 ปี
4. ระยะเวลาการคืนทุน เฉลี่ย 3 ปี ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและขนาดร้าน

ข้อมูลติดต่อ ธุรกิจแฟรนไชส์ Kachakacha
ที่ตั้ง : สาขาที่  1 เอเชียทีคเดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2108-4242, 081-6293799
E-mail :kachakachathai@gmail.com
Facebook : https://www.facebook.com/kachakachateppanyaki

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น