ธุกิจ 7 ขั้นนำ “อินสตาแกรม” กระแทกธุรกิจ
ตอนนี้แอพอย่าง อินสตาแกรม (instagram) กลายเป็นแอพที่คนนิยมใช้ถ่ายภาพกันมากที่สุดแอพหนึ่งในมือถือ ถือเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์ค รูปแบบหนึ่ง ที่ใช้รูปภาพเป็นตัวเล่าเรื่องราว
ปัจจุบันมีคนไทยกว่า 250,000 คนใช้แอพนี้ มีคนถ่ายภาพผ่านอินสตาแกรมในไทยมากถึงวันละประมาณ 5 แสนภาพต่อวันเลยทีเดียว ทำให้ตอนนี้หลายคนติดอินสตาแกรมงอมแงม และเริ่มใช้แอพนี้เป็นช่องทางสื่อสาร ติดต่อกับเพื่อนๆ หรือติดตามดารา เซเลบดังๆ ว่า วันหนึ่งเค้าทำอะไรอยู่บ้าง แต่มันจะดีไหมหนอ หากเราสามารถนำอินสตาแกรมมาประยุกต์ใช้กับการตลาด โปรโมท หรือเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ วันนี้เรามาดูเรื่องนี้กันครับ
ปัจจุบันเรามีคนไทยใช้อินสตาแกรมกันมากขึ้นทุกวัน เพราะด้วยจำนวนสมาร์ทโฟนที่เติบโตมากขึ้น และการใช้งาน 3 จี เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนหันมาใช้แอพอินสตาแกรมกันทั้งวัน (จำนวนคนไทยใช้อินสตาแกรม 252,668 คน ณ วันที่ 22 พ.ค. 2555 ข้อมูลจาก ZocialRank.com) ทำให้มีหลายแบรนด์และธุรกิจเริ่มหันมาใช้อินสตาแกรมเป็นช่องทางทำตลาดเข้าถึงคนจำนวนมากๆ มาดูหลักการ และแนวทางกันครับ
7 ขั้นนำอินสตาแกรมกระแทกธุรกิจ
1. สร้างตัวบนในอินสตาแกรม คุณเองต้องสร้างตัวตนของธุรกิจของคุณในอินสตาแกรมก่อน ก็ง่ายๆ เข้าไปสมัครแล้วใช้ชื่อแบรนด์ บริษัท เป็นชื่อในการสมัคร เพื่อให้เกิดการรับรู้ เมื่อมีการพูดถึงและบอกต่อ เช่น ลีวายส์ (@Levis) ได้สร้างตัวตนอยู่ในอินสตาแกรมขึ้นมา
2. สร้างแท็กของธุรกิจตัวเอง กำหนดแท็ก (Hash Tag) ขึ้นมากสำหรับแบรนด์หรือธุรกิจของคุณ เพื่อที่จะสามารถระบุลงไปในข้อมูลภาพ เพื่อบ่งบอกคนอื่นๆ ว่าข้อมูลหรือภาพๆ นั้นเกี่ยวกับ แบรนด์ สินค้า หรือบริการของคุณ ยกตัวอย่างเช่น ช่องทีวี YaakTV ของทางค่าย RS (@yaaktv) ได้สร้างแท็ก #yaaktv ขึ้นมาเพื่อให้คนที่ถ่ายภาพเกี่ยวกับช่องนี้ สามารถใส่แท็กนี้ลงไป เพื่อติดตาม และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเค้าได้ง่ายมากขึ้น
3. แบ่งปันภาพกับลูกค้าของคุณ คุณสามารถแบ่งปันภาพของสินค้า บริการของคุณตรงๆ ได้ อย่าง Club21 Thailand (bit.ly/club21zocial) ซึ่งตอน นี้ถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีคนติดตาม (Follow) สูงถึง 28,933 คน (ณ วันที่ 22 พ.ค. 2555 ข้อมูลจาก ZocialRank.com) ผ่านอินสตาแกรมสูงสุดในประเทศไทย ได้มีการถ่ายภาพสินค้าแฟชั่นใหม่ๆ ของทางร้านลงไปในอินสตาแกรม เพื่อที่จะให้คนที่สนใจทราบว่า ตอนนี้มีสินค้าใหม่ๆ มาลงที่ร้านแล้ว ที่สำคัญ คุณควรกำหนดชัดว่า ใครในองค์กรคุณจะทำหน้าที่ถ่ายภาพลงไปใน อินสตาแกรม และกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น วันละ 1 ภาพทุกวัน เพื่อที่จะได้มีภาพเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และสร้างการสื่อสารกับคนผ่านช่องทางนี้อย่างต่อเนื่อง
4. เชื่อมโยงเข้าสู่โซเซียลเน็ตเวิร์คอื่นๆ คุณสามารถเชื่อมโยงอินสตาแกรมเข้าโซเชียลเน็ตเวิร์คหลายๆ บริการ เช่น เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ โฟว์สแควร์ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการสื่อสารและยังสามารถทำให้คนในโซเชียลเน็ตเวิร์ค อื่นๆ ของคุณสามารถเข้าถึงอินสตาแกรมได้ด้วยเช่นกัน
5. เล่าเรื่องราวการทำงานของทีมงาน การถ่ายภาพเล่าเรื่องบรรยากาศการทำงานของทีมงาน หรือภายในบริษัท ว่า องค์กรคุณ ทีมงานคุณทำงานกันอย่างไร จะทำให้กลุ่มลูกค้า เข้าใจถึงการทำงานของคุณ ซึ่งเป็นวิธีการสร้างการปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์ของคุณ กับลูกค้าได้อีกวิธีหนึ่ง หรือจะแบ่งปันประสบการณ์ของลูกค้าคนอื่นๆ ที่ใช้สินค้า หรือบริการของคุณ ในระหว่างวันหรือสร้างเป็นเรื่องราวเพื่อให้คนเกิดการติดตามและเข้าถึงประสบการณ์ใช้งานสินค้าหรือบริการของคุณ
6. กระตุ้นให้คนกดไลค์ (Like) หากภาพของคุณสวย หรือน่าสนใจ ก็จะมีคนกดไลค์ (Like) ยิ่งมีคนกดมากเท่าไร โอกาสที่ภาพของคุณจะไปแสดงอยู่ในส่วนที่ “Popular” ที่จะทำให้คนอื่นๆ ทั่วโลกสามารถเห็นภาพของคุณได้เช่นกัน ซึ่งจะเป็นการโปรโมท และเข้าถึงกลุ่มสมาชิกกลุ่มใหม่ๆ เข้ามาติดตาม (Follow) คุณได้เพิ่มมากขึ้น
7. สร้างกิจกรรมและกระตุ้นให้คนถ่ายภาพเกี่ยวกับแบรนด์และสินค้าคุณ คุณสามารถสร้างกิจกรรม เพื่อกระตุ้นให้คนถ่ายภาพแบรนด์ สินค้า หรือบริการของคุณผ่านอินสตาแกรม เพื่อทำให้สินค้าของคุณเกิดการพูดถึง และบอกต่อออกไปในโลกออนไลน์ ตัวอย่างเช่น ทาง SB Furniture มีกิจกรรมถ่ายภาพผ่านอินสตาแกรม เพื่อมีโอกาสได้รับของรางวัล
ทั้งนี้ คือ บางส่วนของการนำธุรกิจ แบรนด์ หรือสินค้าของคุณเข้าสู่บริการถ่ายภาพชื่อดังอย่าง อินสตาแกรม อ่านถึงตรงนี้แล้ว คุณควรหยิบมือถือไปดาวน์โหลดโปรแกรมอินสตาแกรมมาลงไว้ และเริ่มถ่ายภาพ รวมถึงดำเนินกลยุทธ์ต่างๆ อย่างที่ผมได้แนะนำไปแล้ว
เพราะหลายคนบอกว่า “คำพูดนับพัน ไม่เท่ากับภาพๆ เดียว” เรามาใช้ภาพเป็นตัวเล่าเรื่องราว และสื่อสารกับลูกค้าผ่านโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค อย่างอินสตาแกรมกันเถอะครับ เอ้า!!…ให้ไวครับ
อ้างอิงจาก : เคเอสเอ็มอีแคร์