บัวลอยแฟนซี “บ้านยะลา” บัวลอยมีไส้ ไม่ใส่น้ำตาล เปิดโอกาสสร้างรายได้ด้วยรูปแบบแฟรนไชส์

บัวลอยแฟนซี “บ้านยะลา” บัวลอยมีไส้
ไม่ใส่น้ำตาล เปิดโอกาสสร้างรายได้ด้วยรูปแบบแฟรนไชส์

ขึ้นชื่อว่าขนมไทย ยังไงก็ถูกปากคนไทยเสมอ แต่ขนมไทยที่ได้รับความนิยมต้องมาพร้อมกับไอเดียสร้างสรรค์และความอร่อย อย่างบัวลอยแฟนซี บ้านยะลา ที่มีทั้งความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่สีสันที่สะดุดตาและไส้ในเม็ดบัวลอย ที่สำคัญความอร่อยที่เกิดจากความพิถีพิถันในการปรุงแบบวันต่อวัน ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในแง่ชื่อเสียงและความมั่นคงทางรายได้

คุณอานนท์ ยะมานนท์ เจ้าของไอเดียธุรกิจ บัวลอยแฟนซี บ้านยะลา เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า “เดิมผมเกิดที่จังหวัดยะลา เดินทางเข้ามาเรียนและทำงานในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2524 เป็นทั้งพนักงาน ลูกจ้าง เป็นคนงานก่อสร้าง เด็กส่งของ เพื่อส่งตัวเองเรียน หลังเรียนจบก็ยังทำงานอยู่จนกระทั่งแม่ผมเสีย และได้มาเข้าฝันขณะที่ผมกำลังคิดจะตั้งตัว แม่ผมบอกว่า ทุกคนต้องกิน เหมือนเป็นการโยนโจทย์ที่สำคัญให้ แล้วผมก็สำรวจตัวเองว่า ที่เราเรียนจบมาได้ ใช้ชีวิตอยู่ได้จนทุกวันนี้เพราะขนมไทย ที่คุณแม่ยึดเป็นอาชีพมาแต่ไหนแต่ไร และผมก็ช่วยแม่ทำจนเป็นหมดทุกอย่าง ผมเลยตัดสินใจจะยึดอาชีพนี้”

ด้วยความที่เรียนจบทางด้านการตลาด ทำให้คุณอานนท์ มีแนวคิดในการทำธุรกิจสมัยใหม่ นั่นคือ ความแตกต่าง เริ่มต้นคุณอานนท์ได้สำรวจตลาด ว่าขนมไทยที่ได้รับความนิยมมีอะไรบ้างและจะใช้สร้างความต่างได้อย่างไร

“ก่อนหน้านี้ทางใต้จะมีขนมชนิดหนึ่ง เป็นขนมหัวล้าน มีกลักษณะเป็นลูกกลมๆ ใหญ่ๆ ข้างในมีไส้ ตัวแป้งมีสีขาว สีเขียว สีดำ ทานคู่กับน้ำกะทิ ซึ่งคล้ายกับบัวลอย ผมเลยเอามาประยุกต์ ทำเป็นบัวลอยแฟนซี และเพิ่มไส้เข้าไปด้วย แต่ปั้นให้มีลูกเล็กกว่าขนมหัวล้านแต่ใหญ่กว่าบัวลอยทั่วไปเพื่อใส่ไส้ แต่ขนมหัวล้านยังมีแค่ 3 สี ผมอยากได้ที่มีหลากหลายสีมากขึ้น ขณะนั้นได้มีโอกาสไปเที่ยวตลาดที่ขายสินค้าโครงการหลวง ได้เห็นอาหารที่ทำจาก ดอกอัญชัญ ใบเตย แครอท ฟักทอง บีทรูท ซึ่งมีสีสันที่สวยงาม

ผมก็ทดลองเอามาสกัดเป็นน้ำผสมกับแป้งปั้นเป็นเม็ดบัวลอย อย่างดอกอัญชัญ กับบีทรูท จะทำการสกัดแล้วกรองเอากากออก ส่วนฟักทองก็ใช้เนื้อล้วนๆ ผสมกับตัวแป้งขณะนวด  จนกลายมาเป็นบัวลอยแฟนซี 6 สี ส่วนกะทิจะไม่ใช้หางกะทิ ใช้แต่หัวกะทิและไม่ใส่น้ำตาล แต่ใช้เทคนิคกวนกะทิด้วยระบบไอน้ำเมื่อกะทิสุก ก็ใช้เกลือในการดูดกะทิให้มีความหวานขึ้นมาเองโดยธรรมชาติน้ำตาล ดังนั้นเมื่อทานบัวลอยแฟนซีบ้านยะลา จะรู้สึกชุ่มคอ ไม่รู้สึกหิวน้ำ ที่สำคัญไม่หวานแสบคอ เพราะไม่มีน้ำตาล ยังเหมาะกับคนรักสุขภาพอีกด้วย หลังจากนั้นได้เปิดบูธจำหน่ายบัวลอยแฟนซีบ้านยะลาที่ ห้างฯ ดิโอสยาม ผลปรากฎว่า ทำไม่ทัน ขายหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ บูธของเราไม่ได้ขายบัวลอยอย่างเดียว แต่ขายข้าวหมกไก่ด้วย ทำให้มีปัญหากับทางห้างฯ เพราะไปกระทบยอดขายข้าวหมกไก่บนฟู้ดคอร์ทของทางห้าง เลยต้องย้ายร้านใหม่มาเปิดที่ ตลาดเสรีมาร์เก็ต (พาราไดซ์พาร์ค) ถ.ศรีนครินทร์ จนถึงทุกวันนี้

บัวลอยไข่หวานมีความแตกต่างจากบัวลอยทั่วไปตั้งแต่สีสันที่สะดุดตา โดยใช้สีที่สกัดจากธรรมชาติ อย่างแครอท ฟักทอง ดอกอัญชัน และบีทรูส นอกจากสีสันที่สวยงามแล้วยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นสมุนไพรตามธรรมชาติ น้ำกะทิเลือกใช้แต่หัวกระทิ ผ่านกรรมวิธีท่ำให้มีความหอมหวาน ทานแล้วไม่รู้สึกคอแห้ง หรือแสบคอ ไม่เลี่ยน สามารถทานต่อได้เรื่อยๆ ซึ่งความอร่อยเกิดจากการคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพดี ตั้งแต่แป้งที่ใช้ กะทิคั้นสดวันต่อวัน ปั้นลูกต่อลูก ถือเป็นบัวลอยโฮมเมดที่รับรู้ได้ถึงความสด ความอร่อย ที่สำคัญคือความพิถีพิถันในการปรุง โดยเฉพาะเรื่องความสะอาดจะให้ความสำคัญที่สุด

“พนักงานของผมทุกคนจะใส่ถุงมือ ภาชนะทุกอย่างต้องมีความสะอาด เพราะผมถือว่า ต่อให้อาหารมีความอร่อยมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าขาดความสะอาดลูกค้าจะมาใช้บริการเพียงแค่ครั้งเดียว”

สำหรับการทำตลาดของ บัวลอยแฝนซีบ้านยะลา คือการทำให้สินค้ามีจุดเด่น ตั้งแต่รูปแบบที่มีการคิดค้น ดัดแปลงให้บัวลอยมีความน่าสนใจในตัวเอง โดยการเพิ่มสีสันและไส้เข้าไป สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็น เมื่อได้ลองชิมบัวลอยแฟนซี ที่มีทั้งความสดความอร่อย ทำให้ลูกค้าติดใจ จนเกิดเป็นกระแสบอกต่อ มีสื่อต่างๆ ให้ความสนใจมาติดต่อขอสัมภาษณ์เป็นจำนวนมาก ทำให้บัวลอยแฟนซีบ้านยะลาได้รับความนิยม นอกจากนี้ ยังร่วมออกบูธกับทางห้างสรรพสินค้าและอีเว้นท์สำคัญๆ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ตัวเองด้วย นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ด้านการตลาดที่ได้ผลของบัวลอยแฟนซีบ้านยะลา

นับตั้งแต่เปิดตัวมาจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 3 ปี บัวลอยแฟนซีบ้านยะลา ถือเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้เป็นอย่างดี ในบางครั้งเจอคู่แข่งลอกเลียนแบบ แต่เจ้าของกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้าน เพราะการที่เขาเลียนแบบถือการการันตีว่า บัวลอยแฟนซีบ้านยะลาได้รับความนิยมอย่างสูง อย่างไรก็ตาม คุณภาพและความอร่อยจะเป็นตัววัดความสำเร็จ นอกจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทุกปีแล้ว ในขณะนี้มีผู้ที่สนใจติดต่อขอซื้อสูตรและแฟรนไชส์เข้ามาเป็นจำนวนมาก คุณอานนท์จึงได้ขยายสาขาด้วยรูปแบบแฟรนไชส์ งบลงทุนเริ่มต้นไม่เกิน 20,000 บาท โดยได้รับอุปกรณ์ครบชุดและวัตถุดิบพร้อมขาย เปิดโอกาสสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นกิจการของตัวเอง

ข้อมูลติดต่อธุรกิจบัวลอยแฟนซีบ้านยะลา
ที่อยู่ : 454/102 หมู่บ้านเลควิวพาร์ค ถ.กาญจนาภิเษก แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
โทรศัพท์ : 08-6357-5878

หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก บัวลอยแฟนซีบ้านยะลา