มุ้งกันยุง ธุรกิจมุ้งนาโนส่งออกขายต่างประเทศ นวัตรกรรมไทย“มุ้งไทเกอร์”
ถ้าพูดถึงสินค้าที่จำเป็นในยุคสมัยก่อนนั้นเรียกได้ว่าทุกบ้านต้องมีนั่นยกคือ มุ้งกันยุงนั่นเอง ซึ่งทุกบ้านนั้นมีก็มาจากบ้านบ้านสมัยก่อนนะจะไม่มีมุ้งลวด มีแต่หน้าต่างโล่งยุงก็เยอะ มุ้งกันยุงนั้นเลยจำเป็นสำหรับทุกบ้าน แต่ในปัจจุบันนั้นมีน้อยมากที่บ้านนั้นไม่มีมุ้งลวดเลยจึงทำให้ไม่มีผู้ประกอบการซักเท่าไหร่ แต่หากมองไปถึงต่างประเทศอย่างแถบแอฟริกานั้นต่างมีความต้องการนั้นอย่างมาก ด้วยเล็งเห็นว่าผู้ประกอบการน้อยสินค้ามีแต่รูปแบบเดิม จึงเกิดไอเดียธุรกิจที่ว่ามุ้งกันยุง ซึ่งมุ้งนี้มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นที่ว่าเส้นใยนั้นจะมีส่วนผสมของสารป้องกันยุงและสารป้องกันการติดไฟซึ่งรูปแบบนี้ยังไม่มีใครทำมาวางขายเลย หลังจากวางขายก็สามารถทำยอดขายได้หลักล้านเลยคะ
เจ้าของไอเดียมุ้งกันยุง “ไทเกอร์” นี้ก็คือ “ คุณศุภไช แพร่พีรกุล “ จากการเห็นยุงนั้นเป็นพาหนะของโรคต่างๆเกือบจะทั่วโลกเลยก็ว่าได้ โดยแต่ละปีองค์กรต่างๆอย่าง ยูนิดเซฟ สหประชาชาตินั้นก็ต้องจ่ายเงินซื้อมุ้งเพื่อป้องกันโรคมาเลเรียต่อปีกว่า 25 ล้านเหรียญซึ่งก็เป็นจำนวนที่เยอะมาก เมื่อเห็นว่าความต้องการมุ้งกันยุงนั้นมีมาก แต่ผู้ประกอบการนั้นก็ไม่ค่อยจะเห็นซักเท่าไหร่ รูปแบบมุ้งนั้นก็รูปแบบเดิม เมื่อเห็นช่องว่างทางธุรกิจแล้วคุณศุภชัยจึงได้คิดออกแบบรูปแบบมุ้งกันยุงรูปแบบใหม่ๆดู ซึ่งการที่นำมุ้งกันยุงมาปรับปรุงใหม่นั้นก็มาจากเห็นว่ามุ้งกันยุงนั้นยุงรูปแบบเก่านั้นยุงสามารถเล็ดลอดเข้าไปได้
โดยไอเดียผลิตมุ้งกันยุงรูปแบบใหม่นั้นก็มีความพิเศษที่ว่าเส้นใยมุ้งกันยุงนั้นจะสั่งทำมาพิเศษคือใช้เทคโนโลยีการผสมแบบมาสเตอร์เบทซ์หรือการผสมสารกำจัดยุง นอกจากนี้ก็ยังมีสารกันติดไฟ ซึ่งการใส่สารแต่ละชนิดนั้นจะไม่มีอันตรายเลย ทุกชนิดจะทำมาจากธรรมชาติทั้งหมด จะไม่เป็นอัจตรายต่อคนในเรื่องของความคงทนของมุ้งกันยุงนั้นก็จะอยู่ที่ 2 ปี ส่วนสารป้องกันยุงนั้นจะสามารถทนทานการซักได้ถึง 30 ครั้ง ปัจจุบันผู้ประกอบการผลิตมุ้งกันยุงที่ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลกนั้นมีเพียงไม่กี่รายท่านั้น ทำให้สินค้าอย่างมุ้งกันยุงนั้นเรียกได้ว่าไม่เพียงพอต่อความต้องการเลย ซึ่งการที่คุณศุภชัยนั้นได้ผลิตมุ้งกันยุงชนิดออกมาและได้รับการรับรองจากองค์กรณ์อนามัยโลกก็เรียกได้เลยว่าเป็นผู้ประกอบการผลิตมุ้งกันยุงรายแรกของไทย แต่ถึงแม้จะเป็นผู้ประกอบการไทยนั้นทำก็ตามแต่ในเรื่องของการขายในนั้นก็ส่งออกขายเกือบทั้งหมด ภายในประเทศก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้นและขายภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อว่า “ไทเกอร์”
ซึ่งการที่คุณศุภชัยนั้นประสบความสำเร็จได้นั้นก็มาจากหน่วยงานภาครัฐนั้นคอยช่วยเหลืออยู่เสมอนั่นเองและในส่วนที่ภาครัฐช่าวเหลือก็คือการที่มีจัดโครงการ “นวัตกรรมดี…ไม่มีดอกเบี้ย” โดยการที่คุณศุภไชนั้นได้เข้าร่วมโครงการนี้ก็ได้เงินลงทุนมาจำนวนมากพอสมควรซึ่งถ้าหากไม่มีในส่วนนี้คุณศุภไชก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ข้อมูลการติดต่อธุรกิจ
โทร 03-4872-281-3, 08-4737-2559