รถมือสอง เต้นท์รถ “นีโน่ ออร์โต้” ธุรกิจบนคุณภาพและมาตรฐาน
และบริการที่ครบครัน
ชีวิตคนบางครั้งก็ต้องพบเจออะไรที่ยากเย็นแสนเข็ญ หลายครั้งต้องต่อสู้ และหลายครั้งอาจต้องดิ้นรน เพราะความกดดันหลายๆ อย่างที่ประดังเข้ามา ทำให้ต้องเอาตัวรอดเพื่อดำรงชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ สำหรับบางคนมันอาจยากและยากมากจนไม่รู้จะต่อสู้ยังไง และเมื่อต่อสู้ไม่ได้ก็จบลงที่การยอมแพ้พ่ายไปแต่โดยดี แต่สำหรับบางคนก็อาจยากเช่นกัน แต่คงไม่ยากมากเกินไปสำหรับลมหายใจที่ยังมีอยู่ และใครคนนั้นก็พร้อมจะต่อสู้ดิ้นรนจนตัวเองมีที่ยืน และยืนได้อย่างสง่างาม
คุณดวงพร สุขุมพันธุ์พงศ์ เจ้าของโชว์รูมรถยนต์มือสอง Nino Auto ที่ดำเนินธุรกิจด้วยความสำเร็จ แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังนั้นของเธอก่อนจะมีวันนี้ ต้องผ่านเรื่องราวอันเจ็บปวดมามากมายเพียงไร คุณดวงพรเป็นลูกของเจ้าของร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีฐานะทางบ้านถือว่าค่อนข้างมั่นคง แต่ชีวิตของเธอกลับไม่สบายเท่าที่ควร โดยเฉพาะในส่วนของสภาพจิตใจที่เธอต้องอยู่แยกกันกับครอบครัวมาตลอดตั้งแต่ยังเล็กๆ เพราะพ่อและแม่ต้องไปดูแลกิจการร้านขายยาซึ่งอยู่ในจังหวัดมหาสารคาม ส่วนตัวเธอเองเมื่อเรียนจบ ป.3 ก็ถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ
ครั้นเมื่อจบ ป.6 เธอก็ถูกส่งไปอยู่ที่บ้านซึ่งพ่อแม่ซื้อไว้ให้ที่กรุงเทพฯ และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของความเจ็บปวดในชีวิต เมื่อเธอต้องอาศัยอยู่กับญาติซึ่งเป็นผู้ชายและขี้เมา และชอบทำร้ายร่างกายเธอทุกครั้งที่กลับมาถึงบ้านด้วยอาการเมา จนเธอกลายเป็นคนขี้กลัวที่ต้องนอนผวาบ่อยครั้งและขาดความมั่นใจในตัวเองลงไป แต่เธอก็ไม่เคยฟ้องพ่อแม่เพราะเกรงว่าท่านจะเป็นกังวล ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพแบบนั้นเป็นเวลาถึง 6 ปี จนกระทั่งเรียนจบในช่วงชั้นมัธยมเธอก็ได้ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเกริกสาขาการเงินและการธนาคาร เธอก็ได้มีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น
และเมื่อเรียนจบก็ได้เข้าทำงานในบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ตำแหน่งผู้ตรวจสอบบัญชี แต่แล้วเธอกลับไม่ชอบงานที่ทำ เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหุ่นยนต์ที่วันๆ เอาแต่นั่งกดเครื่องคิดเลขทุกวัน จึงตัดสินใจลาออก และได้มีโอกาสเข้าไปทำงานเป็นเซลล์ขายรถเบนซ์ป้ายแดง แต่เส้นทางการทำงานนี้ไม่ง่ายเลย เพราะต้องทำงานท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง ต้องชิงดีชิงเด่นเพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้ บางครั้งความมีน้ำใจของคุณดวงพรที่ชอบช่วยเหลือเจ้านายอย่างช่วยถือของ ช่วยชงกาแฟ ก็ยังกลายเป็นเรื่องที่เลวในสายตาของเพื่อนร่วมงาน จนถูกใส่ร้ายป้ายสีให้เสียหาย เพราะอิจฉาที่เจ้านายให้ความเอ็นดูต่อเธอ และให้สิทธิพิเศษๆ กับเธออยู่เสมอ
แต่ดีที่คนสู้ชีวิตอย่างเธอไม่ท้อถอยง่ายๆ และเก็บเอาคำต่อว่าด่าทอเหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดันให้เธอมีความพยายามในการทำงานมากขึ้นจนประสบความสำเร็จ โดยระหว่างที่เธอเป็นเซลล์ขายรถเบนซ์ เธอก็ทำกิจการขายรถมือสองควบคู่ไปด้วย โดยการซื้อมาขายไปทีละคัน ไม่ได้มีเต๊นอย่างปัจจุบัน แต่นั่นก็เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของกิจการที่มั่นคงอย่างเช่นทุกวันนี้ แต่หากว่าในการขายรถมือสองครั้งนั้นไม่ได้ดำเนินต่อเนื่องมาจนกระทั่งมีเต๊น ก็ประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 เสียก่อน
ทำให้เธอต้องหยุดการขายรถมือสองไป และได้ย้ายไปอยู่ที่อิตาลีกับสามีของเธอซึ่งเป็นลูกครึ่งอิตาลี โดยก่อนที่จะเดินทางไปอิตาลี เธอเคยไปทำธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าอยู่ที่โบ้เบ้ โดยการชักชวนของเพื่อน ทำอยู่ประมาณ 6 เดือน ก็คิดว่าน่าจะดี จึงคิดที่จะเอาไปขายที่เมืองนอก เมื่อเดินทางไปอิตาลีกับสามีซึ่งตอนนั้นมีลูกด้วยกัน 1 คน แต่สุดท้ายก็ไม่ดีอย่างที่คิด เพราะค่าที่แพงมาก อีกทั้งยังลำบากตรงที่ต้องเอาลูกเล็กไปขายด้วยตลอดทุกที่ บวกกับค่าครองชีพก็สูงลิบ จึงคิดหาทางออก เพราะถ้าฝืนต่อไปคงไม่รอดแน่ๆ จึงกลับมาตั้งหลักใหม่ที่เมืองไทย ด้วยกิจการขายรถมือสองเหมือนเดิม
แต่ครั้งนี้เธอได้เปิดเต๊นรถมือสองเป็นกิจจะลักษณะอยู่ย่านมีนบุรี หลักการทำธุรกิจของเธอจะไม่กู้เงิน แต่จะอาศัยนำกำไรมาต่อทุน คือเมื่อขายรถมือสองในเต๊นได้หนึ่งคัน ก็จะนำกำไรจากตรงนั้นมาซื้อรถมือสองมาไว้ในเต๊นรถต่อไป จนกระทั่งทุกวันนี้มีรถมือสองอยู่เต๊นกว่า 30 คัน แต่ความสำเร็จก็ยังไม่เกิดที่จุดนั้น เพราะสถานที่ตรงนั้นเป็นสถานที่รวบรวมเต๊นรถมือสองเอาไว้หลายเจ้าด้วยกัน ทำให้เกิดการแข่งขันสูง หากแต่ในการแข่งขันไม่ใช่เพียงแต่ใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจเท่านั้น แต่กลับใช้วิธีการกลั่นแกล้งเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
โดยเต๊นรถของเธอเป็นเต๊นที่อยู่ในสุด บางครั้งก็โดนเจ้าอื่นเอารถมาจอดบังหน้าร้านเอาไว้ก็มี บางครั้งก็ด่าทอเสียดสีซึ่งกันและกันบ้างหรืออะไรต่อมิอะไรบ้าง แต่เธอก็อดทน ทั้งยังพยายามเอาชนะด้วยธุรกิจ คือถ้าลูกค้าซื้อขายรถที่เต๊นอื่นแล้วไม่จบ พอมาถึงเต๊นของเธอเธอก็จะขายให้จบให้ได้ และได้ชัยชนะทางการค้ามาอย่างภาคภูมิใจ จนสุดท้ายขายได้มากๆ เข้า จนรเต๊นคู่แข่งทนไม่ไหวก็ย้ายหนีไปในที่สุด
หลักการสำคัญในการทำธุรกิจของเธอก็คือยิ้มแย้มแจ่มใสให้ลูกค้า เน้นเรื่องบริการที่ดีเพื่อซื้อใจลูกค้า และที่สำคัญความซื่อสัตย์เป็นเรื่องที่ต้องมาก่อนซึ่งถือเป็นวิธีการทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยความซื่อสัตย์นั้นก็คือการคัดเลือกรถคุณภาพดีมาขายให้แก่ลูกค้า ไม่ยอมให้เสียชื่อโดยเด็ดขาด จนในที่สุดเธอก็ประสบความสำเร็จในธุรกิจ เมื่อตอนนี้เต๊นรถของเธอถือว่าขายดีที่สุดบนถนนสุวินทวงศ์
ข้อมูลติดต่อธุรกิจเต๊นท์รถมือสองนีโน่ ออร์โต้
ที่อยู่ เลขที่ 434 ถ.สุวินทวงศ์ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ 10510
โทรศัพท์ 02-956-3344
แฟกซ์ 02-956-6229
Website : http://www.ninoauto.com