11 สิ่งบนเฟซบุ๊ก (Facebook) ที่คุณอาจอยากลบมันทิ้งไป
มากกว่า 1.49 พันล้านบัญชีผู้ใช้งานบนเฟซบุ๊ก นั่นแสดงให้เห็นว่า Facebook เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก ด้วยความที่ Facebook เป็นโซเชียลมีเดียที่มีประสิทธิภาพมากแต่ก็ใช่ว่าจะคลายความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของบุคคลได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังมีคนส่วนใหญ่ที่ยังคงกังวลต่อสิทธิความเป็นส่วนตัวของพวกเขาบางอย่างที่ไม่อยากให้ Facebook เก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ เรามาดูกันว่าสิ่งใดบ้างที่หลายคนอยากจะลบออกจากหน้าเฟซบุ๊กของตัวเอง??
1. วันเกิด
วันเกิด ยังคงเป็นปัญหาสำคัญซึ่งรวมไปถึงชื่อและที่อยู่ด้วย เพราะหลายคนมีความกังวลว่าหากใช้ชื่อ-นานสกุล และวันเดือนปีเกิดจริงๆลงในหน้าโปรไฟล์ของตัวเอง พวกมิจฉาชีพอาจใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการเข้าถึงบัญชีธนาคารหรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆได้
2. หมายเลขโทรศัพท์
หมายเลขโทรศัพท์แม้จะเป็นข้อดีอย่างมากในการติดต่อ ไม่ว่าจะเป็นติดต่อธุรกิจ เพื่อน ญาติ ครอบครัว แต่ก็คงปฎิเสธไม่ได้ว่าหมายเลขโทรศัพท์ที่เราใส่ไว้ในโปรไฟล์นั้นอาจสร้างความรำคาญให้ได้ หากมีคนคิดเล่นตลก โทมาก่อกวนสร้างความรำคาญทั้งวันก็คงไม่ไหวเป็นแน่
3. เพื่อนส่วนใหญ่ของคุณ
ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา โรบิน ดันบาร์ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด มีทฤษฎีที่ว่า “มนุษย์สามารถรักษาความสัมพันธ์ที่มั่นคงประมาณ 150 คน” หลังจากการสังเกตผู้ใช้งานบนเฟซบุ๊ก 3,375 คนแล้วพบว่าเพื่อนๆในเฟซบุ๊คของพวกเขานั้น 4.1 เปอร์เซ็นต์เป็นเพื่อนที่รู้จักกันจริงและเชื่อถือได้ และ 13.6 เปอร์เซ็นต์นั้นจะเป็นคนอื่นที่มักจะเข้ามาแสดงความเห็นอกเห็นใจในช่วงที่เจ้าของเพซบุ๊คอยู่ในช่วง “วิกฤตทางอารมณ์” ดังนั้นจึงอาจมีหลายคนที่อยากจะคงเหลือไว้เฉพาะเพื่อนที่สนิท ลบพวกที่ชอบก่อกวนออกไปเสีย
4. รูปถ่ายสมาชิกในครอบครัว/เด็ก
หลายครั้งที่ได้ยินข่าวเด็กถูกลักพาตัว สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่มักจะโพสรูปลูกๆด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นช่องทางให้พวกมิจฉาชีพรู้ความเคลื่อนไหวและเข้าถึงตัวบุตรหลานหรือคนในครอบครัวได้ง่าย
5. สิ่งที่เรากำลังจะทำ/ โรงเรียนที่บุตรหลานเข้าเรียน
ตามที่ NSPCC บอกว่าบันทึกจำนวนความผิดทางเพศต่อเด็กได้เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ตามรายงานกล่าวว่า ข้อมูลจากการบันทึกของตำรวจมีคดี 36,429 คดี เป็นการกระผิดทางเพศต่อเด็กในปี 2013-2014 ในอังกฤษ และตามรายงานยังระบุอีกว่า รัฐเวลล์ สกอตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือ มีจำนวนคดีการกระทำความผิดทางเพศต่อเด็กมากที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา
6. บริการสถานที่ตั้ง
บริการสถานที่ตั้ง (Location services) ที่รองรับอุปกรณ์สมาร์ทโพนทั้งระบบ Android หรือ IOS คนส่วนใหญ่มักที่ชอบแชร์โลเคชัน หรือที่เช็คอินในสถานที่ต่างๆที่ไปเพื่อแสดงไลฟ์สไตล์ ร้านอาหารโปรด สถานที่สวยงาม เพื่อให้เพื่อนๆได้เห็น แชร์ประสบการณ์ในการไปสถานที่นั้นๆกับเพื่อนๆ แต่ก็ใช่ว่าจะมีทุกคนที่อยากให้คนอื่นรู้ความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ในทางกลับกันก็ใช่ว่าเพื่อนๆเองก็อยากจะรู้ทุกอริยะบทของคุณเช่นกัน ในทำนองเดียวกันหากเคราะห์ร้ายอาจเป็นอันตรายได้หากมิจฉาชีพรู้ว่าตอนนี้คุณอยู่ไหน!!
7. ที่ทำงาน/ผู้จัดการ
นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความอ่อนไหวทางด้านจิตใจและความรู้สึกล้วนๆ ในการท่องโซเชียลอย่าง Facebook ก็อยากจะรู้สึกผ่อนคลายไม่ต้องคอยกังวลว่าที่ทำงานจะมารู้เห็นเรื่องส่วนตัว หรือเจ้านายหรือผู้จัดการมาตรวจดูคอมเม้นท์ต่างๆ รวมทั้งสถานะต่างๆเวลาที่เรากำลังบ่นเรื่องงาน …!!! นั่นไม่ใช่เรื่องดีแน่ ยิ่งสร้างความอึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเองแม้กระทั้งในโลกโซเชียล
8. หยุดการติดแท็กสถานที่
หลายคนอาจลืมไปว่าการที่ติดแท็กสถานที่ในขณะที่คุณอยู่ที่บ้าน นั่นหมายถึงการให้ที่อยู่แก่ของคุณบุคคลอื่นๆบน Facebook ไปแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายได้หากมีคนร้ายติดตามคุณจากที่อยู่ของคุณ
9. เวลา/สถานที่ สำหรับวันหยุดพักผ่อน
โชคไม่ดีนักที่บางคนอาจถูกยกเค้า ขโมยทรัพย์ในห้องพัก จากการที่เขาโพสต์แผนการเดินทางรวมทั้งรายชื่อที่พัก หมายเลขห้องพัก ลงในหน้าเพซบุ๊กส่วนตัว
10. สถานะความสัมพันธ์
หากคุณอยากจะประกาศการเริ่มความสัมพันธ์ครั้งใหม่กับใครสักคน บางครั้งก็ “อย่าทำบนเฟซบุ๊ก” เพราะมันอาจไม่เป็นดังอย่างที่คุณคิดตลอดไป หากวันหนึ่งคุณต้องเปลี่ยนสถานะเป็น “โสด”การเปลี่ยนสถานะจะทำให้คุณรู้สึกแย่กว่าที่คุณเป็นอยู่แล้วก็ได้
11. รายละเอียดบัตรเครดิต
นี่เป็นเรื่องที่ไม่ควรแสดงไว้ในเฟซบุ๊คส่วนตัวอยู่แล้ว มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยหากจะใส่ข้อมูลสำคัญเช่นนี้ไว้
แม้ว่าเฟซบุ๊คจะมีมาตรการในการป้องกันข้อมูลความเป็นส่วนตัวที่ดีมากอยู่แล้ว “แม้กระทั้งทุกข้อที่กล่าวมานี้ เราก็สามารถตั้งค่าไม่ให้ผู้อื่นเห็นข้อมูลต่างๆได้ แม้แต่การบล็อกบุคคลก็ทำได้” แต่เราก็อย่าลืมว่าข้อมูลบางอย่างแม้เราจะซ่อนจากผู้อื่นได้ แต่ Facebook ก็ยังคงเข้าถึงข้อมูลเราได้ ยิ่งกับคนที่มีเพจเป็นของตัวเอง การโฆษณาบนเฟซบุ๊กก็ต้องใช้บัญชีบัตรเดรดิตในการชำระเงิน ดังนั้นจึงยังมีหลายคนที่มีความกังวลและไม่อยากให้มีบนเพซบุ๊คส่วนตัวของพวกเขา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://indy100.independent.co.uk