ร้านกาแฟ ขั้นตอนการเปิดร้านขนาดย่อม ทำอย่างไรบ้าง?
ร้านกาแฟ ความฝันของใครหลายๆ คนที่ต้องการทำธุรกิจ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี วันนี้เรามีวิธีมาฝากในขั้นตอนของการเปิดร้านกาแฟ เพื่อให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ ทำความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม
ก่อนอื่นพูดถึงรูปแบบของร้านกันก่อน สำหรับธุรกิจร้านกาแฟซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามีอยู่หลากหลายรูปแบบจริงๆ แต่วันนี้เราจะขอพูดถึงขั้นตอนของการเปิดร้านกาแฟแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เป็นร้านเล็กๆ ขายข้างทางหรือขายในรูปแบบคีออส ที่เน้นขายสินค้าเป็นหลัก ไม่เน้นในเรื่องของบริการ
หาทำเลที่ตั้ง
ก่อนอื่นเลยในเรื่องของการเปิดร้านกาแฟ ขอเริ่มต้นด้วยการหาทำเลที่ตั้งก่อน เป็นหนึ่งในต้นทุนสำคัญและค่อนข้างสูงพอสมควร จึงเหมาะสมที่จะต้องเซอร์เวย์ในเบื้องต้นเพื่อคำนวณถึงค่าใช้จ่ายเพื่อลงทุน โดยการกำหนดกลุ่มลูกค้ามาก่อนว่าอยากให้เป็นคนกลุ่มไหน ถ้าเน้นนักศึกษาให้ไปตามสถานศึกษา เน้นคนทำงานให้ไปตามออฟฟิศ แต่ถ้าจะเน้นคนหลากหลายจำนวนมาก ให้ไปตามตลาดนัดขนาดใหญ่ โดยทำเลดังกล่าวควรมีกลุ่มลูกค้าเดินผ่านไม่ต่ำกว่า 1,000 คนต่อวัน จากการคำนวณเบื้องต้นโดยทั่วไปใน 1,000 คนจะมีคนซื้อกาแฟ 100 คนโดยประมาณ จากข้อมูลสถิติค่าเฉลี่ยในจำนวนลูกค้าเป้าหมาย 10% ที่เดินผ่านหน้าร้านจะซื้อสินค้า (ขอขอบคุณข้อมูลสถิติจาก : ผู้จัดการออนไลน์) โดยค่าเช่าพื้นที่ที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 4,000 บาทต่อเดือน (จากความคิดเห็นส่วนใหญ่ที่แชร์กันในอินเตอร์เน็ต)
หาอุปกรณ์และวัตถุดิบ
ขั้นตอนต่อมาหลังจากหาทำเลได้แล้วก็มาต่อด้วยการหาอุปกรณ์และวัตถุดิบในการทำกาแฟต่อ วัตถุดิบมีอะไรบ้างสำหรับร้านกาแฟ
- เมล็ดพันธุ์กาแฟ พันธุ์ที่ดีที่สุดยกให้ “อาราบิก้า” แต่ค่อนข้างมีต้นทุนที่สูงเมื่อเทียบกับเมล็ดพันธุ์อื่นๆ ผู้ประกอบการบางรายอาจเลือกแก้ปัญหาโดยการซื้อพันธุ์ผสมในสัดส่วนต่างๆ อาจผสมระหว่างอาราบิก้าและโรบัสต้า หรืออะไรก็ว่าไป สำหรับแหล่งขายเมล็ดพันธุ์กาแฟที่เน้นๆ ในเรื่องของคุณภาพ ขอยกให้กับ “กาแฟร้อยตะวัน” ซึ่งดำเนินกิจการกาแฟคั่ว โดยจะเป็นอาราบิก้าที่ปลูกในประเทศทั้งหมด ที่นี่ขายเมล็ดกาแฟคุณภาพในราคาสมเหตุสมผล มีกลุ่มลูกค้าเป็นธุรกิจร้านกาแฟรายย่อยอยู่หลายราย แต่ถ้าอยากได้ราคาถูกไปที่เยาวราชก็ได้เช่นกัน ว่ากันว่าที่นี่ก็มีขายส่งเมล็ดพันธุ์กาแฟด้วย แต่ที่นี่จะเป็นสายพันธุ์โรบัสต้าเป็นใหญ่
- วัตถุดิบอื่นๆ ซึ่งใช้ในการปรุง อย่างน้ำตาล นมข้น ครีมเทียม ฯลฯ ขอแนะนำให้ไปที่แม็คโคร
- อุปกรณ์ ได้แก่ ขวดโหล เครื่องทำกาแฟ ถ้วยตวง ช้อนชง รวมไปถึงบรรจุภัณฑ์อย่างแก้วกาแฟ ฝาปิด หูหิ้ว เป็นต้น สำเพ็งน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้ เพราะมีให้เลือกหลายเจ้า และขายในราคาส่งช่วยลดต้นทุน ส่วนพวกบรรจุภัณฑ์สามารถหาซื้อได้ที่สำเพ็ง หรือแม็คโครก็มีขายเช่นกัน
- เคาน์เตอร์หรือคีออสขายของ อันนี้ส่วนมากต้องสั่งทำ ซึ่งมีผู้รับทำทั่วไปไม่มีแหล่งขายเป็นที่ทางเฉพาะเจาะจง แต่ขอแนะนำไว้หนึ่งเรื่องคือต้นทุนของคีออสไม่ควรเกิน 50,000 บาท (จากความคิดเห็นส่วนใหญ่ที่แชร์กันในอินเตอร์เน็ต) หรือจะทำเองก็ได้เช่นกัน ถ้าหากใครที่มีเศษไม้เหลือๆ อยู่บ้าง และพอมีความรู้เรื่องงานช่าง ก็จะช่วยประหยัดต้นทุนได้มากพอสมควร วิธีทำสามารถสืบค้นในอินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งมีบอกหยู่หลายเว็บไซต์
เรียนรู้วิธีการทำ
เสร็จสรรพในเรื่องของการเตรียมข้าวของเพื่อเปิดร้านแล้ว ต้องสำรวจตัวเองด้วยว่ามีความรู้ในการทำกาแฟขายหรือยัง ถ้ายังควรหาคำตอบก่อนว่าตัวเองต้องการเรียนรู้แบบไหน ถ้าอยากเรียนรู้ด้วยตัวเองแนะนำให้เรียนตาม Youtube หรือถ้าจะเข้าอบรมในหลักสูตรที่เปิดสอน ก็ควรศึกษาข้อมูลให้แน่ชัดว่าผู้สอนท่านนั้นมีความรู้จริงหรือเปล่า มีความชำนาญจริงหรือไม่ และจะสามารถถ่ายทอดวิชาให้เราได้ไหม เราจะทำได้จริงใช่หรือไม่ ควรรอบคอบให้มากในส่วนนี้ และเลือกคอร์สที่ไม่แพงจนเกินไป แนะนำว่าไม่ควรเกิน 2,000 บาท (จากความคิดเห็นส่วนใหญ่ที่แชร์กันในอินเตอร์เน็ต)
หลังจากนั้นเมื่อทำเป็นแล้ว เตรียมข้าวของแล้ว มีทำเลที่ตั้งแล้ว ก็ลงมือขายจริงได้เลย ส่วนการตั้งราคาที่เหมาะสมสำหรับกาแฟแต่ละแก้ว ควรมี 3 ราคา ได้แก่ 25, 30 และ 35 บาท (ขึ้นอยู่กับการลงทุนของผู้ค้าแต่ละราย) กาแฟที่ขายควรมีให้เลือก 3 ประเภท ได้แก่ กาแฟร้อน กาแฟเย็น และกาแฟปั่น
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น