ร้านค้าออนไลน์ ธุรกิจยอดนิยม กับช่องทางสุดเลิศเพื่อการเปิดร้าน
ถ้าอยากขายของปัจจุบันนี้ไม่มีช่องทางไหนจะน่าสนใจไปกว่าการเปิด “ร้านค้าออนไลน์” อีกต่อไปแล้ว เพราะทั้งสะดวก ทั้งรวดเร็ว ทั้งง่ายต่อการดำเนินการ แถมต้นทุนยังต่ำกว่าการเช่าพื้นที่เพื่อเปิดร้านเป็นหลายเท่าตัว ที่สำคัญยังสามารถทำงานประจำควบคู่ไปด้วยได้อีกแบบสบายๆ จึงไม่แปลกที่ร้านค้าออนไลน์จะกลายเป็นสิ่งที่ใครหลายคนถามหาและต้องการ ซึ่งก็มีคำถามหลายๆ คำถามเกิดขึ้นไม่น้อยสำหรับผู้ที่ยังขาดข้อมูลความรู้ต่างๆ และหนึ่งคำถามนั้นก็คือ…จำเป็นต้องเขียนเว็บไซต์เป็นหรือไม่ โดยจะบอกให้เลยว่าไม่จำเป็นสักนิดเดียวค่ะ เพราะปัจจุบันมีเว็บไซต์สำเร็จรูปจำนวนมากรองรับเพื่อการเปิดร้านค้าออนไลน์หลายต่อหลายเว็บไซต์เลยค่ะ
เว็บไซต์สำเร็จรูปคืออะไร แล้วทำให้เปิดร้านค้าออนไลน์ได้จริงหรือ?
เว็บไซต์สำเร็จรูปก็คือเว็บไซต์ที่มีผู้ดำเนินการไว้เบื้องต้นอยู่แล้ว เพื่อรองรับการจัดสร้างจัดทำเว็บไซต์ซ้อนขึ้นมาโดยผู้สมัครหรือผู้เข้าร่วมสมาชิกกับเว็บไซต์นั้นๆ เช่น Facebook Hi5 ทำนองนี้ก็เรียกว่าเว็บไซต์สำเร็จรูปเช่นกันค่ะ เมื่อผู้สมัครเข้าร่วมหรือมี Account เป็นของตัวเอง ก็จะสามารถมีเว็บไซต์ส่วนตัวของตัวเองขึ้นมา แต่ก็ยังดำเนินการภายใต้เว็บไซต์แม่อีกที โดยปัจจุบันมีเว็บไซต์จำนวนมากที่ตั้งตัวขึ้นเป็นเว็บไซต์สำเร็จรูปเพื่อการเปิดร้านค้าออนไลน์ อย่างที่รู้จักโดยทั่วกันก็ต้องยกให้กับ Weloveshopping เป็นอันดับต้นๆ ที่เชื่อว่าใครหลายคนก็คงรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วใช่ไหมล่ะคะ
เว็บไซต์สำเร็จรูปได้อะไรจากการเข้าร่วมของเจ้าของร้านค้าออนไลน์?
หลายคนคงสงสัยว่าเว็บไซต์พวกนี้จะตั้งตนขึ้นให้บริการเพื่อการเปิดร้านค้าออนไลน์ของคนอื่นๆ ทำไมกัน หรือมันต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรตอบแทนรึเปล่า คำตอบนะคะ…ส่วนใหญ่มี คล้ายๆ กับค่าเช่าที่แต่อาจต่ำกว่า(หลายเท่า) และหลายเว็บไซต์มักมีบริการให้ทดลองใช้ฟรีก่อนในเบื้องต้นด้วยค่ะ ทำให้ผู้ค้าสามารถชิมลางเล่นๆ ก่อนได้ว่าธุรกิจของตนจะเป็นไปในทิศทางไหน ถ้าไม่เวิร์คก็ถอยมาตั้งหลักก่อนได้ โดยไม่ต้องเสียดายค่าเช่าที่ขายของหรือทำสัญญากันเป็นปีๆ ให้ต้องเครียดกันค่ะ
เว็บไซต์สำเร็จรูปเพื่อการเปิดร้านค้าออนไลน์มีเว็บฯ ไหนบ้าง?
เชื่อว่ามาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากรู้กันแล้วแหละว่าเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ว่าน่ะมีเว็บฯ ไหนกันบ้าง ซึ่งทางบทความก็ได้รวบรวมไว้ให้แล้ว ดังนี้
1. Weloveshopping (www.weloveshopping.com)
เชื่อว่าไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อนี้แน่ๆ ถ้าหากเคยเล่นอินเตอร์เน็ต หรือเคยซื้อของผ่านร้านค้าออนไลน์ เพราะเว็บไซต์นี้เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงมากที่สุดเลยก็ว่าได้สำหรับวงการร้านค้าออนไลน์ ทั้งยังมีมาอย่างยาวนานเมื่อเทียบกับเว็บไซต์อื่นๆ สำหรับการแบ่งหมวดของ Weloveshopping ได้แก่ เสื้อผ้า/แฟชั่น นาฬิกา/เครื่องประดับ สุขภาพและความงาม แม่และเด็ก ของเล่นและเกมส์ เพลง/หนังและบันเทิง ไลฟ์สไตล์ หนังสือ/ของสะสม กล้องและอุปกรณ์เสริม เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน โทรศัพท์/คอมพิวเตอร์ เฟอร์นิเจอร์/ของแต่งบ้านและขอปิดท้ายด้วยธีมของเว็บไซต์ที่ดูจะออกแนวแฟชั่นและทันสมัยหน่อย เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่อย่างลงตัวค่าบริการเริ่มต้น 209 บาทต่อเดือน
2. Tarad (www.tarad.com)
สำหรับเว็บไซต์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางของร้านค้าออนไลน์ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน สินค้าที่ขายมีหลากหลายประเภท มีการแบ่งหมวดหมู่ดังนี้ เสื้อผ้าและแฟชั่นนาฬิกา/จิวเวลลี่อิเล็กทรอนิกส์บ้าน/สำนักงานอาหารและสุขภาพหนังสือ/บันเทิงไลฟ์สไตล์และธีมของเว็บไซต์นี้จะออกแนวคล้ายๆ กับซุปเปอร์มาร์เก็ต ให้อารมณ์ประมาณว่าอยากซื้ออะไรเข้ามาหาก็เจอ เพราะการโฆษณาหน้าเว็บไซต์จะมีความหลากหลายมาก นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษในเรื่องของการสะสมแต้มเพื่อแลกส่วนลด หรือสิทธิพิเศษต่างๆ อีกด้วย ที่สำคัญยังมีในส่วนของของแจกฟรีไว้ให้ได้ร่วมสนุกกัน โดยจะแจกตามเวลาที่กำหนดและจำนวนจำกัด ให้ผู้ที่อยากได้ร่วมสนุกโดยการยื่นคำขอ และสุ่มเลือกตามจำนวนของที่แจก โดยส่วนนี้มีไว้เพื่อโปรโมทร้านค้าเจ้าของสินค้านั้นๆ ให้เป็นที่รู้จัก
3. Lnwshop (www.lnwshop.com)
สำหรับเว็บไซต์นี้มีคำโฆษณาที่เน้นหนักคือ “ไม่เสียค่าบริการตลอดชีพ” ในการเข้าร่วมร้านค้า โดยสินค้าที่สามารถขายได้นั้นคือทุกสิ่ง แต่ธีมหลักจะเน้นไปที่สินค้าแฟชั่น สังเกตได้จากหน้าตาของเว็บไซต์ที่มีความทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างตรงประเด็น และสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่คลิกเข้าร่วมร้านค้าจะได้ส่วนลดในการซื้อของชิ้นนั้นๆ
4. Shopup (http://www.shopup.com)
สำหรับเว็บไซต์นี้จะเน้นภาพลักษณ์เป็นเรื่องสำคัญที่สุด สังเกตได้จากเมื่อเข้าหน้าเว็บไซต์มาจะพบกับใบหน้าดาราเต็มไปหมด ซึ่งดาราเหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เข้าร่วมในการเปิดร้านค้าออนไลน์กับทางเว็บไซต์ด้วย ทำให้เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือและมีภาพลักษณ์ที่ดี ธีมของเว็บไซต์เน้นความสวยงามและความทันสมัย สำหรับค่าบริการเริ่มต้น 400 บาทต่อปี นอกเหนือจากนี้ทางเว็บไซต์ยังมีบริการออกแบบเว็บไซต์ให้อีกด้วย (คิดค่าบริการเสริมต่างหาก)
5. Siam VIP (http://www.siamvip.com)
สำหรับเว็บไซต์นี้จุดประสงค์หลักคือการขายเว็บไซต์ กล่าวคือผู้ใช้บริการสามารถสั่งซื้อเว็บไซต์เพื่อทำอะไรก็ได้ ไม่เพียงแต่ร้านค้าออนไลน์เท่านั้น โดยผลิตภัณฑ์ของธุรกิจมีดังนี้ เว็บไซต์ขยายสายงาน เว็บไซต์สำเร็จรูป ร้านค้าออนไลน์ และเว็บโรงเรียนสำเร็จรูป สำหรับร้านค้าออนไลน์ค่าบริการเริ่มต้น 900 บาทต่อปี
หมายเหตุ รูปภาพและวีดิโอที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น