ร้านอาหารญี่ปุ่น “อิจิ-เมชิ” โดดเด่นไม่เหมือนใคร
ด้วยแนวคิดของทายาทหมื่นล้าน
ร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงแซงทางโค้ง ไม่ว่าคุณจะไปไหน ก็จะพบเจอร้านอาหารจากแดนปลาดิบพากันผุดขึ้นมาดั่งดอกเห็ดในหน้าฝน แต่ ”อิจิ-เมชิ” ร้านอาหารญี่ปุ่นน้องใหม่ก็ไม่ได้กังวลกับการแข่งขันที่สูง พร้อมการันตีความเป็นที่หนึ่งทั้งรสชาติและคุณภาพ แตกต่างจากร้านอื่นแน่นอน
ผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการ “อิจิ-เมชิ” ร้านนี้คือ “ดร.รัฐวิไล รังสีสิงห์พิพัฒน์” หญิงสาวทายาทธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้าชื่อดังซึ่งมีวอลุ่มยอดขายไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นล้านบาท ด้วยความที่ดร.รัฐวิไล เป็นผู้ชื่นชอบในการรับประทานอาหารญี่ปุ่นเป็นทุนเดิม ประกอบกับธุรกิจของครอบครัวที่เริ่มอยู่ตัว รวมไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเธอก็ประสบความสำเร็จตามเป้าอย่างงดงาม ดร.รัฐวิไลจึงทำตามความชอบและใฝ่ฝัน เปิดร้านอาหารญี่ปุ่น “อิชิ-เมชิ” ขึ้นมา
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ดร.รัฐวิไลเองก็เล็งเห็นว่าตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูง ทำให้ “อิชิ-เมชิ” เป็นธุรกิจที่ท้าทาย ทำให้ทายาทธุรกิจหมื่นล้านวางกลยุทธ์ใช้ความแตกต่างไม่เหมือนใคร คอนเซปของบรรยากาศสไตล์แดนปลาดิบแท้ๆ และที่สำคัญคือความเป็นที่หนึ่ง ซึ่งเป็นความหมายของชื่อ “อิชิ-เมชิ” ด้วยเช่นกัน
ดร.รัฐวิไล คัดสรรวัตถุดิบต่างๆที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่นให้มีคุณภาพดี สูง และสดใหม่ตลอดเวลา ทั้งยังเน้นไปที่ความพิถีพิถันในการปรุงอาหาร พร้อมกับเชฟคนไทยที่มีประสบการณ์การทำอาหารญี่ปุ่นมามากกว่า 20 ปี เรียกได้ว่าถ้าลูกค้าเข้ามารับประทานอาหารที่ร้านนี้ ก็จะได้อารมณ์ไม่ต่างจากบินตรงไปแดนปลาดิบเลยทีเดียว
ในตอนนี้ ร้าน”อิชิ-เมชิ” เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบกะทัดรัด ด้วยขนาดเนื้อที่ 116 ตารางเมตร ซึ่งสามารถรองรับลูกค้าได้โดยประมาณ 60 คน ตรงตามคอนเซปต์ที่ ดร.รัฐวิไลได้วางไว้ เพราะต้องการให้มีบรรยากาศของการมารับประทานอาหารแบบครอบครัว กับเพื่อน หรือคนที่เรารัก สร้างความอบอุ่นให้อบอวลไปทั่วร้าน เช่นเดียวกับการตกแต่งที่ไม่เน้นสีฉูดฉาด แต่เป็นโทนบางๆและของตกแต่งที่เน้นไปทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
สถานที่และทำเลเป็นอีกเรื่องที่ทำให้ผู้ประกอบการหลายๆคนรู้สึกหนักใจ ดร.รัฐวิไล เองก็เช่นกัน โดยสถานที่ที่เจ้าของธุรกิจแนวคิดล้ำสมัยได้มองไว้ ต้องเป็นสถานที่ที่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก ถ้าให้ดีควรอยู่แถวๆพระราม 2 นอกจากนี้ ดร.รัฐวิไลยังตัดตัวเลือกนำร้านขึ้นห้างสรรพสินค้า เพราะเล็งเห็นว่าหากธุรกิจนี้ไปได้ไม่สวยเท่าที่ควร จะได้ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงจากหลายๆปัจจัยที่เกิดขึ้น สุดท้าย จึงไปบรรจบกับศูนย์การค้าแนวใหม่ The Paseo Park ซึ่งเน้นไปในทางร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างที่ดร.รัฐวิไล ต้องการ บางท่านอาจจะรู้สึกว่า การตั้งร้านเปิดใหม่ในดงร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อมาก่อนแล้ว นับเป็นความเสี่ยงอีกรูปแบบหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ทายาทธุรกิจหมื่นล้านคนนี้ได้มีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะกลุ่มลูกค้าที่มาเดินต้องเป็นคนที่ชื่นชอบอาหารสไตล์นี้อยู่แล้ว ในส่วนของการแข่งขัน ดร.รัฐวิไลถือว่าเป็นการพิสูจน์ของ “อิชิ-เมชิ” โดยเธอมั่นใจว่า ความแตกต่างที่ร้านของเธอมีสามารถสร้างกลุ่มลูกค้าที่แน่นหนาขึ้นมาได้ในเวลาไม่นาน
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ “อิชิ-เมชิ” แตกต่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าอื่นๆ คือเมนูที่มีให้เลือกกว่า 300 เมนู ทั้งยังมีเมนูที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นให้เข้ากับอาหารสไตล์ตะวันตก หรือเมนูพวกซุปที่หากินได้ยากอีกด้วย ด้วยราคานั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่เริ่มที่หลักร้อยจนถึงหลักพัน ตอบสนองความต้องการทุกรูปแบบของลูกค้า โดยดร.รัฐวิไล แอบแนะนำว่า เมนูโอมาคาเซะ (Omakase) เป็นเมนูที่พิเศษที่ลูกค้าหลากหลายท่านต่างก็ติดอกติดใจ
ในเรื่องของการตอบรับ เจ้าของธุรกิจสาวเผยว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะเริ่มเปิดได้เพียง 8 เดือนเศษๆเท่านั้น โดยดร.รัฐวิไลตั้งเป้าจะเปิดอีก 5 สาขา ในระยะเวลา 5 ปีถัดจากนี้ และหากธุรกิจเริ่มเข้าที่เข้าทาง จะมีการขายแฟรนไชส์แน่นอน แต่จะมีการควบคุมมาตรฐานที่เข้มงวดและครัวกลาง ในการผลิตเมนูหรือเตรียมวัตถุดิบต่างๆ เพื่อที่คุณภาพจะเท่าเทียมกันในทุกๆสาขา
สำหรับใครที่ต้องการพิสูจน์ความเป็นที่หนึ่งอย่างที่ชื่อร้าน “อิชิ-เมชิ” ได้ตั้งเอาไว้ ก็สามารถแวะเวียนไปได้ที่ เดอะ พาซิโอ พาร์ค สาขาถนนกาญจนาภิเษก ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. นั่นเอง
ข้อมูลติดต่อร้านอาหารญี่ปุ่น อิชิ-เมชิ
โทรศัพท์: 02-111-3904 และ 08-1787-1529
เฟซบุ๊ค: Ichi-Meshi อิจิ-เมชิ
สถานที่: Kanchana Phisek Road Sala Thammasop Bangkok 10170 Thailand
หมายเหตุ รูปภาพที่ใช้เป็นเพียงสื่อประกอบบทความเท่านั้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : Facebook Ichi-Meshi อิจิ-เมชิ