ลิเกเด็ก อาชีพสร้างรายได้ให้เด็กด้อยโอกาส “คลองขลุงบำรุงศิลป์”
ลิเก วัฒนธรรมไทยที่มามาตั้งแต่โบร่ำโบราณสิ่งที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดให้กับผู้คน สิ่งที่ช่วยให้เด็กๆ หรือผู้ที่ไม่มีอาชีพมีอาชีพได้ แต่ปัจจุบันนั้นลิเกเริ่มไม่ค่อยมีคนนิยมกันแล้วเพราะด้วยผู้คนยุคสมัยใหม่นั้นต่างหันมาดูหนัง ดูคอนเสิร์ตกันมากกว่า และด้วยปัจจุบันนั้นนอกจากลิเกจะความนิยมลดลงมากแล้วเด็กกำพร้ายังมีขึ้นมากอีก ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของ ลิเกเด็ก สิ่งทีช่วยสร้างรายได้ให้กับเด็กกำพร้าหรือเด็กที่ยากจนและยังเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
ถ้าพูดถึงลิเกเด็กที่กำลังเข้ามามีบทบาทอย่างมากในปัจจุบันก็ต้องลิเกเด็กวงนี้เลย วงลิเกเด็ก “คลองขลุงบำรุงศิลป์” จังหวัดกำแพงเพชร อาชีพลิเกเด็กนั้นจุดเริ่มต้นมากจาก “คุณสะเทื้อง นาคเมือง” หรือครูเผ ครูอาสาสอนลิเกเด็ก โดยอาศัยประสบการณ์ด้านการรำลิเกมาจากแม่ของตน และประสบการณ์จากการเป็นนางเอกลิเกมาก่อน ซึ่งเริ่มแรกครูเผนั้นจะสอนเด็ก ในโรงเรียนหลายแห่งในจังหวัดกำแพงเพชร ต่อมาก็ได้เจอกับเด็กกลุ่มหนึ่งที่เป็นเด็กกำพร้า ยากจนมาก ครูเผจึงตัดสินใจนำความรู้ลิเกมาสอนเด็กกลุ่มนี้เพื่อที่ได้จะช่วยเหลือเด็กอีกทางหนึ่ง เริ่มแรกครูเผก็ได้ไปบอกกับทางโรงเรียนก่อนเผื่อมีงานอะไรจะได้จ้างเด็กๆได้ หลังจากนั้นโรงเรียนก็ให้โอกาสเด็ก ให้ให้มาแสดงในในงานโรงเรียนก่อน พอผู้ปกครองที่ได้มาเห็นนั้นต่างก็ชื่นชอบกันใหญ่หลังจากโชว์ลิเกเด็กครั้งนั้น ผู้ปกครองก็เกิดการบอกแบบปากต่อปาก จ้างไปเล่นตามงานต่างๆ ทำให้เด็กมีรายได้มากขึ้น
เงินที่ได้มาจากผู้ใหญ่ที่ให้มานั้นก็จะนำมาแบ่งให้กับเด็กๆส่วนหนึ่งและครูเผก็ต้องนำเงินอีกส่วนหนึ่งไปซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม ซึ่งครูเผก็ทำอาชีพลิเกเด็กนี้มากว่า 10 ปีแล้ว เด็กที่ครูเผได้ให้ความช่วยเหลือเด็กยากไร้ มากกว่า 30 คน เด็กที่เข้ามาเล่นลิเกเด็กนั้นเกือบทั้งหมดเลยจะเป็นเด็กด้อยโอกาส เด็กกำพร้า เด็กที่ยากจน หรือแม้กระทั่งเด็กพิการก็ยังมี ในเมื่อเด็กนั้นไม่มีโอกาสได้มีชีวิตที่ดีเหมือนกับคนอื่นๆแล้วครูเผก็ยินดีที่จะช่วยเหลือกลุ่มนี้อยู่เสมอ โดยการที่เด็กเข้ามารำลิเกนั้นนอกจากเด็กๆจะได้รายได้แล้วเด็กก็ยังจะได้เรียนหนังสืออีกด้วยเพราะการทำงานนั้นก็จะมีแค่ช่วงเสาร์ อาทิตย์และปิดเทอม เท่านั้น
เด็กที่เข้ามานั้นส่วนใหญ่ก็จะมีอายุตั้งแต่ 7 ขวบขึ้นไป พอได้เรียนจนถึง ม.3 หรือ ม.6 ส่วนมากก็จะออกไปเรียนต่อเองหรือทำงานเองด้านครูเผก็จะมีเด็กยากไร้เข้ามาอยู่เรื่อยๆอยู่แล้ว หรือเด็กคนไหนที่เรียนจบแล้วไม่มีทางไปไหนจริงๆครูเผก็ยินดีที่จะให้กลับมาเล่นลิเกต่อ ในเรื่องของรายได้นั้นก็จะขึ้นอยู่กลับความสามารถของแต่ละคนที่จะแตกต่างกันไป ถ้าตัวเด่นๆบทหนักๆหน่อยก็จะได้รายได้มากหน่อยแต่ถ้ายังรำไม่ค่อยคล่องพอไปได้ก็จะได้น้อยกว่า เด็กๆนั้นสามารถมีรายได้ตั้งแต่ 200-400 บาทต่อครั้ง ส่วนในเรื่องของค่าใช้จ่ายอื่นๆนั้นครูเผก็จะแบ่งไว้ส่วนหนึ่งก่อน ซึ่งรวมๆแล้วเดือนหนึ่งเด็กๆก็จะได้รายได้ประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน รายได้นั้นไม่เยอะก็จริงแต่การทำงานก็แค่เสาร์อาทิตย์และปิดเทอมเท่านั้น
การรับงานลิเกเด็กนั้นครูเผก็จะคิดค่าจ้างแต่ละครั้งประมาณ25,000 บาท ถึง 30,000 บาท ซึ่งถ้าเป็นต่างจังหวัดไกลขอค่าน้ำมันรถเพิ่ม ครูเผนั้นบอกว่าในปัจจุบันนั้นลิเกเด็กนั้นได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นหลังจากที่ความนิยมลิเกนั้นลดลงอย่างมาก เพราะด้วยวัฒนธรรมใหม่ๆที่เข้ามานั้นมีบทบาทมากขึ้นอย่างการไปดูหนังหรือคอนเสิร์ตแทน จนหลายๆคนยุคใหม่นั้นลืมวัฒนธรรรมไทยไป ด้วยครูเผนั้นอยากให้เด็กใหม่ๆนั้นสนใจวัฒนธรรมมากขึ้นจึงสอนเด็กๆยากไร้เพื่อจะได้มีรายได้และเพื่อจะเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยอีกด้วย สำหรับทุกวันนี้ลิเกเด็กคลองขลุงบำรุงศิลป์เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะมีสื่อต่างๆ ที่ให้ความสนใจ และให้ความเมตตาแก่เด็กๆ ทางจังหวัดก็ได้ลงมาช่วยเหลือและให้การสนับสนุนอีก จึงทำให้ลิเกเด็กนั้นค่อนข้างเติบโตเลยทีเดียว
ข้อมูลการติดต่อลิเกเด็ก
โทร. 08-7943-0709
https://th-th.facebook.com/LikeDekKhlxngkhlungBarungsilp